'ทวี'เปิดโรงเรียนช่างสิบหมู่ เรือนจำพิเศษธนบุรี ส่งเสริมวิชาชีพผู้ต้องราชทัณฑ์

'ทวี'เปิดโรงเรียนช่างสิบหมู่ เรือนจำพิเศษธนบุรี ส่งเสริมวิชาชีพผู้ต้องราชทัณฑ์

วันศุกร์ ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2568, 20.22 น.

“ทวี สอดส่อง”เป็นประธานเปิดโรงเรียนช่างสิบหมู่ เรือนจำพิเศษธนบุรี มุ่งส่งเสริมวิชาชีพช่างศิลปะแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ ยกระดับ “ช่างสิบหมู่” สู่มาตรฐานระดับสากล
 

วันที่ 10 ม.ค.68 ที่เรือนจำพิเศษธนบุรี ถนนเอกชัย แขวงบางบอนใต้ เขตบางบอน กรุงเทพฯ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดโรงเรียนช่างสิบหมู่ เรือนจำพิเศษธนบุรี เพื่อดำเนินการตามแผนและนโยบายส่งเสริมให้ช่างสิบหมู่มีมาตรฐานในระดับสากล และเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังได้รับการพัฒนาพฤตินิสัยที่มีความหลากหลายและคงไว้ซึ่งศิลปะวัฒนธรรมของไทย อีกทั้งเรือนจำพิเศษธนบุรี ถือเป็นเรือนจำเฉพาะทางในด้านพัฒนาการฝึกวิชาชีพช่างสิบหมู่ในทุกมิติ ทั้งด้านสถานที่ หลักสูตรและบุคลากร เพื่อพัฒนาการฝึกวิชาชีพศิลปะช่างสิบหมู่ให้มีมาตรฐาน จึงมีความพร้อมที่จะต่อยอดจากศูนย์ฝึกอบรมอาชีพด้านช่างสิบหมู่ ให้เป็นโรงเรียนช่างสิบหมู่ โดยมี นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายอำนวย เปรมกิจพรพัฒนา ผบ.เรือนจำพิเศษธนบุรี พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ผู้บริหารวิทยาลัยในวัง ตลอดจนเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์และเรือนจำพิเศษธนบุรี เข้าร่วมพิธี


พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า เรือนจำพิเศษธนบุรี เราเรียกว่าเป็นเรือนจำวิชา ชีพ เพราะเมื่อผู้ต้องราชทัณฑ์ได้เข้ามาภายในแล้ว เราก็จะมีการจำแนกแยกลักษณะผู้ต้องขังเพื่อให้ได้รับการพัฒนาพฤตินิสัย ซึ่งในเรือนจำฯ ก็มีการเน้นสร้างวิชาอาชีพให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ อีกทั้งยังเป็นเรือนจำขนาดใหญ่ มีจำนวนผู้ต้องขังกว่า 4,000 ราย อย่างไรก็ตาม โดยเฉพาะพระราชปณิธานของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระองค์ท่านทรงอยากอนุรักษ์งานช่างศิลป์ ซึ่งเรือนจำพิเศษธนบุรี ก็ได้รับพระปณิธานดังกล่าวมาต่อยอด ถือเป็นความภาคภูมิใจของกระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ ที่ปัจจุบันเรือนจำพิเศษธนบุรี ได้พัฒนาการฝึกวิชาชีพช่างสิบหมู่ในทุกมิติ ต่อยอดจากศูนย์ฝึกอบรมอาชีพด้านช่างสิบหมู่ ให้ขึ้นเป็นโรงเรียนช่างสิบหมู่

พ.ต.อ.ทวี เผยต่อว่า สำหรับโรงเรียนช่างสิบหมู่นอกจากจะพัฒนาวิชาชีพแล้ว เรายังมีการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาในระยะยาว เพราะเชื่อว่าเมื่อเป็นโรงเรียนแล้ว ก็ต้องมีการเรียนการสอนเพื่อความยั่งยืนและสามารถพัฒนาได้ในระยะยาว ส่วนเรื่องศิลปะวัฒนธรรม ก็จะเป็นมรดกที่มีคุณค่าที่เราจะต้องชื่นชม ภูมิใจ และจะต้องมีการปกป้อง พัฒนา ต่อยอด เผยแพร่ ซึ่งเมื่อโรงเรียนช่างสิบหมู่ ได้มาตั้งอยู่ในงานราชทัณฑ์ ก็จะเป็นการชี้ให้สังคมเห็นว่าราชทัณฑ์ เรามีโรงเรียน และได้รับความกรุณาจากทุกภาคส่วน ทั้งอาจารย์ผู้สอนหลักสูตรให้แก่ผู้ต้องขัง ก็เป็นอาจารย์ที่ช่วยปิดทองหลังพระ

”สำหรับผลงานศิลปะของผู้ต้องราชทัณฑ์ หากได้รับการจำหน่าย ส่งมอบอย่างไรนั้น ก็ทำให้ผู้ต้องขังได้รับค่าตอบแทนได้ด้วย ซึ่งบ่อยครั้งผลงานของผู้ต้องขังก็เป็นของขวัญให้แก่ชาวต่างชาติ“ พ.ต.อ.ทวี ระบุ

พ.ต.อ.ทวี เผยอีกว่า ส่วนจะมีการต่อยอดโรงเรียนช่างสิบหมู่ในเรือนจำอื่นทั่วประเทศอย่างไรหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับอาณาเขตพื้นที่ของเรือนจำแต่ละแห่ง เพราะอย่างที่ตนได้เน้นย้ำว่า เราพยายามทำให้เรือนจำมีความเฉพาะของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรือนจำเพื่อการเกษตร ซึ่งเราก็มีโครงการโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์ หรือเรือนจำสำหรับอาชีพค้าขาย หรือเรือนจำสำหรับงานช่างและวิศวะ เช่น โรงเรียนช่างสิบหมู่ หรือเรือนจำสำหรับนักวิชาการ นักวิจัย ที่จะพัฒนาคนให้มีความสามารถด้านโปรแกรมเมอร์ หรือการเขียนโปรแกรม เป็นต้น แต่ทั้งนี้ ในแต่ละเรือนจำทั่วประเทศก็มีลักษณะเฉพาะตัว

พ.ต.อ.ทวี เผยด้วยว่า นอกเหนือจากการทำหน้าที่เป็นพัศดีเรือนจำแล้ว เราก็ประสงค์ให้ทุกคนสามารถเป็นครูของผู้ต้องราช ทัณฑ์ได้ด้วย สามารถฝึก อบรมได้ ไม่เพียงแต่ควบคุมเท่านั้น ทั้งนี้ เรือนจำมีปรัชญามาตลอดว่าเราจะสร้างผู้ต้องราชทัณฑ์ให้เป็นคนดี คนคุณภาพ และเรือนจำต้องเป็นสถานที่สำหรับฟื้นฟู เพื่อให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ได้กลับไปใช้ชีวิตใหม่ในสังคมได้อย่างปกติสุข

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top