วันที่ 6 ธันวาคม ที่หน้ากองบังคับการปราบปราม นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม รัฐภูมิ ศิลปินดัง พร้อมนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทนายความ ได้ทางเข้าพบ พ.ต.อ.เอกน เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.พ.ต.ท.สธาปน์ ปัญญาพยัค์ รองผกก.2 บก.ป.เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันพยายามกรรโชกทรัพย์ และหมิ่นประมาท จากกรณีคลิปเสียงร่วมกับน.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวฃศ์ หรือเจ๊พัช เรียกรับเงินจากบอสบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำนวน 20 ล้านบาท และหมิ่นประมาทพิธีกรรายการทีวีดัง นายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่มกรรชัย
โดยเวลา 11.00 น. ฟิล์ม รัฐภูมิ และ ทนายความ ได้เดินทางมาถึงกองบังคับการปราบปราม ซึ่งนายประมาณ ทนายความ ระบุว่า ไม่ว่าจะเป็นข้อหาพยายามกรรโชกและข้อหาหมิ่นประมาทหนุ่ม กรรชัยนั้น ตนมองว่าไม่เข้าองค์ประกอบความผิดทั้ง 2 ข้อหา
โดยในส่วนข้อหาพยายามฉ้อโกงนั้น ไม่พบข้อความที่มีลักษณะเป็นการขู่เข็ญหรือบีบบังคับประทุษร้ายสั่งให้คู่กรณีต้องจ่ายเงินในทันทีแต่อย่างใด เพราะปรากฏลักษณะถ้อยคำที่ระบุว่าให้ฝั่งคู่กรณีค่อย ๆ คิดไปทบทวนและจ่ายเงินในวันศุกร์ก็ได้ ไม่ใช่เป็นการจ่ายเงินในทันที อีกทั้งเงิน 20 ล้านบาทนั้น ก็เป็นเงินที่มีการพูดคุยในแผนการโปรโมทร่วมกับคุณกฤษณ์อนงค์มานานแล้ว ส่วนตัวเลยมองว่า ไม่เข้าองค์ประกอบความผิดฐานพยายามกรรโชกแต่อย่างใด
นอกจากนี้ การพูดของฟิล์มรัฐภูมินั้น ไม่เข้าลักษณะของการพูดจาหลอกลวงให้ฝั่งคู่กรณีเข้าใจผิดและส่อทุจริตเจตนาหลอกลวงแต่อย่างใด ดังนั้น ตนจึงมองว่า ก็ไม่เข้าความผิดฐานพยายามฉ้อโกงเช่นเดียวกัน
ส่วนกรณีหมิ่นประมาทหนุ่ม กรรชัยนั้น ตนมองว่าฟิล์ม รัฐภูมิ อาจจะพูดจาเลยเถิดไปมากในวันนั้น ด้วยความสนิทสนมกับหนุ่ม กรรชัย แต่ลักษณะข้อความไม่มีการทำให้สังคมเข้าใจผิด ก่อให้เกิดความเกลียดชัง และใส่ความหนุ่ม กรรชัย แต่อย่างใด ตนจึงมองว่า ก็ไม่เข้าองค์ประกอบความผิดฐานหมิ่นประมาทเช่นเดียวกัน
ตนจึงมองว่า แนวทางการต่อสู้คดีของฟิล์ม รัฐภูมินั้น ก็คือต่อสู้ตามข้อเท็จจริงและเข้าใจตำรวจว่าทำงานอย่างเต็มที่กับใช้ดุลพินิจในการตั้งข้อหาพยายามกรรโชกและหมิ่นประมาทตามที่ถูกแจ้งความจากผู้เสียหาย แต่ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่า ตำรวจพยายามที่จะตั้งข้อหาดำเนินคดีเกินไป ขนาดศาลยังไม่อนุมัติออกหมายจับในข้อหากรรโชก แต่ทางตำรวจก็ยังคงตั้งข้อหาพยายามกรรโชกให้ได้ตามที่ทางตำรวจคิดเอาไว้
ดังนั้น ในคดีนี้ตนจึงไม่กังวล แม้จะมีคำให้การหรือพยานหลักฐานอื่น ๆ ก็ตาม ซึ่งหากมีประเด็นคำถามจากทางตำรวจ ก็ค่อยตอบคำถามในข้อสงสัยไป แต่ส่วนตัวไม่ชี้ขาดว่าฟิล์มผิดหรือไม่ เพราะผู้ชี้ขาดคือศาล แต่ส่วนตัวแค่มองว่า พฤติการณ์ของฟิล์ม รัฐภูมินั้นไม่เข้าองค์ประกอบความผิดใด ๆ เลย
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า แล้วในกรณีที่ฟิล์ม รัฐภูมิพูดจาล้ำเส้นถึงความสนิทสนมกับหนุ่ม กรรชัยนั้น และฟิล์ม รัฐภูมิที่การขอโทษไปแล้ว ตนมองว่า ที่ฟิล์มขอโทษคือการพูดจาล้ำเส้นเลยเถิดเกินไปด้วยความที่ทั้งคู่สนิทกัน แต่ถ้าหากตนเองเป็นหนุ่ม กรรชัย ตนจะให้อภัยฟิล์ม รัฐภูมิ
ด้านฟิล์ม รัฐภูมิ เปิดเผยสั้น ๆ เพียงแค่ว่า ตนมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม ไม่มีความกังวลใด ๆ และวันนี้ได้เตรียมพยานหลักฐานมาพอสมควร
รายงานข่าวจากพนักงานสอบสวน ชุดทำคดีฟิล์ม รัฐภูมิ ระบุว่าหลังจากที่ ฟิล์ม รัฐภูมิ เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ก็จะทำการแจ้งข้อกล่าวหา 2ข้อหาคือ พยายามกรรโชกทรัพย์ในกรณีของดิไอคอนกรุ๊ป และข้อหาหมิ่นประมาทในกรณีของหนุ่ม กรรชัย โดยรวมเป็นคดีเดียวกัน เพราะเป็นพฤติกรรมเดียวกันและหลังจากแจ้งข้อกล่าวหาเสร็จสิ้น ก็จะมีการปล่อตัว และจะนัดหมายมารายงานตัวอีกครั้งหลังจากนี้อีก 15 วัน
ส่วนกรณีที่ฟิล์ม รัฐภูมิ กังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมกรณีที่ตำรวจตั้งข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ตำรวจชุดทำคดี ระบุว่า จะเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรมอยู่ที่คลิปเสียงซึ่งเป็นพยานหลักฐานและเป็นไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งในดุลยพินิจของตำรวจ จากพฤติการณ์มองว่า สิ่งที่มีการสนทนาในคลิปเสียงเป็นเรื่องของการข่มขู่ให้จ่ายเงิน 20ล้านบาท ไม่ได้เป็นการหลอกจึงไม่ได้เข้าข่ายพยายามฉ้อโกง แต่พนักงานสอบสวนเห็นว่า มีถ้อยคำบางอย่างมีลักษณะของการข่มขู่เพื่อให้เกิดความหวาดกลัวและให้ส่งมอบเงิน 20 ล้านบาท จึงทำให้เข้าข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ และยืนยันว่า จะได้รับความเป็นธรรม 100% อย่างแน่นอน ไม่มีใครกลั่นแกล้ง ตำรวจกองปราบปรามทำงานมีมาตรฐานและไม่ได้ทำงานตามกระแส แต่ทำงานตามข้อเท็จจริง ซึ่งคดีนี้มีพยานหลักฐานไปถึงแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี