วันเสาร์ ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เงินเก็บทั้งชีวิต! หลานวัย17 ถูกแก๊งคอลฯหลอกโอนบัญชีปู่-ย่า สูญ 3.4 ล้าน สอท.เร่งล่าคนร้าย

เงินเก็บทั้งชีวิต! หลานวัย17 ถูกแก๊งคอลฯหลอกโอนบัญชีปู่-ย่า สูญ 3.4 ล้าน สอท.เร่งล่าคนร้าย

วันอาทิตย์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2567, 14.38 น.
Tag : แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เงินเก็บ ตำรวจไซเบอร์ หลอกโอนเงิน
  •  

เงินเก็บทั้งชีวิต! หลานวัย17 ถูกแก๊งคอลฯหลอกโอนบัญชีปู่-ย่า สูญ 3.4 ล้าน สอท.เร่งล่าคนร้าย

15 ธันวาคม 2567 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ “ตำรวจไซเบอร์” พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รรท.ผบช.สอท.) สั่งการให้ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.สอท.2 รรท.ผบก.สอท.3 และ พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 ลงพื้นที่สืบสวนเพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย และติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุโดยเร็ว กรณีตำรวจไซเบอร์ พบว่า ได้มีผู้เสียหายเป็นเยาวชนชายอายุเพียง 17 ปี อาศัยอยู่กับปู่และย่าในพื้นที่ จ.อุดรธานี ถูกกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์หลอกลวงอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ DSI จนสูญเงินกว่า 3.4 ล้านบาท


ต่อมา พ.ต.อ.อภิรักษ์ นำกำลังตำรวจไซเบอร์ลงพื้นที่ และเข้าพบผู้เสียหายคือ นายรพีภัทร อายุ 17 ปี พบว่าอาศัยอยู่กับผู้สูงอายุซึ่งเป็นปู่และย่าในพื้นที่ อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี จากการสอบถามข้อมูลทราบว่าเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา นายรพีภัทร์ได้อยู่บ้านกับย่าเพียง 2 คน ได้มีสายปริศนาโทรเข้ามาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จาก DSI แล้วหลอกว่าบัญชีธนาคารของนายรพีภัทรเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีฟอกเงิน โดยมิจฉาชีพที่โทรเข้ามานั้น ทราบข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียหายและแจ้งว่าได้อายัดบัญชีและปิดการใช้งานแอป Mobile Banking ในโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายได้

เมื่อผู้เสียหายตรวจสอบ ปรากฏว่าบัญชีธนาคารได้โดนอายัดและไม่สามารถเข้าใช้งานแอป Mobile Banking ผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้จริง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าผู้ที่ติดต่อเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ตัวจริง

จากนั้นมิจฉาชีพให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนทางไลน์แล้ววิดีโอคอลพูดคุย จากนั้นมีคนแต่งกายเป็นตำรวจทั้งชายและหญิงมาพูดคุยด้วย แล้วแจ้งให้โอนเงินไปตรวจสอบจำนวน 50,000 บาท แต่เนื่องจากผู้เสียหายไม่มีเงินในบัญชี มิจฉาชีพจึงบอกให้ไปหาเงินจากบัญชีธนาคารของญาติหรือใครก็ได้ แล้วโอนไปให้ตรวจสอบผู้เสียหายและย่าของผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงนำโทรศัพท์ของย่าที่มีแอปพลิเคชันธนาคารและมียอดเงินในบัญชีจำนวน 2 บัญชี โอนเงินไปให้คนร้ายรวม 10 ครั้ง เป็นจำนวน 1,372,311 บาท

ต่อมา ผู้เสียหายได้นำโทรศัพท์ของปู่ตนเองโอนเงินให้คนร้ายอีก จำนวน 1 ครั้ง เป็นเงิน 46,163 บาท แล้วได้นำบัญชีธนาคารอีกบัญชีของย่าซึ่งไม่สามารถโอนผ่านแอปพลิเคชันได้ ไปปิดบัญชีที่ธนาคาร แล้วนำเงินเข้าบัญชีของผู้เสียหาย ก่อนโอนให้มิจฉาชีพอีก 1 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 1,998,004 บาท รวมความเสียหายที่โอนเงินทั้งสิ้น 3,412,642 บาท ซึ่งทั้งหมดเป็นเงินเก็บของปู่และย่าของผู้เสียหายที่ได้เก็บมาทั้งชีวิต โดยมิจฉาชีพที่แต่งกายเป็นตำรวจได้วิดีโอคอลตลอดเวลาเพื่อควบคุมสั่งการมิให้คลาดสายตา

นอกจากนี้ เมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปหมดแล้ว คนร้ายยังถามหาทรัพย์สินอื่นของผู้เสียหายอีก แล้วข่มขู่ว่าหากมีให้นำไปจำนองหรือจำนำแล้วนำเงินที่ได้โอนมาตรวจสอบ ผู้เสียหายและย่าจึงรู้ตัวว่าถูกหลอกลวง จึงพากันไปแจ้งความที่ สภ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี

จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ตำรวจไซเบอร์จึงทราบว่า มิจฉาชีพได้แอบอ้างเป็นผู้เสียหาย คือตัวนายรพีภัทร์ แล้วโทรศัพท์ไปที่ธนาคารเพื่อขออายัดบัญชีและขอปิดการใช้งานแอปพลิเคชัน Mobile Bankingบนโทรศัพท์มือถือของนายรพีภัทร์ จากนั้นคนร้ายจึงแจ้งให้ นายรพีภัทร์ ลองตรวจสอบ เมื่อ นายรพีภัทร์ ตรวจสอบพบว่าบัญชีโดนอายัดและแอปพลิเคชันดังกล่าวไม่สามารถใช้งานได้จริง จึงได้หลงเชื่อ

พ.ต.อ.อภิรักษ์ฯ ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งฝน ให้สอบสวนผู้เสียหายเบื้องต้นตั้งแต่วันเกิดเหตุ โดยล่าสุดได้ประสาน ผกก.สภ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี เพื่อขอรับโอนคดีมายัง กก.1 บก.สอท.3 เป็นผู้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนแล้ว และจะได้เร่งรัดให้พนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.3 ได้เดินทางไปพบผู้เสียหาย เพื่อให้กำลังใจแก่ผู้เสียหายและครอบ ครัวพร้อมกับได้สอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมทั้งตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายทำให้ได้ข้อมูลพยานหลักฐานเช่น ข้อมูลการโทร ภาพคนร้าย คลิปวิดีโอ คลิปเสียง เพื่อนำมาประกอบคดีเพิ่มเติม

พ.ต.อ.อภิรักษ์ฯ ยังได้วิดีโอคอลคุยกับผู้เสียหายทั้ง 2 คน ได้แก่ทั้งนายรพีภัทร และย่าของผู้เสียหาย เพื่อให้กำลังใจและคำมั่นในการเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี โดยแจ้งให้ผู้เสียหายทราบว่า ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงของตำรวจไซเบอร์เอง ทั้ง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รรท.ผบช.สอท. และ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.สอท.2 รรท.ผบก.สอท.3 ขอส่งกำลังใจมาให้ และยืนยันว่าตำรวจไซเบอร์ทุกนายมีความตั้งใจในการทำคดีอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นที่พึ่งและเยียวยาความเดือดร้อนของผู้เสียหายทุกราย ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นคนมีชื่อเสียง บุคคลทั่วไป หรือกลุ่มเปราะบาง จึงขอให้มั่นใจในการทำงานของตำรวจไซเบอร์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • รวบ‘จิ้งจอกสาว’หลอกขาย‘หน้ากากอนามัย’-สู่‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’โทร.ตุ๋นเงินเหยื่อ รวบ‘จิ้งจอกสาว’หลอกขาย‘หน้ากากอนามัย’-สู่‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’โทร.ตุ๋นเงินเหยื่อ
  • สตม.รวบ‘3 บอส’แก๊งคอลเซ็นเตอร์ไต้หวันคาสนามบิน สตม.รวบ‘3 บอส’แก๊งคอลเซ็นเตอร์ไต้หวันคาสนามบิน
  • รวบคนไทยขายชาติ รับเงิน‘บอสจีน’ ผันตัวเป็นพ่อบ้านเฝ้า‘บัญชีม้า’ฝั่งปอยเปต รวบคนไทยขายชาติ รับเงิน‘บอสจีน’ ผันตัวเป็นพ่อบ้านเฝ้า‘บัญชีม้า’ฝั่งปอยเปต
  • แก๊งคอลฯเหิม!!! ลวงแม่\'อัยการดาว\'โอนเงินกว่า 7.6 แสน แก๊งคอลฯเหิม!!! ลวงแม่'อัยการดาว'โอนเงินกว่า 7.6 แสน
  • ‘ภาค 1’ลุยยึดซิมบ็อกซ์ โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สวมรอยจนท.ไฟฟ้า ตุ๋นคืนค่ามิเตอร์ ‘ภาค 1’ลุยยึดซิมบ็อกซ์ โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สวมรอยจนท.ไฟฟ้า ตุ๋นคืนค่ามิเตอร์
  • เชิญชวนผู้สนใจ! ร่วมเสวนา\'เตือนภัยออนไลน์\'เพื่อประชาชนและสังคม เชิญชวนผู้สนใจ! ร่วมเสวนา'เตือนภัยออนไลน์'เพื่อประชาชนและสังคม
  •  

Breaking News

'สส.ราชิต' สับ 'อิ๊งค์' ไม่เหมาะสมเป็นนายกฯ ไม่มีวุฒิภาวะพอที่จะเป็นผู้นำประเทศแล้ว

'จักรภพ เพ็ญแข'เปิดภาพคู่'ทักษิณ' ปรากฎตัวหลังดราม่าใหญ่ คอนเฟิร์มสบายดี

สมุทรสงครามโชว์ผลชัด‘ปลาหมอคางดำ’ลดลงจริงจากโมเดลบูรณาทุกภาคส่วน

ฮือฮา!‘นายกอุ๊’พาไอศครีมละมุด 100 ปีอยุธยา คว้าแชมป์โลกเวทีออสก้าร์อาหารโลกที่โปรตุเกส

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved