ศาลให้ประกัน‘แม่’หลักทรัพย์1.2ล.

‘สามารถ’นอนคุก

เปิดหลักฐาน6ปีโอนเข้า103ล.

รับตรง2บอสดิไอคอนเฉียด3ล.

‘แม่’โวยไม่ได้รับความเป็นธรรม

ยัดจม.ชี้พิรุธ8ข้อใส่มือนักข่าว

พนักงานสอบสวนดีเอสไอคุมตัว“สามารถ–แม่” ฝากขังผัดแรกค้านประกันตัว หวั่นยุ่งเหยิงพยานโดยอธิบดีดีเอสไอแจงเส้นเงิน “สามารถ” รับตรงจากบอสพอลดิไอคอน 2.5 ล้าน รับจากบอสปีเตอร์อีก 5 แสนและยังพบเงินอีกประมาณร้อยล้านโอนเข้าบช.แม่ เตรียมขยายผลสอบโยงถึงใคร ชี้เป็นไปได้ “สามารถ”เป็นคนใช้เงินตัวจริง ใช้บช.แม่เป็นบช.ม้า ระหว่างนำตัวขึ้นรถไปศาล “แม่”โวยลั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม-ถูกกลั่นแกล้ง ยัดจม.น้อยชี้ 8 ข้อพิรุธใส่มือนักข่าว ระบุจะสู้ทวงความเป็นธรรมแม้จนตัวตาย ด้าน “สามารถ”ชี้ “อยากพูดแต่พูดไม่ได้” ขณะที่ศาลอาญาให้ประกัน“แม่” ค้านประกัน “สามารถ” ส่งเข้าเรือนจำ คำฟ้องร่ายยาวเปิดหลักฐานการเงิน พบบช.แม่ 6 ปีมีการโอนเงินเข้า 103 ล้าน รับตรงจาก 2 บอสดิไอคอน เฉียด3ล้าน

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ พร้อมพ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบและโฆษกดีเอสไอ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐและโฆษกดีเอสไอ และนายระวี อักษรศิริ ผู้อำนวยการกองคดีการฟอกเงินทางอาญา ร่วมแถลงกรณีควบคุมตัวนายสามารถ เจนชัยจิตร วนิช อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ มารดา ผู้ต้องหาร่วมและสมคบกันฟอกเงินอาญา กรณีบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด ก่อนนำตัวส่งฝากขังศาลอาญา

ปฎิเสธทุกข้อหา-ฝากขังผัดแรก

พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวว่า เวลา 23.00 น.วันที่ 25 พฤศจิกายน พนักงานสอบสวนนำตัวนายสามารถมาสอบปากคำตามกระบวนการ และมีการแจ้งสิทธิให้ผู้ต้องหารับทราบ เบื้องต้นนายสามารถ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและขอยื่นคำให้การแก้ข้อหาภายใน 15 วัน ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธว่าไม่ได้ทำความผิดฐานฟอกเงิน แต่เป็นลักษณะการยืมเงินและเงินทำบุญ ตามที่มารดาให้ข้อมูลในทำนองเดียวกัน หลังสอบสวนเสร็จจะนำตัวฝากขังศาลอาญาทันที ซึ่งพนักงานสอบสวนมีมติคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากพฤติการณ์ต่างๆ อาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้

สำหรับเส้นทางการเงินโอนจากนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้บริหารบริษัท ดิไอคอนฯ จำนวน 2.5 ล้านบาท มายังนายสามารถและแม่ ที่ระบุเป็นค่าดูแลใช่หรือไม่นั้น พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวว่า ผู้ต้องหาทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่ให้การปฏิเสธ โดยระบุเป็นเงินที่โอนมาให้ทำบุญและเป็นเงินกู้ยืมที่ยืมมาจากบอสพอล แต่ไม่ได้ระบุเหตุผลว่ากู้ยืมไปใช้ทำอะไร ทั้งนี้ เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะให้การอย่างไรก็ได้ เพื่อแก้ข้อกล่าวหา หากไม่รับสารภาพก็ต้องอ้างเหตุผล เป็นเรื่องปกติ รวมทั้งเส้นทางการเงินจะไปเชื่อมโยงบุคคลใดนั้น ชั้นสอบสวนพบคนที่เกี่ยวข้องเป็นบุคคลที่ออกหมายจับ

“สามารถ”คนใช้เงินบช.แม่ตัวจริง

ส่วนความเชื่อมโยงทางการเงินกับบุคคลอื่น เป็นบุคคลที่ถูกออกหมายจับและบุคคลที่ต้องสอบสวนดำเนินการเพิ่มเติมคือ นายกลด เศรษฐนันท์หรือบอสปีเตอร์ ที่มีเงินโอนมารวมประมาณ 500,000 บาท นอกจากนี้ ที่มีบุคคลอื่นหรือเงินที่มาจากแหล่งอื่นโอนเข้ามากว่า 100 ล้านบาทในบัญชีแม่ของนายสามารถ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน แต่พบว่าเกิดช่วงปี 2564-2566 และจะมีน.ส.กฤษอนงค์หรือเจ้พัชเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินหรือไม่ ยังไม่ปรากฏข้อมูล

“สำหรับหลักฐานที่เชื่อได้ว่าเป็นการฟอกเงินนั้น เป็นการรับโอนเงินที่ได้มาจากการทำความผิดลักษณะมีเจตนาปิดบังอำพราง เพราะเชื่อว่านายสามารถเป็นผู้ใช้บัญชีนี้ แต่มีการโอนเงินผ่านมายังบัญชีของมารดา เสมือนเป็นการปกปิดอำพราง ซึ่งตามพยานหลักฐานบัญชีเป็นชื่อของมารดา แต่ผู้ใช้บัญชี คือ นายสามารถ รวมถึงมีคลิปเสียง พยานบุคคลยืนยัน มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สอดคล้องกัน แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะอยู่ในสำนวน”อธิบดีดีเอสไอกล่าว และว่า พนักงานสอบสวนของดีเอสไอเตรียมเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาบอสพอลในเรือนจำ มูลความผิดฐานฟอกเงินเพิ่มเร็วๆนี้

เป็นไปได้บช.แม่เป็นบัญชีม้า

กรณีมีประเด็นระบุในดีเอสไอมีหนอนคอยส่งข่าวความเคลื่อนไหวให้นายสามารถ ก่อนไหวตัวทันและหนีไปอ้างว่าไปทำบุญที่ จ.เชียงรายนั้น พ.ต.ต.ยุทธนายืนยันว่าไม่มี แต่อาจเป็นการเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวมากกว่า เพราะเรื่องเงินของนายสามารถปรากฏเป็นข่าวมาสักพักแล้ว ส่วนระหว่างสอบปากคำนายสามารถ มีนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอลมารับฟังด้วยนั้น ผู้ต้องหามีสิทธิ์ให้ผู้ที่ไว้วางใจเข้าร่วมฟังการสอบสวนได้ เป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย โดยเปิดโอกาสให้ต่อสู้คดีเต็มที่ และเป็นหน้าที่ของเราที่จะพิสูจน์ความผิดของเขา ซึ่งการตอบคำถามต้องเป็นตัวผู้ต้องหาเอง

พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวด้วยว่า ระหว่างสอบปากคำ มารดานายสามารถมีความเครียด ตัวนายสามารถก็เครียด ส่วนคำให้การยังไม่สอดคล้องกับพยานหลักฐาน อีกทั้ง บัญชีแม่นายสามารถเป็นหนึ่งในอีกหลายๆบัญชีม้าหรือไม่ ก็อาจเป็นไปได้ ส่วนนายสามารถจะโอนถึงใครบ้างอยู่ระหว่างตรวจสอบ

แม่โวยลั่นไม่รับความเป็นธรรม

เวลา 12.15 น. พนักงานสอบสวน ดีเอสไอคุมตัวนายสามารถ และนางวิลาวัลย์ มารดานายสามารถ ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสบคบกันฟอกเงิน ไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างคุมตัวนางวิลาวัลย์ขึ้นรถยนต์ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่ามีอะไรจะพูดหรือไม่ นางวิลาวัลย์ กล่าวว่า ตนไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกกลั่นแกล้ง ส่วนนายสามารถกล่าวเพียงสั้นๆว่า อยากพูดแต่พูดไม่ได้ ก่อนทั้งคู่จะถูกควบคุมตัวและนำขึ้นรถยนต์เพื่อไปยังศาลอาญารัชดา

แม่ยัดจม.8ข้อพิรุธใส่มือนักข่าว

นอกจากนี้ ระหว่างเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนางวิลาวัลย์ขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปสอบถามจนเกิดการชุลมุน นางวิลาวัลย์นำเศษกระดาษขนาด A4 มีข้อความบางอย่าง ยัดใส่มือนักข่าว ซึ่งเอกสารดังกล่าวด้านหน้าคือ เอกสารบันทึกแจ้งคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราว มีข้อความว่า ตามที่นางสาววิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ ผู้ต้องหาในคดีพิเศษ 115/2567 กรณีกลุ่มผู้บริหารและเครือข่ายของบริษัทดิไอคอน กรุ๊ปจำกัด มีพฤติการณ์ทำความผิดฐานฟอกเงินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้ยื่นคำร้องให้ปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวนเสนอต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษตามหนังสือ ฉบับลงวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567นั้น โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่115/2567 ได้ร่วมประชุมและมีมติไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหารายนางสาววิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ เนื่องจากผู้ต้องหาอาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 108/1(2) จึงขอแจ้งคำสั่งไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราวให้นางวิลาวัลย์ ผู้ต้องหาทราบ ลงชื่อโดย ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดี ดีเอสไอ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 115/2567

ลั่นจะสู้จนตายทวงความเป็นธรรม

ส่วนด้านหลังกระดาษแผ่นดังกล่าว มีข้อความเขียนด้วยลายมือใจความว่า ข้อความในกระดาษระบุ 1.เรื่องเกิดปี 2564 ตอนนั้นดิไอคนกรุ๊ปยังไม่มีปัญหาธุรกิจ เงินที่ได้มาทำบุญกับกู้ยืม พอลเซ็นชื่อไว้เป็นหลักฐานว่าได้คืนหมดแล้ว ได้ทำหนังสือออกมาให้แล้ว 2.ใครคือผู้เสียหาย 3.จะฟอกเงินได้อย่างไร 4. ไม่ได้รับความเป็นธรรม โดนกลั่นแกล้ง 5.ไม่มีส่วนรู้เห็นในธุรกิจ ไอคอน เพราะไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว 6. จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้อย่างไร 7.ขอต่อสู้เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม จนกว่าชีวิตจะหาไม่ 8. ถ้าต้องโทษจนถึงตายก็ถือว่าประเทศไทยไม่มีความยุติธรรม

เปิดคำร้องฝากขัง-แจงยิบเส้นทางเงิน

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสืบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คุมตัวนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ อายุ 62 ปี และ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อายุ 41 ปี อดีตสมาชิกพรรค และอดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 2 แม่ลูก ผู้ต้องหาคดี ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5(1),(3) มาตรา 9 และมาตรา 60 โดยพนักงานสอบสวนระบุพฤติการณ์การกระทำ การรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่า มีการโอนเงินจากชื่อบัญชี บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ฯ และบัญชีเงินฝากของนายวรัตน์พล วรัทย์กุล และต่อมามีข้อเท็จจริงว่าได้โอนเงินไปยังบัญชีของนางวิลาวัลย์ 15 ครั้ง รวม 2,589,999 บาท และโอนเงินไปยังบัญชีเงินฝากของนายสามารถอีก 14 ครั้ง รวม 475,000 บาท

6ปีบช.แม่โอนเงินเข้าออกกว่า100ล.

อย่างไรก็ตาม มูลนิธิทนายประชาชนฯ ได้ส่งหนังสือขอให้ตรวจสอบการกระทำของนายสามารถพร้อมกับส่งคลิปเสียงจำนวน 2 คลิป ซึ่งเป็นไฟล์เสียงสนทนาระหว่างนายวรัตน์พลและนายสามารถ เมื่อพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบข้อมูลบัญชีธนาคารและธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้อง พบข้อมูลบัญชีเงินฝากของนางวิลาวัลย์ มีการเคลื่อนไหว ตั้งแต่ช่วงวันที่ 1 มกราคม 2561 ถึง 28 ตุลาคม 2567 พบว่ามีการทำธุรกรรมผ่านบัญชีหลักร้อยล้านบาทโดยเป็นการโอนเงินไปยังบัญชีอื่นจำนวน 103,813,577.04 บาท และรับโอนเงินจากบัญชีอื่นจำนวน 88,894,306.46 บาท ซึ่งตรวจสอบการโอนเงินเข้าบัญชีของนายสามารถ 5 บัญชี พบยอดเงินมากกว่า 14 ล้านบาท มีการโอนเงินจากนายวรัตน์พล 2.5 ล้านบาท และมีการรับโอนเงินจากผู้ต้องหารายอื่นเป็นหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องกับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ฯ ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวน นอกจากนี้จากการตรวจสอบการโอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของนางวิลาวัลย์ไปยังบัญชีเงินฝากของนายสามารถเป็นเงินรวมกว่า 34 ล้านบาท เมื่อปรากฏธุรกรรมการโอนเงินหมุนเวียนจำนวนหลักร้อยล้านบาท ของนางวิลาวัลย์ แต่กลับไม่ปรากฏข้อมูลการยื่นแบบแสดงการเสียภาษีของกรมสรรพากรแต่อย่างใด

ศาลอาญาอนุญาตฝากขัง

การกระทำของนายวรัตน์พล นางวิลาวัลย์ และนายสามารถ จึงเป็นพฤติการณ์เข้าข่ายการรับโอน เปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิดเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดที่มา หรือเพื่อช่วยผู้อื่นไม่ว่าก่อน ขณะ หรือหลังการกระทำผิด ไม่ให้ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง พนักงานสอบสวนจึงมีมติให้ ยื่นคำร้องขออนุมัติหมายจับบุคคลทั้ง 3 รายต่อศาลอาญา ความผิดฐานสมคบและร่วมกันฟอกเงิน เป็นการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ซึ่งศาลอาญาอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่ 1-2 ก่อนทั้งสองรายจะถูกจับกุมเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน และนำตัวมาสอบปากคำ แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งสอง ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสอง ให้การปฏิเสธโดยตลอด

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนต้องสอบสวนพยานอีก 30 ปาก รอผลพิสูจน์ของกลาง ผลตรวจลายนิ้วมือ โดยเหตุผลดังกล่าว จำเป็นต้องขอฝากขังผู้ต้องหา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายนถึงวันที่ 7 ธันวาคม ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นบุคคลตามหมายจับ มีการกระทำลักษณะเป็นเครือข่ายและบุคคลทั้ง 3 รายเป็นบุคคลใกล้ชิดกัน มีผู้เสียหายจำนวนมาก หากให้ประกันตัวเกรงว่าจะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ศาลอาญาพิจารณาคำร้อง และสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้

ให้ประกันแม่-ค้านประกันสามารถ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังพนักงานสอบสวนดีเอสไอควบคุมตัวนายสามารถ และนางวิลาวัลย์ มารดา ผู้ต้องหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน คดีดิไอคอนกรุ๊ป นำตัวส่งฝากขังศาลอาญา ทีมทนายความของนายสามารถยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวทั้งสองคน เป็นโฉนดที่ดินหลายชุดรวมมูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาท ซึ่งจะใช้หลักทรัพย์ชุดเดียวกันในการประกันตัวทั้งคู่ หลังศาลพิจารณาคำร้องแล้ว ศาลอนุญาตให้ประกันตัว นางวิลาวัลย์ เพียงผู้เดียว ส่วนนายสามารถ ศาลคัดค้านการประกันตัว ก่อนจะถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ