ปัดฝุ่นแผนแก้น้ำท่วมยุค‘ปู’
เล็งใช้งบ2แสนล.
‘ภูมิธรรม’ขออย่าคัดค้าน
หวังลดอุทกภัยภาคเหนือ
ปภ.สั่งปักธงเหลืองด่วน
เตือนภัย‘พิจิตร-อ่างทอง’
สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ยังน่าห่วง จ.พิจิตร ปักธงเหลืองเตรียมรับน้ำท่วม ส่วน จ.อ่างทอง แม่น้ำน้อยล้นตลิ่งเอ่อเข้าท่วมเป็นวงกว้าง ชาวบ้านบอกรู้สึกเบื่อหน่ายที่ถูกน้ำท่วมทุกปี“ภูมิธรรม”นำคณะลงพื้นที่ จ.สุโขทัย เผยเตรียมฟื้นแผนทำทางน้ำ 2 แสนล้าน แก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากสุโขทัย ให้ ครม. พิจารณา 3 กันยายนนี้
เมื่อวันที่ 31สิงหาคม 2567 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาล ต.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ปักธงเหลืองบริเวณจุดวัดน้ำหลังศาลสมเด็จพระเจ้าเสือ หน้าที่ว่าการอำเภอโพธิ์ประทับช้าง เพื่อเป็นสัญลักษณ์แจ้งเตือนภัยน้ำท่วมแล้ว เนื่องจากน้ำจากแม่น้ำยมตอนบน ไหลบ่าลงมาจากจังหวัดแพร่ สุโขทัย พิษณุโลก โดยแผนการรับน้ำของ อ.โพธิ์ประทับช้าง เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องคอยติดตามระดับน้ำแม่น้ำยมที่ไหลผ่าน ต.วังจิก ต.โพธิ์ประทับช้าง และ ต.ไผ่ท่าโพ ความยาวกว่า 30 กิโล เมตร พบว่าขณะนี้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นรวดเร็ววันละ 20-30 เซนติเมตร และสิ่งที่น่าห่วงคือ พบว่านาข้าวในพื้นที่ดอน ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวอีกกว่า 3,000 ไร่
ต.บางจัก จ.อ่างทอง ต้องใช้เรือ
ส่วนที่ จ.อ่างทอง ชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำน้อยใน ต.บางจัก อ.วิเศษชัยชาญ ต้องใช้เรือเป็นยานพาหนะเข้าออกจากบ้าน หลังน้ำจากแม่น้ำน้อยล้นตลิ่งเอ่อเข้าท่วมเป็นวงกว้าง บางจุดระดับน้ำสูง 50 ซม. และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เทศบาล ต.บางจัก เร่งนำเรือพลาสติก ออกแจกจ่ายให้ชาวบ้านใช้สัญจรเข้า-ออก บางส่วนนำไม้และวัสดุมาทำเป็นสะพานชั่วคราว พร้อมเตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง โดยชาวบ้านบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกเบื่อหน่ายที่ถูกน้ำท่วมทุกปี แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
ทั้งนี้ เขื่อนเจ้าพระยา ยังคงเพิ่มการระบายน้ำลงสู้ท้ายเขื่อน ล่าสุดระบายน้ำอยู่ที่ 1,349 ลบ.เมตร/วินาที และขณะนี้ จ.อ่างทอง ประกาศเตือนพื้นที่ อ.ไชโย อ.เมือง อ.ป่าโมก อ.โพธิ์ทอง อ.วิเศษชัยชาญ เตรียมพร้อมรับมือกับระดับน้ำที่เพิ่มสูง
แม่น้ำน้อย สาขาแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดอ่างทอง ได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมตลิ่งบริเวณที่ลาบลุ่ม นอกคันกั้นน้ำ บ้านสามเรือนหมู่ 9 ตำบลบางจักร อำเภอวิเศษชัยชาญ หลังเขื่อนเจ้าพระยาระบายลงสู่ท้ายเขื่อน 1,349 ลบ.ม./วินาที
แม่น้ำน้อยเอ่อล้นท่วมบ้านเรือน
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์เขื่อนเจ้าพระยาระบายลงสู่ท้ายเขื่อน 1,349 ลบ.ม./วินาที ส่งผลแม่น้ำน้อย สาขาแม่น้ำเจ้าพระยา ได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมตลิ่งบริเวณที่ลาบลุ่ม นอกคันกั้นน้ำ พื้นที่บ้านสามเรือน หมู่ 9 ตำบลบางจัก อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง แล้ว โดยน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนสูงประมาณ 30-90 เชนติเมตร โดยบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำน้อยส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ยกไต้ถุนสูง ซึ่งชาวบ้านได้เร่งเก็บข้าวของขึ้นไว้ที่สูงรวมทั้งได้สร้างสะพานไว้เดินทางเข้าออกบ้านไปยังถนน ส่วนบ้านประชาชนที่อยู่ไกลออกไปก็จะใช้เรือพายมายังถนนเพื่อใช้เดินทาง ชาวบ้านได้เก็บสิ่งของขึ้นไว้ที่สูง เตรียมรับสถานการณ์แล้ว
“ภูมิธรรม”นำทีมลงพื้นที่สุโขทัย
วันเดียวกัน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี พร้อมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ และคณะ เดินทางไปจังหวัดสุโขทัยประชุมแก้ปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เดินทางไปที่ห้องประชุมศรีนคร ชั้น 3 ศาลากลางจ.สุโขทัย ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข นายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยรอต้อนรับ
โดยนายสุชาติ รายงานสรุปสถานการณ์ว่า จากสถานการณ์น้ำไหลเข้าท่วมริมพื้นที่ฝั่งแม่น้ำยม และคลองยมน่าน เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจำนวน 7 อำเภอ 41 ตำบล 163 หมู่บ้าน 7,195 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 37,227 ไร่ ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สุโขทัยได้บูรณาการทุกภาคส่วนเข้าให้ความช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบอุทกภัยอย่างเต็มกำลัง โดยได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์และศูนย์ประสานงานความช่วยเหลือระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อประสานงานและให้ความช่วยเหลือประชาชน แจ้งเตือนประชาชนรับทราบข้อมูลข่าวสารทุกช่องทางเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารตลอดจนแนวทางการปฎิบัติเพื่อเกิดความปลอดภัย
มองหาช่องทางป้องกันท่วมซ้ำซาก
ด้าน นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้ที่สุโขทัยทุกคนเฝ้าระวังน้ำท่วม สืบเนื่องมาจากน้ำท่วมพื้นที่ภาคเหนือตอนบนในจังหวัดเชียงราย น่าน แพร่ พะเยา ซึ่งส่วนกลางมีความห่วงใย ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเมื่อวานนี้นางสาวแพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาที่นี่ เพราะมีความห่วงใยมาก โดยในวันนี้ ตนเองได้มาเยี่ยมในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนเพราะค่อนข้างมีความห่วงใย เนื่องจากจังหวัดสุโขทัย เป็นพื้นที่ราบแบน รับน้ำ จากพื้นที่ต่าง ๆ และที่สำคัญแม่น้ำปิง วัง น่าน มีจุดรับน้ำ แต่แม่น้ำยม ไม่มี ตรงนี้จะต้องมาทบทวนเพื่อหาช่องทางดูดซับน้ำ ก่อนที่น้ำจะทะลักออกมา โดยอาจต้องมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเคร่งครัดจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก และประชาชนได้รับผลกระทบรวมถึงรามไปยังจังหวัดอื่น ๆ ด้วย
ปัดฝุ่นนำแผนงาน”ปู”กลับมาใช้
จากนั้น นายภูมิธรรม ได้กล่าวกับ ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ก่อนมอบถุงยังชีพจำนวน 200 ชุด ว่า วันนี้เราจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาแก้ไขทางเดินน้ำเป็นวาระแห่งชาติ งบประมาณ 2 แสนล้านบาท ซึ่งแผนนี้เคยมีในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่เนื่องจากถูกรัฐประหารไปก่อน โดยเราจะนำกลับมาทบทวน เพราะเพื่อให้แม่น้ำยม มีพื้นที่รับน้ำเหมือนแม่น้ำ ปิง วัง น่าน ถ้าพี่น้องเห็นด้วยเราจะดำเนินการ ส่วนคนที่ค้านขอให้มาคุยกับพี่น้องที่กำลังโดนน้ำท่วม เพราะเสียงของเราที่อยู่ตามลุ่มน้ำประสบภัยมาตลอดชีวิต เป็นเสียงที่มีความหมาย
ต้องมีแผนป้องกันระยะยาว
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอว่า ควรมีแผนระยะยาว ในการแก้ไขปัญหาแม่น้ำยม ตั้งแต่จังหวัดพะเยา จนถึงจังหวัดสุโขทัยที่มีน้ำท่วมมาตลอด ตนเองได้ทำงานร่วมกับสมศักดิ์ เทพสุทิน มาโดยตลอด และเห็นว่ามีแต่การตั้งรับ ควรหามาตรการป้องกันมากกว่านี้
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า เกิดมาเห็นน้ำท่วมสุโขทัยมาตลอด ไม่มีปีไหนไม่ท่วม แม่น้ำยมที่ อ.ศรีสัชนาลัย รับน้ำได้ 1,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่เมื่อมาถึงสุโขทัยรับได้ 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทั้งนี้ ต้องมีเขื่อนใหญ่ๆ และเลิกแก้ปัญหาแบบวันต่อวัน หากสร้างเขื่อนใหญ่ไม่ได้ ต้องสร้างเขื่อนเรียงหิน หรือเขื่อนคอนกรีตจุดต่างๆ รวม 9,640 เมตร มูลค่า 900 กว่าล้านบาท จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเรื่องนี้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวว่า แผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ก็มีแต่เรื่องบรรเทา ไม่มีเรื่องป้องกัน แต่ความเป็นจริงกระทรวงมหาดไทย ถูกกดดันเรื่องเขื่อนและฝาย แต่ไม่มีเจ้าภาพ โยนกันไปมาจึงไม่เรียบร้อย ดังนั้นควรเป็นงบกลาง รัฐบาลควรมีแผนในเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม ควรผลักดันเป็นวาระแห่งชาติ
เตรียมฟื้นแผนทำทางน้ำ2แสนล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุมหน่วยบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ที่ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดสุโขทัย เสร็จสิ้น นายภูมิธรรม พร้อมด้วย นายอนุทิน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้เดินลงมาที่บริเวณด้านหลังของศาลากลางฯ เพื่อมาดูจุดที่มีการตั้งโรงครัวของศูนย์ประสานการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดสุโขทัย ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และโรงครัวพระราชทาน ที่ใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดทำอาหาร แล้วนำไปแจกจ่ายประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยจะมีการทำอาหารตลอดทั้งวัน เพื่อนำไปแจกจ่ายประชาชน ทั้งเช้า กลางวัน และเย็น
จากนั้น นายภูมิธรรม ได้พบปะกับประชาชน 200 คน ที่ศาลาอเนกประสงค์ และมอบถุงยังชีพ พร้อมกล่าวกับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ก่อนมอบถุงยังชีพจำนวน 200 ชุด ว่า เราจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาแก้ไขทางเดินน้ำเป็นวาระแห่งชาติ งบประมาณ 2 แสนล้านบาท ซึ่งแผนนี้เคยมีในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่เนื่องจากถูกรัฐประหารไปก่อน โดยเราจะนำกลับมาทบทวน เพื่อให้แม่น้ำยมมีพื้นที่รับน้ำเหมือนแม่น้ำปิง วัง น่าน ถ้าพี่น้องเห็นด้วย เราจะดำเนินการ ส่วนคนที่ค้าน ขอให้มาคุยกับพี่น้องที่กำลังถูกน้ำท่วม เพราะเสียงของเราที่อยู่ตามลุ่มน้ำประสบภัยมาตลอดชีวิต เป็นเสียงที่มีความหมาย
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะประสานกับกองทัพ บริษัทก่อสร้าง ให้เด็กอาชีวะ และเทคนิคต่างๆ มาช่วยแก้ไขดำเนินการให้เร็วที่สุด โดยจะเสนอเข้าที่ประชุม ครม. ในวันอังคารที่ 3 ก.ย.นี้
กรมอุตุฯ รายงานฝนหนักบางแห่ง
ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี