สองสามีวัยโจ๋บากหน้าเข้าเมืองหางานทำหวังหาเงินซื้อนมให้ลูก สุดท้ายโดนมิจฉมาชีพแสบหลอกทิ้งไว้ 4 วัน แถมเอาเงิน 400 บาทไปด้วย เปิดใจ"น้องมิ้นต์"เหยื่อสาวฝากถึงคนหลอก คำว่าไม่มีเงินทรมานแค่ไหน เผยครอบครัวเดียวอยู่ 7 คน ฐานะทางบ้านยากจน ทั้งบ้านมีเงินอยู่ 9 บาท ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วย
วันนี้ (21 ส.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี 2 สามีภรรยาชาวอำเภอแสง จ.อุดรธานี โพสต์หางานผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนมีผู้ใช้เฟซบุ๊กหนึ่งทักข้อความมาเสนองานให้ ขายเสื้อผ้า และขายลูกชิ้นทอดในเมืองอุดรธานี แต่ถูกปล่อยทิ้งให้รองานนาน 4 วัน แถมหลอกเอาเงิน 400 บาทไปด้วย สองสามีภรรยาวัย 19 และ 20 ปีต้องใช้สถานีรถไฟและโรงพยาบาลเป็นที่หลับนอนและต้องขอหยิบยืมเงินจากคนรู้จักมาประทังชีวิต ก่อนมีคนใจช่วยช่วยแจ้งตำรวจมาช่วย เหตุที่เกิดที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ถ.ทองใหญ่ เขตเทศบาลนครอุดรธานี เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่ง ที่บ้านนาฝาย ม.6 ต.นาดี อ.หนองแสง จ.อุดรธานี เพื่อติดตามความเป็นอยู่พร้อมให้การช่วยเหลือ 2 สามีและครอบครัว ซึ่งนายภาณุมาศ จิตวศินกุล เจ้าของเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วยได้นำแพมเพิส 2 แพค นมกล่อง 2 ลัง และอาหารเสริมสำหรับเด็กเล็ก มอบให้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เบื้องต้นระหว่างรอทางภาครัฐลงมาดูแลช่วยเหลือระยะยาว ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวพบว่าเป็นบ้านหลังเล็กๆ ติดถนนทางหลวงชนบท ล้อมรอบด้วยพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้าน มีน.ส.ปาริฉัตร หรือ น้องมิ้นต์ อาศัยอยู่กับคุณตากับคุณยายลูกชาววัย 11 เดือน และน้องอีก 2 คน ส่วนสามีออกไปรับจ้างทำงาน
น.ส.ปาริฉัตร อายุ 19 ปี เล่าว่า ที่ตนอยากได้งานเพราะที่บ้านตนฐานะยากจนอยากช่วยแบ่งเบาภาระตาที่เป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว อีกทั้งตนก็มีลูกเล็กที่กำลังโตจึงตัดสินใจไปหางานทำหวังจะหาเงินมาเลี้ยงดู แต่หลังจากถูกหลอกตอนนี้กลัวการหางานทำมากไม่กล้าที่จะออกไปเสี่ยงแบบนั้นอีก ฝากถึงคนที่หลอกหากดูข่าวนี้อยู่ ว่า “พวกพี่จะหลอกหนูทำไมหนูก็ไม่มีตังค์ พวกพี่ก็ไม่มีตังค์ พี่คงจะเข้าใจคำว่าไม่มีตังค์มันเป็นยังไง ขอให้พี่เอาตังค์มาคืนหนู” ตอนนี้ครอบครัวตนมีเงินติดตัวอยู่ 9 บาท
ด้านนางวันเพ็ญ อายุ 63 ปี ยายน้องมิ้นต์ เล่าว่า ตนมีลูก 3 คน เสียชีวิตไป 1 คน อีก 2 คนแยกย้ายไปมีครอบครัวที่อื่นแต่ก็ติดต่อแวะเวียนมาหาดูแลบ้าง บ้านหลังนี้อยู่ด้วยกัน 7 คน สำหรับน้องมิ้นต์เป็นหลานสาว โดยลูกสาวทิ้งไว้ให้ตายายดูแลและไปมีครอบครัวใหม่ ส่วนพ่อเขาเสียชีวิตไปตั้งแต่เด็ก ซึ่งตนก็เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กจนโต ก่อนจะรู้ว่าหลานถูกหลอก หลานบอกว่าได้งานขายเสื้อผ้าและจะไปทำงานในตัวเมืองอุดรธานี จากนั้นก็ของเงินตนติดตัวไปทำงาน ตนก็ไม่ได้ห้ามเพราะอยากให้หลานมีประสบการณ์ทำงานและหาเงินมาเลี้ยงลูกน้อย พอหลานไปก็โทรถามว่างานเป็นไงแต่หลานก็โกหกว่างานดีกำลังขายเสื้อผ้าตนก็ไม่คิดอะไรไม่คิดว่าหลานจะถูกหลอก มารู้อีกทีก็ตอนมีเจ้าหน้าที่ฯ ขับรถพามาส่งบ้าน พอรู้ว่าหลานสาวและหลานเขยถูกหลอกตนก็เสียความรู้ส่วนตาเขาก็โกรธมาก
"สำหรับรายได้หลักของครอบครัวเราคือได้มาจากสามีตนที่ออกไปรับจ้างรายวันๆละ 350 บาท และเงินภาครัฐดูแล คือ เบี้ยคนแก่และคนพิการแต่ละเดือนจะได้ราว 1,400 บาท ทั้งนี้หากหลานจะออกไปหาก็กลัวจะถูกหลอกอีก แต่หากมีใครที่จริงใจหรือให้งานก็อยากให้หลานสาวและหลานเขยได้งานจะได้มีเงินมาช่วยดูแลครอบครัว และที่สำคัญมีเงินมาซื้อนมให้ลูกน้อยวัย 11 เดือนจะขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ" คุณยาย กล่าวตอนท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี