‘กรมส่งเสริมเกษตร’จับมือ GIZ ชูกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ปรับผังภูมินิเวศต่อยอดเกษตรกรรมยั่งยืน

‘กรมส่งเสริมเกษตร’จับมือ GIZ ชูกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ปรับผังภูมินิเวศต่อยอดเกษตรกรรมยั่งยืน

วันพฤหัสบดี ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2567, 12.58 น.

‘กรมส่งเสริมเกษตร’จับมือ GIZ ชูกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ปรับผังภูมินิเวศต่อยอดเกษตรกรรมยั่งยืน

29 สิงหาคม 2567 นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่ากรมส่งเสริมการเกษตร และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน หรือ GIZ ได้วางเป้าหมายร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้ให้สัตยาบันเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงปารีส มีเป้าหมายที่จะบรรลุการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยแผนการมีส่วนร่วมได้กำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ไว้ที่ร้อยละ 20-25 ภายในปี พ.ศ. 2573 ซึ่งภาคเกษตรกรรมถูกกำหนดให้เป็นภาคส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ


ทั้งนี้จากความร่วมมือที่เกิดขึ้นกรมส่งเสริมการเกษตรได้วางแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยวิธีการเกษตรกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเกษตรกรรมเชิงฟื้นฟู (Climate Smart and Regenerative Agriculture) ตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีหมุนเวียนและเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการปรับตัวและบรรเทาผลกระทบจากต้นทุนต่าง ๆ เช่น ต้นทุนเอกชน ที่เกิดขึ้นกับผู้ผลิตจากการใช้ปัจจัยการผลิตต่างๆ ในการผลิต และต้นทุนสังคม ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับสังคมจากการผลิตสินค้านั้น ๆ เช่น การปล่อยควันพิษ การปล่อยน้ำเสีย เป็นต้น ตลอดจนการสร้างและพัฒนาระบบอาหารให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพและโภชนาการของมนุษย์ ลดการทำลายและลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างการเติบโตอย่างมีส่วนร่วม (Inclusive Growth) เป็นการเติบโตที่ก่อให้เกิดการแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน และสร้างโอกาสอย่างเสมอภาคกันระหว่างคนทุกกลุ่มในสังคมที่ดีขึ้น การสร้างผลประโยชน์ร่วมกันจะรับประกันให้เกิดการกระจายตัวของผลประโยชน์จากการเติบโต และการสร้างโอกาสอย่างเสมอภาค สร้างรายได้สุทธิที่พอเพียงกับรายจ่ายครัวเรือนตลอดทั้งปี และมีสัดส่วนการออมการลงทุนที่สร้างความมั่นคงด้านการเงินครัวเรือน ซึ่งจะทำให้สามารถยกระดับมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศได้

นอกจากนี้กรมส่งเสริมการเกษตรมีแนวทางการสร้างให้บุคลากรของกรมส่งเสริมการเกษตรให้มีทักษะสำคัญด้าน Growth mindset and Anti fragile, Learning Skills, Finance Skills, Digital Skills, ESG Literacy เพื่อเปลี่ยนกระบวนทัศน์ที่สามารถแก้ไขปัญหา ก้าวข้ามความท้าทายใหม่ๆที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต โดยกำหนดเป้าหมายความสำเร็จร่วมกันที่สามารถวัดผลได้ ประกอบด้วย เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการมีรายได้ประจำที่มั่นคง มีผลผลิตเกษตรอย่างต่อเนื่อง สร้างผลตอบแทนจากสินทรัพย์จากการออมและการลงทุนที่เหมาะสมต่อเนื่อง ผู้บริโภคมีกำลังซื้อและมีสุขภาวะที่ดีจากการบริโภคสินค้าเกษตรและอาหาร ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งผลต่อความสมดุลของระบบนิเวศน์ เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดี กระจายความมั่งคั่งสู่ทุกเพศทุกวัยทุกคน

การดำรงอยู่ของประเพณีวัฒนธรรม สิทธิมนุษยชน สุขภาวะ และยกระดับรายได้ภาครัฐเพื่อการพัฒนาระบบอาหารจากฐานภาษีที่เพิ่มขึ้นปัจจุบันกรมส่งเสริมการเกษตรได้นำร่องเพื่อสร้างต้นแบบการขับเคลื่อนโครงการระบบการผลิตข้าวยั่งยืนแบบองค์รวม (Inclusive Sustainable Rice Landscape in Thailand : ISRL) ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และจังหวัดอุบลราชธานีซึ่ง นอกจากการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร สร้างความเข้มแข็งกระบวนการมีส่วนร่วมในชุมชนเพื่อการเกษตรและความสมบูรณ์ของสิ่งแวดล้อม กลไกหลักในการขับเคลื่อนคือ “กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร” ด้วยการเพิ่มบทบาทสตรีในภาคการเกษตรให้เด่นชัดขึ้น

ทั้งนี้ เชื่อมโยงกิจกรรมตามบทบาทภารกิจของกรมส่งเสริมการเกษตร เช่น การแปรรูป การพัฒนากลุ่มแม่บ้านเกษตรกรผ่านการอบรมให้ความรู้ และพัฒนาทักษะการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อสร้างอาชีพ เป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ครัวเรือนเกษตรกร การทำเกษตรแบบผสมผสานผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ของโครงการ เช่น การปลูกพืชหมุนเวียน ส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อยหลังการทำนา เช่น มันฝรั่ง ข้าวโพด ถั่วแระ ถั่วลิสง และพืชผัก การสร้างหมอพืชชุมชน เพื่อการจัดการพืชหมุนเวียนร่วมกับนาข้าวเชิงภูมิทัศน์อย่างยั่งยืน ตลอดจนส่งเสริมการหยุดเผาเศษวัสดุการเกษตรที่เหลือทิ้งในแปลงนาหรือแปลงพืชไร่อื่น เพื่อลดมลพิษและการทำลายระบบนิเวศ ส่งเสริมการทำนาขั้นบันได ด้วยการขุดปรับพื้นที่สภาพไร่ ซึ่งเคยใช้ปลูกข้าวไร่หรือพืชไร่อื่นๆ ปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่นา ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการลดปัญหาการทำไร่เลื่อนลอย ช่วยเพิ่มผลผลิตข้าว และสร้างความมั่นคงทางอาหารบนพื้นที่สูง ส่งเสริมการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดิน การจัดการดินและปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ปุ๋ยตามความต้องการของพืช การจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสานแบบองค์รวม ส่งเสริมการใช้สารชีวภัณฑ์ เพื่อควบคุมการระบาดของแมลงศัตรูพืชในนา เป็นต้น

โดยจะร่วมมือกับ GIZ ร่วมมือกับทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ร่วมกันพัฒนากระบวนการผลิตในพื้นที่กว่า 1 ล้านไร่ พื้นที่ต้องทำการฟื้นฟูร่วมกับองค์ประกอบของการปลูกป่า และพืชหมุนเวียนได้มากกว่า 187,500 ไร่ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการเกษตรไทยได้มากถึง 3.2 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และลดการใช้สารเคมีในกระบวนการเกษตรได้มากถึง 100 เมตริกตันภายในปี พ.ศ. 2570

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top