จับ‘นุ-สารินี’

คนสนิททนายตั้มกุคริปโตทิพย์

ฟันร่วมฉ้อโกงเงิน 39 ล.‘เจ๊อ้อย’

กองปราบฯแถลงจับ “นุ-สารินี” 2 คนสนิท “ทนายตั้ม” เผยผลสืบสวนพบหลักฐานคอยจัดการเงินคริปโตให้ทนายดัง ยึดรถหรู 2 คัน บัญชีธนาคารไปสอบขยายผล
โยงปมเงิน 39 ล้านบาทของ “เจ๊อ้อย” ส่วนคดีดิไอคอน ดีเอสไอเผยหลังแจ้งข้อหา 18 บอสเพิ่มแล้ว ทั้งหมดปฏิเสธ ขอทำหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป.แถลงข่าวจับกุมนายนุวัฒน์ ยงยุทธ หรือนุ อายุ 34 ปี คนสนิทนายษิทรา เบี้ยบังเกิดหรือทนายตั้ม และน.ส.สารินี นุชนาถ อายุ 32 ปี แฟนสาวของนุ ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญาที่ 5437-5438/2567 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และร่วมกันฟอกเงินจากคดีฉ้อโกงเงิน 39 ล้านบาทที่น.ส.จตุพร อุบลเลิศหรือเจ๊อ้อย เข้าแจ้งความ

พล.ต.ต.มนตรีเปิดเผยว่า จากการสืบสวนขยายผลคดีที่เจ๊อ้อยเข้าแจ้งความเอาผิดกรณีเงิน 39 ล้านบาทนั้น เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนตรวจสอบพยานหลักฐานมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนได้ขออำนาจศาลอาญาเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสอง กระทั่งเวลา 06.00 น.วันนี้ เจ้าหน้าที่นำหมายศาลเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุด ย่านวังทองหลางและลาดพร้าว จนจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บ้านพักย่านวังทองหลาง

ด้านพ.ต.อ.สุริยศักดิ์กล่าวว่า สำหรับพฤติการณ์ของสองผู้ต้องหามีการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงิน 39 ล้านบาทของเจ๊อ้อย โดยเป็นผู้คอยจัดการธุรกรรมทางการเงิน เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองสนิทกับทนายตั้ม ตามที่ทนายดังเคยออกมาอ้างกลางวงสื่อว่าเคยให้นายนุช่วยดูเรื่องคริปโทให้เจ๊อ้อย ซึ่งคดีดังกล่าวจะเข้าไปเกี่ยวโยงถึงทนายตั้มหรือไม่ อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนและสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองคนเพิ่มเติม หากพบทนายตั้มมีส่วนเกี่ยวข้องจะแจ้งข้อหาเพิ่มกับทนายตั้มด้วย

พ.ต.อ.สุริยศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับนายนุนั้น เรียนรู้เรื่องคอมพิวเตอร์รวมถึงเรื่องไอที และให้ความสนใจเรื่องคริปโทตั้งแต่อาศัยอยู่ที่ประเทศเยอรมันกับมารดาที่ไปมีครอบครัวใหม่ ซึ่งนายนุก็ตามมารดาไปเรียนด้วย โดยเข้ารับการศึกษาในระดับวิชาชีพ จนภายหลังทำให้มีความเชี่ยวชาญในเงินดิจิทัล จนสามารถนำมาทำธุรกิจเทรดเงินคริปโทสร้างรายได้ให้ตนเองเป็นจำนวนมาก หลังเกิดไปมีปัญหาความผิดทางกฎหมาย ทนายตั้มจะเข้ามาช่วยเหลือทางคดี หลังจากนั้นก็เลยเกิดความสนิทสนมกันในที่สุด

พ.ต.อ.สุริยศักดิ์กล่าวอีกว่า ระหว่างจับกุม เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดรถหรูได้อีก 2 คันคือ รถปอร์เช่ 1 คัน และรถเบนซ์ 1 คัน พร้อมกันนี้ ยังตรวจยึดซิมโทรศัพท์ สมุดธนาคาร ซึ่งมีชื่อเป็นบุคคลอื่น และหลักฐานอื่นๆอีกจำนวนหนึ่ง จะนำไปตรวจสอบขยายผลต่อไป ทั้งนี้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองราย ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จากนี้จะควบคุมตัวไว้เพื่อสอบปากคำขยายผลต่อไป

ด้านพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรมกล่าวถึงการแก้ปัญหาลดความแออัดภายในเรือนจำว่า เป็นปัญหาใหญ่และคณะกรรมการราชทัณฑ์ได้จำแนกผู้ต้องขังที่มีคดีอยู่ระหว่างพิจารณา ซึ่งมีจำนวนมาก ออกจากนักโทษที่คดีสิ้นสุดแล้ว จะลดความแออัดได้ นอกจากนี้ ต้องบริหารโทษ เช่น คนป่วยหนัก คนท้อง ทั้งนี้ อนาคตจะร่างกฎหมาย ซึ่งอาจมีเรือนจำของเอกชน หรือบางคนขังเฉพาะวันเสาร์วันอาทิตย์ เช่น เด็กที่จะต้องเรียนหนังสือ คนที่ต้องเลี้ยงดูลูก ซึ่งต้องไม่ขัดกับกฎหมาย ป. วิอาญา ส่วนเรื่องความปลอดภัยในเรือนจำ หลังมีนักโทษถูกแทงเสียชีวิต รวมถึงกรณีนายษิทรา หรือ “ทนายตั้ม” อาจถูกจองกฐินนั้น มีการรายงานและการดูแล วันนี้ผู้คุมหรือพัศดี ทำงานหนัก ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งผู้คุมก็ทราบว่ามีความขัดแย้งกันหรือไม่ไว้วางใจกัน ก็ต้องไปดูว่าทำอย่างไรไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งต้องยอมรับว่า เรามีคนน้อย ก็พยายามหาอาสาสมัครคุมประพฤติ เช่น ทหาร กำลังหาช่องทางอยู่ สำหรับกรณีทนายตั้มได้คุยกับผบ.เรือนจำที่รักษาการอยู่ปัจจุบัน เขาดูแลเป็นพิเศษอยู่แล้ว เพราะเรื่องต่างๆ แม้เราไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว หากมีเหตุการณ์ไม่ดีจะกระทบภาพลักษณ์

อีกด้านความคืบหน้าหลังคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกรณีดำเนินคดีอาญากับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง ไปแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 2 ข้อหากับผู้ต้องหาคดีดิไอคอน 18 คน และนิติบุคคล 1 ราย ความผิดพ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 4, 5 และพ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 19, 20นั้น

คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 119/2567 เปิดเผยภาพรวมการให้ปากคำของกลุ่มผู้ต้องหาชายคดีดิไอคอนทั้ง 11 รายว่า ทุกคนรับทราบข้อกล่าวหาเท่านั้น ยังไม่มีใครให้การ ทั้งหมดแจ้งว่าจะขอทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน สำหรับรายละเอียดพฤติการณ์ต่างๆ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอแจ้งผู้ต้องหารับทราบแล้วว่าลักษณะใดคือ แชร์ลูกโซ่ อาทิ เน้นหาสมาชิกมากกว่า การเน้นขายสินค้า เป็นต้น ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอลนั้น ไม่ได้ตอบคำถามอะไรกับพนักงานสอบสวน เพียงแค่ปฏิเสธข้อกล่าวหา

คณะพนักงานสอบสวนยังชี้แจงขั้นตอนหลังผู้ต้องหาทำหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อดีเอสไอแล้วว่า ลูกความสามารถส่งเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาดังกล่าวผ่านทางทนายได้ จากนั้นเอกสารแก้ข้อกล่าวหาจะตรวจคำให้การแก้ข้อกล่าวหาของผู้ต้องหา และนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อมีมติว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ถ้าที่ประชุมเห็นร่วมกันว่าต้องสอบสวนเพิ่มในประเด็นที่สงสัยก็ต้องเข้าไปสอบสวนปากคำภายในเรือนจำอีกครั้ง