"อนุทิน"บินด่วนลงพื้นที่หนองคาย รุดเยี่ยมประชาชนประสบภัยน้ำโขงล้นตลิ่ง มอบถุงยังชีพ เห็นชาวบ้านยังยิ้มได้ก็อุ่นใจ นึกกว่าจะถูกตบกบาลก่อนเสียแล้ว เผยสาเหตุหลักจากน้ำฝนตอนบนของประเทศไหลบ่า รัฐบาลพร้อมเยียวยา ลั่นทุกคนต้องมีกินครบ 3 มื้อ ขอให้อดทนแล้วน้ำจะผ่านไปสถานการณ์จะดีขึ้น เผยสถานการณ์ล่าสุดกระทบ 5 อำเภอ บ้านเรือนเสียหาย 2,850 หลังคาเรือน พื้นที่เกษตรสูญ 33,450ไร่ ไร้บาดเจ็บ-เสียชีวิต ขณะที่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มสูงไปถึง 14 เมตร

บ่ายวันนี้ (14 ก.ย.67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากากระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายราชันย์ ซุ้นหั้ว รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะได้ลงพื้นที่ตรวจราชการและเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดหนองคาย โดยมีนายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นำส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรายงานสถานการณ์

ทั้งนี้ นายอนุทิน ได้รับฟังสถานการณ์ที่โครงการชลประทานหนองคาย จากนั้นไปลงเรือไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนที่บ้านเวียงคุก ต.เวียงคุก อ.เมืองหนองคาย มอบถุงยังชีพ 350 ถุง จากนั้นไปมอบถุงยังชีพ 450 ถุง แก่ประชาชนที่ชุมชนวัดธาตุ พระธาตุหล้าหนอง เขตเทศบาลเมืองหนองคาย

นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้มาพบกับประชาชนเพื่อให้กำลังใจ พวกเรามาจากกรุงเทพฯได้ทราบว่ามีสถานการณ์น้ำท่วมซึ่งในส่วนของตนต้องขออภัยที่ต้องให้ประชาชนลำบาก แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะพยายามดูแลและบรรเทาความเดือดร้อนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยังดีใจที่ลงมาพบประชาชนยังเห็นขวัญ กำลังใจของทุกคน ตนรู้สึกตื้นตันที่ประชาชนยังยิ้มให้ ถือว่าเป็นบุญวาสนา นึกว่าลงมาจะถูกตบกบาลคนละทีเสียแล้ว ช่วงนี้เนื่องจากมีภัยพิบัติจากเชียงรายเป็นต้นมา ทำให้น้ำไหลลงมาแม่น้ำโขง ประกอบกับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ เชื่อว่าภายในไม่กี่วันจะหายไป ขอให้อดทน

นายอนุทิน กล่าวว่า ด้านการเยียวยานั้น รัฐบาลดำเนินการเต็มที่ ขอให้มั่นใจว่าจะมีการระดมเครื่องมือ เครื่องจักรสูบน้ำออก ขุดดิน ไม่ให้ขวางการสัญจรไปมาของพี่น้องประชาชน อาหารการกิน อาหารแห้ง ของใช้ในครัวเรือนในชีวิตประจำวัน ทางรัฐบาลจะจัดสรรมาให้ ประชาชนต้องได้มีกินครบ 3 มื้อ มีของใช้ตลอดจนกว่าภัยพิบัติจะพ้นไป ทางรัฐบาลจะเร่งตั้งงบประมาณเพื่อมาเยียวยา ตามกฎแล้วมีอยู่ว่าน้ำท่วมแล้วเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน อาคาร บ้านเรือน พืชผล ต่าง ๆ ก็จะมีการเยียวยา ลดความเดือดร้อนให้กับประชาชนลงให้มากที่สุด เมื่อวนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ไปที่เชียงรายไปดูหน้างาน เห็นแล้วว่าประชาชนเดือดร้อนอย่างไร จึงได้สั่งการว่าที่ใดมีสถานการณ์อุทกภัยขอให้ใช้กฎเกณฑ์เดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมประสานงานทุกหน่วยงานให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่

“จะมีมาตรการในการช่วยเหลือค่าน้ำ ค่าไฟ ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่เป็นเหยื่อของน้ำท่วม โดยจะมีการลดค่าน้ำค่าไฟ”นายอนุทิน กล่าว

และว่า ขณะนี้ประมาณน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ 13.65 เมตร สูงกว่าตลิ่ง 1.45 เมตร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกโดยคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นสูงสุดที่ 14 เมตร ในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ย. 67) ขณะนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำโขงล้นตลิ่งใน 5 อำเภอ ได้แก่ อ.สังคม อ.ศรีเชียงใหม่ อ.ท่าบ่อ เมืองหนองคาย และอ.รัตนวาปี  รวม  18 ตำบล  77 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 2,850 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 33,450 ไร่  โดยกรณีที่ถนนไม่สามารถสัญจรได้บางพื้นที่  แต่ยังไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับการเตรียมการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ นั้นศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จ.หนองคาย ได้ระดมกำลังจากหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งจังหวัด อบจ. ฝ่ายปกครอง หน่วยทหาร ตำรวจ อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการช่วยเหลือ เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์นำ เตรียมเครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบน้ำ 74 เครื่อง รถบรรทุก 8 คน กระสอบทราย 26,0000 ถุง เรือท้องแบน 22 ลำ และเจ้าหน้าที่ จำนวน 220 นาย สำหรับเตรียมช่วยประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย อำนวยความสะดวกประชาชน แจ้งเส้นทางเลี่ยงในเส้นทางที่ไม่สามารถผ่านได้ ตลอดจนเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ที่ท่วมขัง เพื่อลดผลกระทบ

นอกจากนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 6 ขอนแก่น,  เขต 7 สกลนคร และ เขต 14 อุดรธานี ได้สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัย เครื่องสูบน้ำ ขนาด 14 นิ้ว จำนวน 12 เครื่องเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 20 ลำ เรือกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 4 ลำ รถโมบายยูนิตจำนวน 2 คันรถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย จำนวน 5 คัน รถยนต์ดับเพลิงติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล1คัน รถบรรเทาอุทกภัย 1 คันพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดหนองคายด้วย 

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดหนองคาย ได้ติดตามระดับน้ำในแม่น้ำโขงพร้อมประเมินสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง มีการกำชับให้ อ.ศรีเชียงใหม่ อ.เมืองหนองคาย อ.รัตนวาปี อ.สังคม อ.ท่าบ่อ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประชาสัมพันธ์ สถานการณ์นำให้ประชาชนทราบ และแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบสถานการณ์ล่วงหน้า พร้อมในการดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัยจังหวัด ยึดหลักการรักษาชีวิตของประชาชนผู้ประสบภัยเป็นเรื่องสำคัญลำดับแรก ดูแลด้านการดำรงชีพ หากมีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ให้จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวตามที่ได้กำหนดไว้ในแผนเผชิญเหตุ

โดยได้จัดเตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราว ทั้ง 9 อำเภอ จำนวน 44 แห่ง นอกจากนี้ ได้ประสานการปฏิบัติเตรียมพร้อม กับหน่วยงานทาง ทหาร กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 ภายใต้ มทบ 24 อุดรธานี ที่ดูแลสาธารณภัยในพื้นที่จังหวัดหนองคาย หากมีการร้องขอ โดยเตรียมกำลังพลอำเภอที่ติดริมน้ำโขง อำเภอละ 15 นาย รวม 60 นาย กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี 20 นาย ร้อย อส. 30 นาย รวม110 นาย พร้อมยานพาหนะขนย้ายผู้ประสบภัย พร้อมออกปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดระดับน้ำโขงในช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. วัดได้ 13.73 เมตร ยังถือว่าคงที่จากช่วงเที่ยงวันเป็นต้นมา ส่วนท้องฟ้ายังคงปกคลุมไปด้วยกลุ่มเมฆฝนที่พร้อมจะตกลงมาได้ตลอดเวลา ในขณะที่ต่างอำเภอก็ยังมีรายงานเข้ามาว่า ในพื้นที่ อ.สังคม อ.ศรีเชียงใหม่ และ อ.ท่าบ่อ พื้นที่ริมแม่น้ำโขงถูกน้ำโขงไหลเข้าพื้นที่กระจายวงกว้างไปหลายหมู่บ้าน ท่วมถนนทางสัญจรหลายสายแล้วเช่นกัน