วันอาทิตย์ ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ตร.แจ้งข้อหาเพิมฟอกเงิน-ซ่องโจร  ‘18บอส’อ่วมหนัก  เร่งพิจารณาเข้าข่ายคดีพิเศษ

ตร.แจ้งข้อหาเพิมฟอกเงิน-ซ่องโจร ‘18บอส’อ่วมหนัก เร่งพิจารณาเข้าข่ายคดีพิเศษ

วันจันทร์ ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag :
  •  

ตร.แจ้งข้อหาเพิมฟอกเงิน-ซ่องโจร

‘18บอส’อ่วมหนัก

เร่งพิจารณาเข้าข่ายคดีพิเศษ

เหยื่อดิไอคอนพุ่ง4.7พันราย

กรมป่าไม้ลุยสอบไร่‘ว.วชิรเมธี’

รุกล้ำป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่

เหยื่อคดีดิไอคอน ยังแห่ร้องทุกข์ยอดพุ่งกว่า 4.7 พันราย เสียหายเฉียด 1.4 พันล้านบาท ด้านตำรวจ บช.ก.ลุยยึดรถของกลางในคดีเพิ่ม พบแล้วรถเบนซ์บอสกันต์จ่อแจ้งข้อหาเพิ่ม 18 ผู้ต้องหาถึงเรือนจำ ทั้งความผิดฐานฟอกเงิน-พ.ร.ก.กู้ยืมเงินฯ ส่วน “บิ๊กเต่า” ให้ ปปง.สอบคลิปเสียงในมือถือบอสพอล หลังจากคนขับรถส่งมอบอีกเครื่อง คาดมีไฟล์เสียงที่บันทึกไว้ช่วยคลายปมผู้เกี่ยวโยงเรียกรับเงินจากบอสพอลขณะที่กรมคุก เตือนระวังเฟคนิวส์ทำเข้าใจผิด ด้านซูเปอร์โพล ชี้ประชาชนพึงพอใจการทำงานของตำรวจ

เมื่อวันที่ 20ตุลาคม ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนายวรัตน์พล วรัตน์วรกุล หรือบอสพอล ผู้ก่อตั้งบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป กับบรรดาบอส รวม 18 คน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ภายหลังมีผู้เสียหายที่ร่วมลงทุนทำธุรกิจกับบริษัทดังกล่าวจนเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก ว่ายังคงมีผู้เสียหายทยอยเดินทางเข้าแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) อย่างต่อเนื่อง และพนักงานสอบสวน ได้จัดเวรกันรับเรื่องและสอบปากคำผู้เสียหายสำหรับยอดผู้เสียหายขณะนี้รวมแล้วกว่า 4,743 ราย มูลค่าความเสียหายเกือบ 1,400 ล้านบาท


ตำรวจยึดของกลางคดีเพิ่มเติม

ขณะเดียวกัน ทางฝ่ายสืบสวนได้อายัดรถยนต์ของกลางเพิ่มเติมอีก 4 คัน ประกอบด้วยรถยนต์ของบอสพอล 3 คัน และรถตู้ยี่ห้อเบนซ์ของนายกันต์ กันตถาวร หรือบอสกันต์ ดาราและพิธีกรชื่อดัง อีก1คัน ซึ่งเป็นรถที่นายกันต์ได้รับจากบอสพอลเป็นของขวัญวันเกิด ก่อนจะตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้เพียงไม่กี่เดือน

ชี้มีผู้เสียหายนอกราชอาณาจักร

ส่วนความคืบหน้าการออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการลอต 2 นั้น มีรายงานว่าทางพนักงานสอบสวนยังไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากสำนวนคดีในส่วนของ 18 ผู้ต้องหา หรือบรรดาบอส ซึ่งเป็นผู้ต้องหาหลักในคดีดังกล่าว ยังไม่เสร็จสิ้น และจำเป็นต้องเร่งสรุปสำนวนคดีเพื่อให้ทันครบกำหนดฝากขัง 4 ฝาก 48 วัน เสียก่อน ประกอบกับยังมีผู้เสียหายในพื้นที่ต่างจังหวัดและต่างประเทศ เป็นจำนวนมาก ซึ่งยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และเตรียมเข้าแจ้งความ โดยเป็นผู้เสียหายกลุ่มที่อยู่นอกราชอาณาจักรด้วย อย่างไรก็ตาม หากผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีไม่ทันวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ทางพนักงานสอบสวนจำเป็นต้องตัดสำนวนออก เพื่อจะได้เร่งสรุปความเห็นและดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 18 คนก่อน

ร้องทุกข์ตั้งแต่1พ.ย.ตั้งเลขคดีใหม่

ทั้งนี้ ผู้เสียหายที่แจ้งความร้องทุกข์ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 จะมีการตั้งเลขคดีใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า โดยทางคณะพนักงานสอบสวน ที่เป็นคระทำงานชุดเล็กของ บก.ปคบ.ได้ประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดีเพื่อสรุปสำนวนและรายละเอียดช่วงวันที่ผ่านมา ก่อนจะต้องรายงานที่ประชุมคณะทำงานชุดใหญ่ซึ่งมีพล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.หัวหน้าคณะทำงานคลี่คลายคดีดังกล่าว

ให้ปอศ.ร่วมสืบสวนแจ้งข้อหาเพิ่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลัง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.มีคำสั่งให้ทาง บก.ปอศ.ร่วมสืบสวนสอบสวนคดีบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ทาง พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก.ได้หารือร่วมกับ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ.เกี่ยวกับการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับบรรดาบอส ที่ตกเป็นผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย

เอาผิดเพิ่มฐานฟอกเงิน-กู้ยืมเงินฯ

มีรายงานว่าสำหรับฐานความผิดที่จะถูกแจ้งเพิ่มนั้น มีข้อหาร่วมกันกระทำผิดฐานฟอกเงินเป็นหลัก นอกจากนี้อาจมีข้อหาอื่นๆประกอบ เช่น ความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน รวมถึงข้อหาย่อยอย่างอั้งยี่และซ่องโจร เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหามีพฤติกรรมกระทำกันเป็นขบวนการในลักษณะขององค์กรอาชญากรรม โดยการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมนั้น ทีมสอบสวนจะมอบให้พนักงานสอบสวนบช.ก.เข้าแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาทั้งหมดภายในเรือนจำ คาดว่าจะสรุปข้อหาทั้งหมดที่จะแจ้งเพิ่มเติมได้ภายในสัปดาห์นี้

กองปราบตรวจสอบทรัพย์สิน

นอกจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะประสานกับทีมสืบสวนที่มีตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เป็นหลักในการตรวจสอบเส้นทางการเงินและสถานะทรัพย์สินของผู้ต้องหาแต่ละราย เพื่อให้ได้หลักฐานที่เชื่อมโยงเกี่ยวพันกับการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน

จ่อออกหมายจับผู้ต้องหาลอต2

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากมีการแจ้งข้อหาฐานฟอกเงินแล้ว ทีมสอบสวนของบช.ก.จะหารือกันอย่างใกล้ชิดกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่าจะมีการรับสำนวนไปดำเนินการต่อไป ตามขั้นตอนของกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากเข้าหลักเกณฑ์การรับเป็นคดีพิเศษ ขณะนี้คาดว่าดีเอสไอ อยู่ระหว่างพิจารณาอยู่ ส่วนการขยายผลไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาลอตที่ 2 ทางพนักงานสอบสวนกำลังเร่งรวบรวมหลักฐานและให้ชุดสืบสวนแกะรอย ซึ่งจะต้องมีการออกหมายเรียกหรือหมายจับผู้ต้องหากลุ่มนี้อย่างแน่นอน อาทิ กลุ่มแม่ข่ายต่างๆ รวมถึงกลุ่มพนักงานบริษัทฯ บางส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลงนามในเอกสารที่มีผลทางกฎหมาย แต่คงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบหลักฐานอีกระยะหนึ่ง

‘บิ๊กเต่า’สั่งปปป.ตรวจคลิปเสียง

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.เปิดเผยความคืบหน้ากรณีตรวจสอบคลิปเสียงลับนักร้องเรียน และนักการเมืองชื่อดัง เรียกรับเงินจากบอสพอลตามที่บอสพอลเคยกล่าวอ้างว่ามีการบันทึกเป็นคลิปเสียงไว้เป็นหลักฐานหลายคลิป ว่าได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.ประสานข้อมูลร่วมกับตำรวจ บก.ปอท.เพื่อตรวจสอบไฟล์ต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือของบอสพอลที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไว้ ทราบว่าขณะนี้ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ

รอง ผบช.ก.กล่าวอีกว่า ส่วนจะมีการเชิญนักการเมืองดังหรือบุคคลที่ถูกพาดพิงถึงเข้ามาให้ปากคำพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับกรณีนี้หรือไม่ คงต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ทราบหลักฐานต่างๆ ให้แน่ชัดก่อนว่ามีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร โดยต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายซึ่งในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ ตนและทางตำรวจ บก.ปปป.จะประชุมย่อยนอกรอบ เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการต่อไป

ได้แล้วมือถือบอสพอลอีกเครื่อง

รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีการติดตามตัวนายเอก คนขับรถของบอสพอลเพื่อตามหาโทรศัพท์มือถือของบอสพอลอีกเครื่องหนึ่งนั้น ในช่วงเย็นวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่นมา นายเอกได้ประสานเข้ามายังเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีนี้แล้ว เพื่อส่งมอบโทรศัพท์มือถือดังกล่าวของบอสพอล ให้กับทางเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบ

ทั้งนี้ นายเอกยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนานำโทรศัพท์ของบอสพอลไปซุกซ่อนแต่อย่างใด เพียงแต่ตั้งใจจะนำไปให้เลขาฯ ส่วนตัวของบอสพอล เพื่อดูแลเก็บรักษาไว้ เมื่อทราบว่าเจ้าหน้าที่ต้องการจะตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน จึงรีบนำมาส่งมอบให้ทันที

เชื่อมีคลิปเสียงบอสพอลบันทึกไว้

สำหรับโทรศัพท์มือถือเครื่องดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตั้งข้อสันนิษฐานว่าข้อมูลภายในเครื่องน่าจะมีไฟล์คลิปเสียงที่บอสพอลเคยแอบบันทึกเก็บไว้ในขณะที่สนทนากับบรรดานักร้องเรียน และนักการเมืองดังต่างๆ ที่พยายามเข้ามาเจรจาเรียกรับเงินค่าดูแล ตามคำกล่าวอ้างของเจ้าตัวที่เคยให้ปากคำไว้ โดยส่วนตัวแล้วบอสพอลมีโทรศัพท์มือถือ2 เครื่อง ซึ่งเครื่องหลักที่ถูกตำรวจตรวจยึดไปก่อนหน้านี้ จะใช้สำหรับติดต่องานทั่วไป ส่วนอีกเครื่องที่นายเอกคนขับรถเก็บไว้ จะใช้สำหรับบันทึกข้อมูลหรือกิจกรรมงานต่างๆ รวมทั้งใช้เป็นเครื่องอัดเสียงเวลาที่ถูกกลุ่มคนเหล่านี้โทร.เข้ามาข่มขู่เรียกเงิน

ชี้เป็นกุญแจสำคัญไขปมผู้เกี่ยวข้อง

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า หากการตรวจสอบข้อมูลภายในเครื่องโทรศัพท์ แล้วพบว่ามีไฟล์คลิปเสียงลับอยู่จริง ก็ถือเป็นกุญแจสำคัญในการคลี่ปมกรณีคลิปเสียงลับต่างๆ ว่ามีบุคคลใดบ้างเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง โดยภายหลังเจ้าหน้าที่รับมอบจากนายเอก ก็ได้ส่งต่อให้ตำรวจ บก.ปอท.เพื่อตรวจวิเคราะห์ข้อมูลภายในเครื่องทันที ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ อาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากยังไม่มีรหัสเปิดเครื่องจึงไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ในทันที

กรมคุกแจงไม่ได้ย้ายตัว‘แม่ตั๊ก’

วันเดียวกัน นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทน ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือ“แม่ตั๊ก” ผู้ต้องหาคดีขายทองปลอม มีอาการปวดท้องอย่างหนัก โดยตรวจพบเนื้องอกในมดลูก ถูกส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ราชทัณฑ์ว่า แม่ตั๊ก ยังอยู่ในทัณฑสถานหญิงกลาง ไม่ได้มีการย้ายไปไหน และยืนยันว่าแม่ตั๊ก อาการปกติดี ซึ่งในวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา ไม่มีการส่งผู้ต้องขังรายใดไปยัง รพ.ราชทัณฑ์

เตือนแชร์ข่าวปลอมทำเข้าใจผิด

นางกนกวรรณ ได้ฝากเตือนประชาชนให้ระวังข่าวปลอมหรือเฟคนิวส์ เพราะก่อนหน้านี้มีการนำภาพของนายกันต์ กันตถาวรหรือบอสกันต์ หนึ่งในผู้ต้องขังคดีบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ที่สวมชุดนักโทษ ซึ่งอาจจะสร้างความเข้าใจผิดในสังคม ทางกรมราชทัณฑ์ขอชี้แจงว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพในละครศีล 5 คนกล้า ท้าอธรรม ที่ออกอากาศตอนจบไปเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2558 ยืนยันว่าภาพดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับกรมราชทัณฑ์ และไม่ใช่ภาพจากภายในเรือนจำอย่างแน่นอน

โพลชี้ปชช.ติดตามคดีดิไอคอน

ขณะที่สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง “ความพึงพอใจต่อผลงานตำรวจคดี ดิไอคอน” กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวนตัวอย่างในการวิเคราะห์ทางสถิติทั้งสิ้น 1,160ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 17-19ตุลาคมที่ผ่านมา โดยสรุปผลสำรวจความพึงพอใจต่อผลงานตำรวจคดีนี้ พบว่าในเรื่องการติดตามข่าวสารการทำงานของตำรวจมีผู้ติดตามข่าวสารสูงถึง 93.6% และมีเพียง 6.4% ที่ไม่ได้ติดตามข่าว

92%เผยเหยื่อถูกหลอกเพราะโลภ

สำหรับความยุ่งยาก ซับซ้อน และอิทธิพลของผู้อยู่ในขบวนการ พบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม 87.5% ระบุว่ามีความยุ่งยาก ซับซ้อน และอิทธิพลของผู้อยู่ในขบวนการมากถึงมากที่สุดอย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ทำให้ประชาชนถูกหลอกลวง เดือดร้อนจากขบวนการดิไอคอน พบว่าเกิดจากความโลภ 92.9% ความลุ่มหลง 90.8% ความเข้าใจผิดในการลงทุน87.4% ความหละหลวมของหน่วยงานรัฐ 65.3% และการทุจริตคอร์รัปชั่น 64.9%ที่น่าสนใจคือ ความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานของตำรวจ พบว่า ความพึงพอใจมากถึงมากที่สุด 88.7% และพึงพอใจน้อยถึงไม่พึงพอใจเลย 11.3%

พึงพอใจการทำงานของตำรวจ

รายงานของซูเปอร์โพลชิ้นนี้ ชี้ให้เห็นการตอบรับของประชาชนต่อการทำงานของตำรวจในคดีดิไอคอน ด้วยความพึงพอใจอย่างสูง คือร้อยละ 88.7 พึงพอใจมากถึงมากที่สุด นับเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นและความเพียรพยายามของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน สังคมควรมีส่วนร่วมในการให้กำลังใจและการสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่มีขวัญและกำลังใจในการทำหน้าที่อย่างซื่อตรงเพื่อฟื้นฟูศรัทธาของประชาชนต่อองค์กรตำรวจได้สำเร็จในยุคนี้

ควรส่งเสริมจนท.ที่มุ่งมั่นทำงาน

นอกจากนี้การใช้สื่อโซเชียลเพื่อประกาศชื่นชมและส่งเสริมผลงานของตำรวจสามารถสร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่มีความมุ่งมั่นทำหน้าที่เพราะการให้กำลังใจเจ้าหน้าที่รัฐผ่านสื่อต่างๆ สามารถช่วยสร้างสภาพแวดล้อมบรรยากาศที่ดีให้กับการทำงานของตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ระบุไม่ควรละเลยการตรวจสอบ

รายงานของซูเปอร์โพล ระบุด้วยว่า สังคมและสื่อไม่ควรละเลยในการจับตาดูและตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว การมีส่วนร่วมของสังคมในการตรวจสอบจะช่วยป้องกันการทุจริตและรักษามาตรฐานของการปฏิบัติหน้าที่ให้ดำเนินไปอย่างสุจริตและโปร่งใสผ่านการชื่นชมสนับสนุนแต่เกาะติดตรวจสอบเข้มข้นอย่างต่อเนื่องรวมถึงการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการเฝ้าระวังการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ สังคมและสื่อโซเชียลสามารถช่วยสร้างและรักษามาตรฐานของความเป็นธรรม ความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยของประชาชนในมิติอื่นๆได้

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • กอ.รมน.ภาค4สน. โต้ข่าวปลอมกราดยิงยี่งอ! ยืนยันสถานการณ์ปกติ กอ.รมน.ภาค4สน. โต้ข่าวปลอมกราดยิงยี่งอ! ยืนยันสถานการณ์ปกติ
  • เรื่องนี้มีคำอธิบาย! เปิด‘กาสิโน’ในไทยทำไมเสี่ยงผลกระทบรุนแรงกว่าสิงคโปร์? เรื่องนี้มีคำอธิบาย! เปิด‘กาสิโน’ในไทยทำไมเสี่ยงผลกระทบรุนแรงกว่าสิงคโปร์?
  • เช็คที่นี่! ‘เบี้ยคนชรา’ปัจจุบันอายุใดได้เท่าไร? อย่าแชร์ข่าว‘ปรับเพิ่ม’ชี้ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ เช็คที่นี่! ‘เบี้ยคนชรา’ปัจจุบันอายุใดได้เท่าไร? อย่าแชร์ข่าว‘ปรับเพิ่ม’ชี้ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ
  • โชคดีที่สุด! \'ปฐม อินทโรดม\' ทึ่ง \'กรมสมเด็จพระเทพฯ\'ทรงงานหนัก แม้บังเอิญเจอในสนามบินถึง 5 ครั้ง โชคดีที่สุด! 'ปฐม อินทโรดม' ทึ่ง 'กรมสมเด็จพระเทพฯ'ทรงงานหนัก แม้บังเอิญเจอในสนามบินถึง 5 ครั้ง
  • \'วราวุธ\'เผย พม.ชูนโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤตประชากร หนุน\'คนพิการ\'เข้าถึงสิทธิอย่างแท้จริง 'วราวุธ'เผย พม.ชูนโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤตประชากร หนุน'คนพิการ'เข้าถึงสิทธิอย่างแท้จริง
  • แรงงานไทยเฮ! กรมการจัดหางานเปิดรับสมัครงานฮ่องกง พ่อครัว-เสิร์ฟ รายได้กว่า8หมื่น/เดือน แรงงานไทยเฮ! กรมการจัดหางานเปิดรับสมัครงานฮ่องกง พ่อครัว-เสิร์ฟ รายได้กว่า8หมื่น/เดือน
  •  

Breaking News

‘โฆษก รทสช.’เตรียมเคาะขุนพล‘อภิปรายงบ 69’ แนะฝ่ายค้านไม่ฉวยโอกาสซักฟอก

‘เพื่อไทย’สงสาร‘ยิ่งลักษณ์’ เห็นช่องขายข้าว 18.9 ล้านตัน เป็นหลักฐานใหม่สู้ต่อ

‘น้าแอ๊ด’ปล่อยเพลง ประกาศลั่นอย่าทะลึ่งผุด‘กาสิโน-พนันออนไลน์’นะโว้ย...ไอ้เห้!

เปิดสัญญาจีทูจี! ‘หมอวรงค์’เบิกเนตร‘ยิ่งลักษณ์กับปชช.’ ใครกันแน่ไม่ได้รับความเป็นธรรม

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved