จับแม่ค้าหัวหมอ

ตุ๋นเหยื่อลงทุน

ซื้อเสื้อผ้าส่งขาย

สูญ1.2ล้านบาท

สืบสวนนครบาล บุกรวบแม่ค้าออนไลน์ ตุ๋นผู้เสียหายร่วมลงทุนซื้อเสื้อผ้าไปขาย อ้างรายได้ดี มีสินค้าราคาต่ำกว่าท้องตลาด แถมช่วยหาลูกค้าให้ เหยื่อหลงเชื่อสูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท เร่งสอบขยายผล

เมื่อวันที่ 1กันยายน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.มอบหมายให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.นำกำลังร่วมกับนักเรียนหลักสูตรการสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 115เข้าจับกุม น.ส.ดาริกา เจริญกุล อายุ 39 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.บ้านทาม อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ข้อหาฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนจับกุมได้ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซอยสุขุมวิท 19 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.

สำหรับการจับกุมดังกล่าวเนื่องจากเมื่อประมาณเดือนมกราคม 2565น.ส.สุพรรณี ขาวคง ผู้เสียหาย ได้ซื้อสินค้าประเภทเครื่องสำอางแบรนด์เนม จากหน้าเพจฝากขายอินสตาแกรม (IG) ซึ่ง น.ส.ดาริกา เติมตะนันทน์(นุ้ย) ผู้ต้องหา ฝากขายและ น.ส.สุพรรณีรู้จักกับทางผู้ต้องหาเพราะเห็นจากหน้าเพจฝากขายอินสตาแกรม (IG) ของ beauticity.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ขายสินค้าของผู้ต้องหาโดยที่ น.ส.สุพรรณีแอดไลน์หาส่วนตัว เนื่องจากเห็นว่าผู้ต้องหาขายสินค้าราคาถูกกว่าหน้าร้านปกติ จนมีการติดต่อซื้อสินค้ากันจริงแต่ในปริมาณน้อย มูลค่าหลักร้อยถึงหลักพันบาท ผ่านแอปพลิเคชั่น

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ทางผู้ต้องหา ได้พยายามพูดชักชวน น.ส.สุพรรณี ให้ลงทุนซื้อสินค้ามาขายเอง โดยเสนอว่ามีสินค้าจำนวนมากเป็นของพี่สาว ซึ่งจะนำมาขายให้ น.ส.สุพรรณี พร้อมกับจะช่วยหาลูกค้าให้ ซึ่ง น.ส.สุพรรณี เห็นว่าน่าจะขายสินค้าได้จริง จึงตกลงซื้อสินค้ามาขาย และเริ่มซื้อในหลักหมื่นบาท มีการส่งสินค้าตามที่ตกลงกัน จากนั้นผู้ต้องหาได้ชวนให้ซื้อสินค้าลอตใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยใช้อุบายต่างๆ หลอกลวงให้ น.ส.สุพรรณี หลงเชื่อ สั่งซื้อสินค้าเป็นเงินทั้งสิ้น 1,809,590 บาท และผู้ต้องหาได้นำสินค้ามาส่งให้ผู้กล่าวหาคิดเป็นเงิน 572,930 บาท แต่ยังไม่ส่งสินค้าให้อีกส่วนหนึ่งซึ่งคิดเป็นเงิน 1,236,660บาท เมื่อมีการทวงถามกลับไม่มีการตอบกลับใดๆ ทำให้ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม กระทั่งมีการรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ ต่อมาทางชุดสืบสวน บก.สส.บช.น.จึงติดตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้ไว้ได้

จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงทำบันทึกการจับกุมแล้วคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสน.โคกคราม รับไว้ดำเนินคดีและขยายผลการจับกุมต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ขอเตือนประชาชนถึงการซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ที่เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของใครหลายคน เพราะสะดวก ประหยัดเวลา แต่ช่องทางเหล่านี้จะมีกลุ่มมิจฉาชีพ แฝงตัวเข้ามาด้วย ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ จึงควรพิจารณาตามวิธีการ ดังนี้ ตรวจสอบและเปรียบเทียบราคาสินค้าจากหลายๆร้าน เลือกซื้อของจาก Official store หรือแพลตฟอร์มที่ไว้ใจได้ เก็บหลักฐานการโอนเงินไว้เสมอ ทำลายข้อมูลส่วนตัวบนกล่องพัสดุ ตรวจสอบบัญชีผู้โอน สืบประวัติของผู้ขายเบื้องต้น โดยนำเลขที่บัญชีหรือชื่อของผู้ขายไปค้นหาบน Google เพื่อที่หาประวัติว่าเคยมีคนโพสต์เกี่ยวกับการฉ้อโกงในการซื้อของหรือไม่ โอกาสที่เราจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพจะเกิดขึ้นน้อยมากหากเราใช้ “สติ”