อุดรธานีสุดช็อคเจอล็อตมโหฬาร พบผงยาอีบรรจุในกระเป๋าซุกท้ายกระบะ ลานจอดอพาร์ทเม้นท์กลางเมืองอุดร ตร.เข้าตรวจสอบพบเป็นผงยาอี จำนวน39 กก. คาดนำมาส่งรอคนมารับเตรียมนำไปอัดเม็ดขาย หากนำไปอัดเม็ดผลิตเป็นยาอีได้มีมูลค่าถึง65ล้าน

23 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 07.30 น. ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 จ.อุดรธานี รับแจ้งจากแม่บ้านอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี แจ้งว่ามีกระเป๋าใบขนาดใหญ่คาดภายในมียาเสพติด ไม่รู้ใครเอามาทิ้งไว้ ต่อมา พ.ต.อ.อนุศักดิ์ ศักดาวัชรานนท์ รอง ผบก.จ.อุดรธานี,พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วยตำรวจสายตรวจ,ชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบทันที โดยกระเป๋าคล้ายกระเป๋าสายรุ้งใบใหญ่สีเทาดำมีลวดลาย รปภ.ได้นำมาวางไว้รอเจ้าหน้าที่ฯที่ล็อบบี้แล้ว

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดดูภายในกระเป๋าดังกล่าวพบว่า สิ่งของด้านในมีลักษณะเป็นก้อนหรือห่อ คล้ายห่อยาเสพติดถูกพันด้วยเทปสีเหลือง ตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจคิดว่าคงเป็นยาเสพติดแน่นอน อาจจะเป็นยาบ้าหรือยาไอซ์จึงได้แกะดูพบว่าไม่ใช่ยาบ้า แต่เป็นผงสีเหลืองไม่มีกลิ่น ตำรวจจึงประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานอุดรธานีตรวจสอบร่วมด้วย

จากการตรวจโดยใช้น้ำยาตรวจหาสารเสพติดพบว่ามีส่วนผสมของตัวยาเสพติดหลายตัว เจ้าหน้าที่ทุกคนถึงกับช็อคพบว่าเป็นผงยาอีและเป็นผงยาอีล็อตมโหฬารเลยทีเดียว จึงได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดจำนวน 39 กิโลกรัม มูลค่าถึง 65 ล้านบาท และจะได้เร่งสืบสวนหาบุคคลที่นำยาเสพติดมารายนี้ต่อไป

น.ส.แจ๊ค อายุ 44 ปี แม่บ้านอพาร์ทเม้นท์ผลัดเช้า เล่าว่า ก่อนหน้านี้แม่บ้านผลัดดึกรับแจ้งจากลูกค้าว่ามีใครไม่รู้เอาถุงอะไรไม่รู้วางไว้ที่ท้ายกระบะ ขอให้เขาช่วยยกออก ต่อมา รปภ.จึงไปยกเอามาวางไว้ที่ล็อบบี้ ตอนนั้นยังไม่เปิดดูทันที ตอนแรกคิดว่าจะมีคนมาถามเอาแต่แม่บ้านผลัดดึกรอจนเลิกงานก็ไม่มีใครมาถาม พอตนมาทำงานเช้าวันนี้ จึงเปิดดูก็พบว่ามีห่อลักษณะคล้ายเป็นห่อพันด้วยเทปที่เหลืองคิดว่าเป็นยาเสพติดแน่ เพราะห่อสีเหลืองแบบนี้เห็นแต่ในข่าว จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

ทางด้าน พ.ต.อ.อนุศักดิ์ ศักดาวัชรานนท์ รอง ผบก.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งจากแม่บ้านฯ ทางเจ้าหน้าที่ตร.ได้เดินทางมาตรวจสอบทันที เมื่อเปิดออกดูให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานฯ ตรวจสอบพบว่าเป็นผงยาอี ซึ่งจากการใช้ชุดน้ำยาตรวจยาเสพติดเบื้องต้นเป็นผงยาอีรอเตรียมส่งไปอัดเม็ด จากการตรวจนับแล้วนับได้ 39 ห่อๆ ละ 1 กิโลกรัม โดยยาเสพติดหากไปเอาไปปั๊มเป็นเม็ดแล้วจะได้ 3,000 เม็ดต่อ 1 กิโลกรัม ซึ่งท้องตลาดนักค้ายาตอนนั้นยาอีขายอยู่เม็ดละ 500-700 บาท และหากคิดเป็นเงินประมาณจะทำเงินให้นักค้าได้ราว 65 ล้านบาท

อย่างไรก็ดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งยาเสพติดจำนวนนี้น่าจะเอามาจากประเทศเพื่อนบ้าน และการตรวจสอบวงจรปิดฯ เบื้องต้นพบว่าชายชายต้องสงสัยขับรถกระบะตอนเดียวมีคอกมาจอดข้างอพาร์ทเม้นท์ เข้ามาพักช่วงเวลาบ่าย 16.00 น. และออกตอน 21.00 น.  ซึ่งตร.จะได้เร่งติดตามชายคนขับรถมาตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง.

012