วันอังคาร ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ชาวปางหมูร้อง ผวจ.แม่ฮ่องสอนเหม็นยางมะตอยเผาชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 2 พันราย

ชาวปางหมูร้อง ผวจ.แม่ฮ่องสอนเหม็นยางมะตอยเผาชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 2 พันราย

วันเสาร์ ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 08.46 น.
Tag : ปางหมู แม่ฮ่องสอน เหม็นยางมะตอย
  •  

กำนันตำบลปางหมู และสมาชิก อบต.ปางหมู เมืองแม่ฮ่องสอน นำลูกบ้านยื่นหนังสือร้องเรียนผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากแพลนผลิตแอสฟัลท์ติกคอนกรีตมีการเผายางมะตอยในการผลิตส่งผลกระทบต่อราษฎรกว่า 2,000 รายที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง

นายชัยวัฒน์ สืบพงศ์เอื้อ กำนันตำบลปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 4 ต.ค.67 ที่ผ่านมา ตนและนายพินิจ ใสสว่าง สมาชิก อบต.ปางหมู นายพิริยะ ตวงลาภทวีกิจ สมาชิก อบจ.แม่ฮ่องสอน นำราษฎรในหมู่บ้านขุนกลาง 10 คนไปยื่นหนังสือร้องเรียนของความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ณ ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีนายประเสริฐ ประดิษฐ์ ในนามประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน แทนนายพิฆเนศ ต๊ะปวง ผู้ตรวจราชการการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับมอบหนังสือร้องเรียนดังกล่าวเนื่องจากราษฎรในหมู่บ้านได้รับผลกระทบจากการผลิตแอสฟัลท์ติกคอนกรีตที่มีการเผายางมะตอยซึ่งส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง จนราษฎรบางรายมีอาการแพ้จนต้องหนีไปอยู่ที่อื่นเมื่อมีการเผายางมะตอย


ทั้งนี้ ราษฎรในหมู่บ้านขุนกลาง หมู่ 11 ต.ปางหมู กว่า 2,000 รายได้รับผลกระทบจากการเผายางมะตอยของบริษัทหนึ่งทำให้ควันลอยมากระทบระบบหายใจ ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก อีกทั้งปัญหานี้เกิดมายาวนานกว่า 20 ปีก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด เจ้าของที่ดินที่ให้บริษัทดังกล่าวเช่าได้เคยรับปากกับชาวบ้านว่าจะไม่ต่อใบอนุญาตให้กับบริษัทอีกทั้งเนื่องจากเจ้าของที่ดินได้เข้ามาตรวจสอบกลิ่นเหม็นของการเผายางมะตอยแล้ว แต่ปรากฏว่ายังมีการต่อสัญญาเช่ากันอีก จากปัญหาดังกล่าวชาวบ้านบางส่วนไม่สามารถอาศัยอยู่ในพื้นที่ได้ขณะที่มีการเผาต้องหนีไปอาศัยบ้านญาติอยู่ในเขตเทศบาล บางบ้านที่ไม่สามารถออกจากบ้านไปได้ ก็ต้องทนดมกลิ่นของยางมะตอยซึ่งเหม็นอย่างรุนแรง

ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567 ทางราษฎรในหมู่บ้านขุนกลางได้มีการจัดประชุมหารือเรื่องผลกระทบจากกลิ่นการเผายางมะตอย ที่วัดกุงเปาโดยมีตัวแทนของฝ่ายปกครองอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน มาร่วมรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น โดยได้มีการยืนยันว่าพอเจ้าหน้าที่จาก อบต.ปางหมู ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องกลิ่นเหม็นจากการเผายางมะตอย ทางโรงงานจะหยุดดำเนินการทันที เหมือนรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการมาตรวจสอบทุกครั้ง

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์เฟซบุ๊กดังนี้

โรงงานสีเทาผิดกฎหมายจำนวนมากตั้งอยู่ในพื้นที่ของท้องถิ่น แต่ส่วนใหญ่เจ้าพนักงานท้องถิ่นอ้างไม่รู้ ไม่ได้ติดตามตรวจสอบทั้งๆที่มีอำนาจตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 เพราะอะไร

1.พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 เป็นกฎหมายเกี่ยวกับการจัดการเหตุเดือดร้อนรำคาญ ออกกฎหมายโดยกรมอนามัยผ่านคณะกรรมการสาธารณสุข แต่ไปกำหนดให้เจ้าพนักงานส่วนท้องถิ่นขององค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น เช่น เทศบาล อบต. เป็นผู้ไปดำเนินการระงับเหตุรำคาญตามมาตรา 25 ขณะที่กรมอนามัยและคณะกรรม การสาธารณสุขทำหน้าที่เพียงแค่ให้คำแนะนำแก่องค์กรปกครองท้องถิ่นไม่เคยลงพื้นที่มาช่วยเหลืออะไร

ขณะที่มาตรา 8 กำหนดให้เมื่อเกิดเหตุผลกระทบต่ออนามัยสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ของ อปท. อธิบดีกรมอนามัยสามารถแจ้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อสั่งการให้ให้นายแพทย์สาธารณ สุขจังหวัดไปดำเนินการแก้ไขปัญหา แต่ที่ผ่านมากรมอนามัยไม่ค่อยทราบเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ต่างๆ จึงไม่เห็นสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลงมาช่วยท้องถิ่นจัดการปัญหาการร้องเรียนหรือเหตุเดือดร้อนรำคาญแต่อย่างใด

2.ตามมาตรา 31-33 คณะกรรมการสาธารณสุขสามารถออกประกาศประเภทของกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเพื่อให้ท้องถิ่นไปออกข้อบัญญัติกำกับดูแลสถานประกอบดังกล่าวซึ่งมีอยู่จำนวน 142 ประเภท ตั้งแต่กิจการรับสักยันต์ เลี้ยงหมูไปจนถึงโรงงานปิโตรเคมีขนาดใหญ่ โรงงานสารเคมี โรงงานรับกำจัดกากอุตสาหกรรม เป็นต้น เจ้าพนักงานกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมใน อบต.หรือเทศบาลมีไม่เกิน 5 คน ไม่มีเครื่องมือตรวจวัด ตรวจสอบใดๆ พนักงานหลายคนเป็นพยาบาลไม่มีความรู้ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมหรืออาชีวอนามัยความปลอดภัย จะไปตรวจสอบโรงงานที่ซับซ้อนได้อย่างไร

3.การออกกฎหมายให้ท้องถิ่นต้องรับภาระตรวจสอบระงับเหตุรำคาญสำหรับโรงงานขนาดใหญ่ หลายแห่งเป็นทุนสีเทาโดยที่คนออกกฎหมายไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยอย่างนี้ ทำให้ท้องถิ่นไม่สามารถทำหน้าที่ได้ดี เนื่องจากไม่มีความรู้ ไม่มีคนไปตรวจสอบและไม่มีเครื่องมือไปตรวจวัดอาจจะถูกประชาชนฟ้องศาลปกครองตามมาตรา 157 โทษละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ เหตุการณ์ เช่น โรงงานวินโพรเสส จ.ระ ยอง โรงงานเอกอุทัย จ. อยุธยา โรงงานที่กลางดง โคราชหรือโรงงานแว๊กกาเบจ จ.ราชบุรี เป็นต้น กรมอนามัยจะอ้างทุกเวทีว่าไม่เกี่ยวเป็นเรื่องของท้องถิ่น

ทั้งที่มีการตั้งกองกฎหมาย กองอนามัยฉุกเฉิน กองประเมินผลกระทบสุขภาพ กองอนามัยสิ่งแวดล้อม กองสุขาภิบาลอาหารและน้ำ เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่ทำหน้าที่เพียงแค่ให้สุขศึกษา จัดอีเว้นท์ที่เห็นก็มี street food good health จัดแล้วก็จบกันไป

4.จากการพูดคุยในวงวิชาการ พ.ร.บ. การสาธารณสุข 2535 ควรจะต้องได้รับการแก้ไขหรือปรับปรุงซึ่งทำได้ 2 วิธีคือเพิ่มบทบาทให้กรมอนามัยต้องลงพื้นที่ไปจัด การแก้ไขปัญหาด้วยตนเองโดยให้ความช่วยเหลือท้องถิ่นอย่างเต็มที่ดังเช่น กรมควบคุมมลพิษ หรือกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น รวมทั้งจะต้องเป็นผู้ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุขร่วมกับท้องถิ่นแทนประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยด้วย ประเด็นที่ 2 อาจจะปรับเปลี่ยน พ.ร.บ.การสาธารณสุขเป็น พ.ร.บ.อนามัยสิ่งแวดล้อมและมอบให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ) กระทรวงมหาดไทยไปดูแลแทนเพราะสังกัดกระทรวงมหาดไทยเช่นเดียวกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถดูแลงบประมาณ และอัตรากำลังได้โดยตรง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘แผ่นดินไหวเมียนมา’ขนาด5.9 ‘แม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่-เชียงราย’รู้สึกสั่นไหว ‘แผ่นดินไหวเมียนมา’ขนาด5.9 ‘แม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่-เชียงราย’รู้สึกสั่นไหว
  • แผ่นดินไหวเขย่า \'ปาย\' 13 ครั้ง แรงสุดขนาด 3.4 แผ่นดินไหวเขย่า 'ปาย' 13 ครั้ง แรงสุดขนาด 3.4
  • ระทึก!!! แผ่นดินไหวขนาด 2.5 ลึก 1 กม. ที่อ.ปางมะผ้า แม่ฮ่องสอน ระทึก!!! แผ่นดินไหวขนาด 2.5 ลึก 1 กม. ที่อ.ปางมะผ้า แม่ฮ่องสอน
  • จุดความร้อนไทยวานนี้ลดลงเหลือ 913 จุด แม่ฮ่องสอนยังแชมป์ 232 จุด จุดความร้อนไทยวานนี้ลดลงเหลือ 913 จุด แม่ฮ่องสอนยังแชมป์ 232 จุด
  •  

Breaking News

'ประสิทธิ์ชัย' สวน 'สมศักดิ์' ดึงกัญชา คืนยาเสพติด หวังแก้แค้นภูมิใจไทย-ผูกขาดให้ทุนใหญ่

ด่วน!! ไฟสงครามเดือดอีกรอบ 'อิสราเอล'ล็อกเป้าถล่ม'เตหะราน' อ้าง'อิหร่าน'ละเมิดดีลหยุดยิง

ฮือฮา!'น้องเทน'ม.4 ขี่ม้าคู่ใจมาโรงเรียนทุกวัน ผอ.ชี้เป็น Soft Power ของโรงเรียน

'พีระพันธุ์'ตอกสื่อ บอก'มติพรรคให้ไปพูดคุยกับนายกฯ ไม่ได้ให้มาบอกนักข่าว'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved