วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุมิตร พรมตอง ผกก.สภ.บางน้ำเปรี้ยว  เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ชุดเฉพาะกิจตรวจสอบมิเตอร์การไฟฟ้าเขต2 ภาคกลาง ชลบุรี และนายสุชาติ โตอัจฉริยะวงศ์ ผู้จัดการไฟฟ้าฉะเชิงเทรา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้า พร้อมหมายศาลจังหวัดฉะเชิงเทราที่  113/2567  เข้าตรวจสอบภายในโรงงานร้าง ต.ศาลาแดง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา หลังตรวจพบว่ามีการละเมิดการใช้ไฟฟ้า โดยการดัดแปลงมิเตอร์(เครื่องวัด)  กำลังเจ้าหน้าที่  จึงตรวจสอบบริเวณหม้อแปลงด้านนอกโรงงาน และพบว่ามีการดัดแปลง ก่อนจะมีสายไฟโยงเข้าไปในโกดังด้านใน

เมื่อเข้าไปในโกดังได้ยินเสียงพัดลมดังต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา และจากการตรวจสอบด้านใน พบเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับขุดบิทคอย ถูกจัดวางเป็นระเบียบบนชั้นเหล็ก จำนวน 6 ชั้น รวม 109 เครื่อง โดยทุกเครื่องกำลังทำงานตามปกติ นอกจากนี้ยังพบว่ายังมีเครื่องที่รอการติดตั้งอีกจำนวน 66 เครื่อง มูลค่ารวมแล้วกว่า 17 ล้านบาท   เครื่องสำรองไฟและแบตเตอรี่สำรอง ถูกวางไว้ด้านหลังตามจุดต่างๆ โดยรอบ

นายสุชาติ โตอัจฉริยะวงศ์ ผู้จัดการไฟฟ้าฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบความผิดปกติดของการใช้ไฟฟ้าในโกดังดังกล่าว  จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาซุ่มดู และพบว่ามีรถเข้าออก เป็นบางครั้งในเวลากลางคืน แต่โรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานร้าง แต่มีการใช้ไฟฟ้าทุกเดือนจึงพบความผิดปกติ  อีกทั้งเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบข้างกำแพงโกดัง ก็ได้ยินเสียงพัดลมดังต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา จึงสันนิษฐานว่า ด้านในอาจมีการลักลอบใช้ไฟฟ้าแบบผิดกฎหมาย หรือการขุดเหมืองบิทคอย  จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เข้าตรวจสอบ  เบื้องต้นจะเดินทางไปแจ้งความและลงบันทึกประจำวันที่ไว้ สภ.บางน้ำเปรี้ยว  ซึ่งความเสียหายนั้นคาดว่าเดือนนึงไม่ต่ำกว่าล้านบาท  และคาดว่ากลุ่มผู้ลักลอบใช้ไฟฟ้า น่าจะแอบทำมาแล้วหลายเดือน  มีมูลค่าความเสียหายที่รัฐต้องเสียไปหลายสิบล้านบาท