ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นักท่องเที่ยวพบลูกพะยูนเพศผู้ อายุประมาณ 2-4 เดือน ซึ่งพลัดหลงจากแม่พะยูน และว่ายน้ำอยู่เพียงตัวเดียวในสภาพอ่อนแรง บริเวณเกาะปอดะ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ จากนั้นจึงได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามันตอนล่าง และประสานมายังโรงพยาบาลสัตว์น้ำ ซึ่งตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง จึงใช้ มหา’ลัยดังกล่าว เป็นสถานที่รับการดูแลรักษา โดยทีมสัตวแพทย์จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งหลายจังหวัด ได้ผลัดเปลี่ยนกันมาอนุบาลลูกพะยูนน้อยอย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมี นายทรงกลดสว่างวงศ์ ผวจ.ตรัง ลงพื้นที่ติดตามอาการโดยลูกพะยูนตัวนี้มีน้ำหนัก 13.8 กิโลกรัมมีความยาว 102 เซนติเมตร พบรอยบาดแผลบริเวณส่วนจมูก และหัวเล็กน้อยร่างกายค่อนข้างผอม บริเวณตาซ้ายขุ่น เสียงปอดมีความชื้นเล็กน้อย ลำไส้มีการบีบตัว อีกทั้งพะยูนยังมีความอยากกินอาหาร ทั้งนี้ มีทีมเจ้าหน้าที่ให้การดูแลตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีการป้อนนมผงสูตรพิเศษ และน้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง เพื่อชดเชยภาวการณ์ขาดน้ำ มีการตรวจวัดชีพจรและอัตราการเต้นของหัวใจวันละ 2-3 ครั้งพร้อมถอดบทเรียนจากการรักษา”น้องมาเรียม” ลูกพะยูนเพศเมีย อายุประมาณ 6 เดือนที่พลัดหลงกับแม่ในช่วงเดือนเมษายนปี 2562 มาปรับใช้ เพื่อให้ลูกพะยูนตัวนี้รอดชีวิตและสามารถปล่อยคืนสู่ทะเลได้ โดยต้องใช้เวลานานประมาณ 1 ปีครึ่ง ลูกพะยูนตัวนี้จึงจะหย่านมและสอนการกินหญ้าทะเลต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี