หลอน!ชาวไร่สับปะรดได้กลิ่นเหม็นรุนแรงคล้ายศพแจ้ง จนท.ค้นหาหวั่นเป็นศพถูกฝังดิน

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 28 ต.ค.67 พ.ต.ท.กิตติ สังข์ทอง สารวัตรสอบสวน สภ.ธงชัย อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งจาก น.ส.พิมพ์ธินิตา อายุ 54 ปี อยู่หมู่ 11 บ้านประชาราษฎร์ ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้ไปตรวจสอบบริเวณป่าสับปะรด อยู่หมู่ที่ 3 บ้านกรูด หลังพบมีกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรงเหมือนศพคนตาย จึงไปตรวจสอบพร้อมนางสาวทิพวัลย์ ศิริพงศ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 นายตะวันฉาย ยิ่งยง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ตามที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีศพถูกฝังอยู่ในบริเวณพื้นที่รีสอร์ทเก่าจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ธงชัย พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถานบางสะพาน ขอความอนุเคราะห์ใช้รถ JCB จากเทศบาลตำบลบ้านกรูด เพื่อการขุดหาตามคำกล่าวแจ้ง โดยมีนายพชรดนัย วัชโรทัย ผอ.กองช่าง นางสาววรรณี สังข์เฟื่อง รองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกรูด ร่วมลงตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้งด้วย

ที่บริเวณที่ได้รับแจ้งพบเป็นโครงการรีสอร์ทเดิมล้างมาตั้งแต่เมื่อ 22 ปีที่แล้วเป็นบ้านขนาดใหญ่และมีต้นไม้ปกครุม โดยอยู่ใกล้กลับเพิงพักไร่สับปะรดดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบมีกลิ่นเหม็นจึงได้ประสานรถแบ็คโฮเข้ามาในพื้นที่เพื่อขุดหาที่มาของกลิ่นเหม็นโชยอย่างรุนแรง ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ใช้พั่วและจอบช่วยค้นหาเพิ่มเติมก่อนที่กลิ่นหายไป

สอบถามนางบุญเรือน อายุ 62 ปี อยู่หมู่ 4 ต.กำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน เล่าให้ฟังว่า ตนพร้อมครอบครัวได้เข้ามาทำไร่สับปะรดโดยมาเช่าที่ 7 ไร่ แล้วเริ่มทำตั้งแต่ 2565 โดยเริ่มแรกจ้างพม่ามาปลูกสับปะรดและได้ให้นางเมี้ยนโ อายุ 85 ปีมารดามานอนเฝ้า ตอนที่มานอนเฝ้ามารดาตนได้เล่าให้ฟังว่า ได้ฝันเห็นผู้หญิงกับผู้ชายมาเข้าฝันให้ช่วยทีและชี้ไปที่หินก้อนใหญ่ที่อยู่ใกล้กับเพิงพักว่าอยู่ตรงนั้น แต่ที่ผ่านมาก็ไม่ได้ดำเนินการอะไร จนมามารดาตนได้เสียชีวิตไปแล้วจนมาวันนี้ได้กลิ่นเหม็นอีก จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและได้นำรถแบคโฮมาขุดหา แต่ก็ไม่พบและได้หยุดการค้นหาชั่วคราวเนื่องจากอากาศมืดและวันรุ่งขึ้นวางแผนเพื่อจะได้ดำเนินการต่อ