ตำรวจออกหมายจับ ก่อนคุมตัว ส.ต.ต.หื่นส่งศาล พร้อมให้ออกจากราชการไว้ก่อน  

วันที่ 12 กันยายน 2567 เวลา 14.00 น. ที่ สภ.ธัญบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว ส.ต.ต.สถิระ สีดาคุณ ผู้บังคับหมู่งานสอบสวน สภ.ธัญบุรี  ไปส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 จ.สระบุรี ตามหมายจับ ศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 721/2567 ลงวันที่ 12 กันยายน 2567 ฐานความผิด เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , เป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือกระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ , ข่มขืนกระทำชำเราโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลัง ประทุษร้าย โดยอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ , พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้ายใช้อำนาจครอบงำผิดครองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด และข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตราย ต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่เสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั่นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ซึ่งขณะที่เจ้าหนา้ที่ตำรวจควบคุมตัว ส.ต.ต.ออกไปขึ้นรถนั้น เจ้าตัวสวมเเมส ใส่หมวกและไม่ได้มีการตอบคำถามของสื่อมวลชลแต่อย่างใด้ ซึ่งหลังจากขึ้นรถเจ้าหนา้ที่ตำรวจได้พาตัวออกไปทันที 

จากนั้น ทางตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ได้ออกหนังสือ แจ้งความคืบหน้ากรณีข้าราชการตำรวจสถานีตำรวจฎธภูธธรธัญบุรี ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับเงิน และล่วงละเมิดทางเพศผู้เสียหาย ตามข่าวที่ปรากฏในสื่อต่างๆ กรณีข้าราชการตำรวจประจำสถานีตำรวจภูธภูรธัญบุรี เรียกรับเงิบเงิน และล่วงละเบิดทางเพศผู้เสียหาย ต่อมาทางผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวรฎจภูธรธัญบุรี ให้ดำเนินคดี สิบตำรวจตรี ผู้ต้องหา ตามคดีอาญาที่ 725/2567 ลงวันที่ 9 กันยายน 2567 นั้น

ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ขอแจ้งความคืบหน้าให้ทราบว่า พนักงานสอบสวน สอบสวนรวบรวม พยานหลักฐาน และขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับ ต่อมาศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา ตามหมายจับ ศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 721/2567 ลงวันที่ 12 กันยายน 2567 ฐานความผิด เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , เป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือกระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ , ข่มขืนกระทำชำเราโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลัง ประทุษร้าย โดยอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ , พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้ายใช้อำนาจครอบงำผิดครองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด และข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตราย ต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่เสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั่นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

และต่อมาในวันนี้ (12 กันยายน 2567) ได้จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป ส่วนการดำเนินการทางวินัย ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ได้มีคำสั่งที่ 2222/2567 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการวินัย และมีคำสั่งที่ 223/2567 ให้ สิบตำรวจตรี ออกจากราชการไว้ก่อน เนื่องจากถูกล่าวหาว่ากระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรงหรือต้องหาว่ากระทำ ความผิดอาญา และเห็นว่าการสอบสวนทางวินัยจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ม.131 ประกอบ กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. 2547 ทั้งนี้ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี จะควบคุม กำกับ ดูแล การสอบสวนให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่มีการช่วยเหลือผู้กระทำผิดกฎหมาย เพื่อความเชื่อมันศรัทธาจากประชาชนหากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'ส.ต.ต'ปัดเรียกเงินหมื่น ไม่ได้บังคับหลับนอน ส่วนคู่กรณีเข้าเป็นพยานช่วยน้องนักศึกษา