วันที่ 8 ตุลาคม 2567 จากกรณี ร.ต.อ.วรัญชัย สุขยิ่ง ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งเหตุมีวัยรุ่นถูกยิงเสียชีวิตภายในซอยคลองสามตะวันออก9/4  ม.9 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ตำรวจได้นำตัว 1.นายเอ อายุ 17 ปี 2.นายบี ายุ 15 ปี 3.นายซี อายุ 15 ปี 4.นายดี อายุ 16  ปี ซึ่งทั้ง 4 คนเป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.คลองหลวง 
  
จากการสอบสวนทั้ง4คนเพื่อนผู้ตายได้ยอมรับว่า ที่บอกว่าเรื่องซื้อนาฬิกานั้นไม่ใช่เรื่องจริง แต่เป็นเรื่องนัดซื้อขายอาวุธปืนแบงกันดัดแปลง ขนาด 380 สีบรอนเทา โดยผู้ตายมากันทั้งหมด 5 คนขับจยย.มา 2 คันและพกปืนมาทั้งหมด 4 กระบอก เป็นปืนไทยประดิษฐ์หักลำบรรจุกระสุนขนาด 9 หักลำยิงครั้งละ 1 นัด จำนวน 3 กระบอก และปืนแบงกันดัดแปลง ขนาด 380 พร้อมแมกซีนที่ผู้ตายนัดซื้อขายกับกลุ่มคนร้ายราคา 12,000 บาท ซึ่งนัดเจอกันที่เกิดเหตุ ผู้ตายได้พกปืนเดินเข้าไปคุยกับคนร้ายเพื่อตกลงซื้อขายปืน ก่อนถูกคนร้ายที่ขับรถเก๋งมาได้ใช้ปืนอาวุธที่พกมายิงใส่ผู้ตายวิ่งหนีมาล้มลง

ทางเพื่อนผู้ตายที่จอดรถจยย.รออยู่ได้ใช้ปืนยิงสวนไปที่กลุ่มคนร้ายแต่ไม่รู้ว่าถูกใครหรือเปล่า แล้ววิ่งหนีพร้อมหักลำทิ้งปลอกกระสุนก่อนบรรจุกระสุนใหม่ ขณะที่ผู้ตายถูกยิงล้มลง คนร้ายได้เข้ามาแย่งปืนแบงกันจากผู้ตายแล้วใช้ปืนแบงกันกระหน่ำยิงผู้ตายเสียชีวิต ก่อนพากับขับรถหลบหนีไป ซี่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบตัวคนร้ายกลุ่มนี้แล้วเป็นชาย 3 คนหลังก่อเหตุได้ขับรถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิหลบหนี เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างไล่ตามไปที่บ้านต่างจังหวัดของคนร้าย

นอกจากนั้นนายเอ เพื่อนผู้ตาย หลังจากหนีออกจากจุดเกิดเหตุแล้วได้นำปืน 3 กระบอกมาทิ้งไว้กลางซอยใกล้จุดเกิดเหตุใกล้โรงเก็บของเก่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาไปค้นหาอาวุธพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์บรรจุกระสุนครั้วละ 1 นัดจำนวน 1 กระบอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานส่วนอาวุธปืนอีกสองกระบอกหาไม่พบ ส่วนผู้ตายมีประวัติเกี่ยวข้องกับคดียิงกันที่สภ.คูคต เสียชีวิตทั้งสองฝ่ายสองศพคดีอยู่ในชั้นศาลจังหวัดธัญบุรี 

ทางด้านนายดี อายุ 16  ปี บอกว่าครั้งแรกที่ตนเองบอกไปว่าเพื่อนจะมาซื้อนาฬิกานั้นตนเองโกหกและที่จริงแล้วคือเพื่อน(ผู้ตาย) จะนำอาวุธปืนขนาด.380 ดัดแปลงมาจากแบงค์กันมาขายในราคา19,000-20,000 บาท ซึ่งผู้ตายได้บอกกับตนเองว่าจะไปขายปืนพอประมาณ 18.00 น. คนที่มาซื้อได้ทักแชทมาเร่งแล้วซึ่งก็บอกว่ารอรถอีก 1 คัน

นายดี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กลุ่มของตนยังพกมาด้วยก็มี นายเอ นายบีพกอาวุธปืนขนาด .38 โคลท์ นายซี พกอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ลูกซองเบอร์ 12 ส่วนตนพกปืนหักลำขนาด .38 จากนั้นก็นัดกันที่ปากซอยคลองสาม 11

นายดี กล่าวว่า ตนให้ผู้ตายลงไปและก็เอาปืนที่ขายไปด้วย ซึ่งตนก็บอกให้เขาลองปืนตรงกลางซอยคลองสาม11 แต่ทางฝั่งคนซื้อก็ไม่ยอมลงมาจากรถ อ้างว่าคนเยอะ จากนั้นเขากับให้ไปเจอที่ซอย9/4 ตนก็ให้ผู้ตายลงไปคุย โดยคนขับก็ลงมาจากรถและผู้ตายก็มองไป เห็นคนที่แอบอยู่ตรงป่าหญ้า ผู้ตายจึงยิงเข้าไปก่อน

นายดี กล่าวต่อว่า จากนั้นทั้งสองก็เปิดฉากยิงกัน เมื่อตนเห็นดังนั้นก็ขับรถหนีไปได้ไม่มาก ผู้ตายก็ตะโกนมาว่า “กูถูกยิง” และกลุ่มของคนซื้อปืนก็วิ่งเข้ามายิงซ้ำ ตนเห็นเช่นนั้นก็ได้ยิงปืนใส่กลุ่มของคนที่ซื้อปืนไป 1 ครั้ง และเขาก็วิ่งขึ้นเก๋งสีบรอนซ์หลบหนี

ต่อมาเมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 8 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาเพื่อนของผู้ตายคือ ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

ส่วนนายดี โดนแจ้งข้อหา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน พร้อมทั้งนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งศาลเยาวชนและครอบครัว จ.ปทุมธานี

ด้าน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง กล่าวว่า หลังจากเมื่อคืนนี้มีเหตุยิงกันเสียชีวิตภายในซอยคลองสาม9/4 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนได้นำกลุ่มเพื่อนของผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำ และทราบว่าข้อเท็จจริงที่ให้การไว้ตั้งแต่แรกไม่ตรงกันซึ่งทางฝั่งผู้เสียชีวิตกับคู่กรณีจะมาขายอาวุธปืนกัน ซึ่งทางฝั่งผู้ตายว่าจะไม่ให้ปืนและจะเอาเงินไปเฉย ๆ

พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นคู่กรณีเกิดไหวตัวเลยมีการยิงต่อสู้กัน และจากการตรวจสอบประวัติกลุ่มของผู้เสียชีวิต พบว่าเพื่อน ๆ ได้มีการพกพาอาวุธปืนมาด้วย และได้มีการจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตนั้นได้ตรวจสอบประวัติแล้วมีประวัติฆ่าคนตายของ สภ.คูคต

พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนคู่กรณีนั้นเราทราบชื่อแล้ว และมีประวัติอาชญากรรม ผู้เสียชีวิตก็จะมีการหลอกขายอาวุธปืนให้และเอาปืนไปจี้ จากนั้นก็เอาเงินมาเหมือนยังเคสเมื่อคืนนี้

พ.ต.อ.เกียริตศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนกล้องวงจรปิดจะเห็นรถเก๋งของกลุ่มคนร้ายที่ขับอยู่บนถนนเลียบคลองสาม จากนั้นก็เปิดไฟเลี้ยวเข้าทางวัดกลางคลองสาม จากนั้นก็มีกลุ่มของผู้ตายขับรถจักรยานยนต์ตามมาและเปิดไฟเลี้ยวเข้าวัดกลางคลองสามด้วย