วันเสาร์ ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
'มท.1'นั่ง​วอร์รูมถก 76 ผู้ว่าฯระดมกึ๋นแก้ปัญหาฝุ่นพิษ ขันน็อตยกระดับห้ามเผาเข้มข้น

'มท.1'นั่ง​วอร์รูมถก 76 ผู้ว่าฯระดมกึ๋นแก้ปัญหาฝุ่นพิษ ขันน็อตยกระดับห้ามเผาเข้มข้น

วันพุธ ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2568, 12.56 น.
Tag : ห้ามเผา อนุทิน ฝุ่นPM2.5} มท.1
  •  

‘มท.1’ นั่งหัวโต๊ะ​วอร์รูมระดมกึ๋นแก้ปัญหาฝุ่นพิษ! ยกระดับคุมเข้มมาตรการห้ามเผาเด็ดขาด รับหาวิธีนำเงินเยียวยาชาวบ้านก่อนเผาไม่ได้ ​เหตุ​ติดปัญหาต้องกำหนดปริมาณ 150 ไมโครกรัม โอดปล่อยให้ไปถึงจุดนั้นประเทศไทยมืดดำกันพอดี ยกเคสเทียบปัญหาคล้าย ‘น้ำท่วม’ เพียงแต่นำเงินมาใช้ก่อนไม่ได้​

29 ม.ค.2568 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กระทรวงมหาดไทย(มท.) นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เรื่อง ติดตามปัญหาหมอกควัน ไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) โดยมีหน่วยงานต่างๆ​เข้าร่วม​ และยังมีผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด ร่วมประชุมรับมอบนโยบายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์  เพื่อติดตามสถานการณ์หมอกควันฝุ่นละออง PM 2.5 และผลการดำเนินงานของหน่วยงานทุกภาคส่วนในการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเพื่อลดมลพิษ


โดยก่อนเริ่มการประชุมนายอนุทินได้อวยพรเนื่องในช่วงเทศกาลตรุษจีน​ ซินเจียยู่อี่ซินนี้ฮวดใช้​ ขอให้ท่านประสบความสำเร็จ มีแต่ความเจริญก้าวหน้า สุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง

นายอนุทิน​ กล่าวระหว่างการประชุมว่า นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงต่อสถานการณ์นี้เป็นอย่างมาก ได้ติดต่อติดตามประสานงาน เรียกประชุมหารือกับตนตลอดเวลา ในช่วงที่เดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งได้ยืนยันไปว่าทุกคนมีความพร้อมรับมือป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5​ โอกาสนี้นายกรัฐมนตรี ขอให้เชิญและแต่งตั้งนายภูมิธรรม เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นายประเสริฐ​ จันทรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ นายจิรายุ​ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาของกองบัญชาการอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ โดยให้นายจิรายุทำหน้าที่เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลต่างๆให้ประชาชนตระหนักรู้ จะได้ให้ความร่วมมือกับภาครัฐ

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปที่จังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ประชุมติดตามสถานการณ์ ซึ่งพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ เป็นพื้นที่ Hotspot มากที่สุด มีการเผาในที่โล่งแจ้ง เผาวัชพืช ผลผลิตทางการเกษตรมากที่สุด ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศพื้นที่ห้ามเผาเป็นที่เรียบร้อยและได้มีการสั่งการยกระดับดำเนินการทุกมาตรการอย่างเข้มข้น ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดใช้ระบบบริหารจัดการแบบ Single Command ในการบรรเทาสาธารณภัยแก้ปัญหา โดยนอกจากอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดแล้วยังใช้อำนาจตามพ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย​ภัยแห่งชาติ​เพื่อการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานเป็นตัวแทนรัฐบาล​ ทำงานร่วมกันไม่ใช่กระทรวงมหาดไทยสั่งการ​ จึงขอให้ร่วมมือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเสียหายน้อยที่สุด

นายอนุทิน​ กล่าวว่า ​มูลเหตุมาจากการเผา หากทำให้ประชาชนไม่เผาได้ มลพิษก็จะเกิดขึ้นน้อยมาก จึงไม่ต้องกังวลว่าเพื่อนบ้านจะทำอย่างไร เราต้องจัดการในบ้านของเราให้เรียบร้อยก่อน ถ้าในบ้านเราเรียบร้อยแล้วแล้วยังมีเหตุ มาจากเพื่อนบ้าน ก็จะมีความกดดันมายังรัฐบาล​รัฐบาลก็จะต้องเร่งไปเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน ในการแซงชั่น ไม่อุดหนุนสินค้าทางการเกษตร หากมาจากการเผาวัชพืชเหล่านี้ และก่อให้เกิดมลพิษข้ามมายังประเทศเรา สิ่งสำคัญคือเราต้องดำเนินการแก้ไขในบ้านของเราให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะวันนี้โอกาสสร้างเศรษฐกิจตอนนี้เปลี่ยนไปชาวบ้านเปลี่ยน จากการผลิตพืชผลทางการเกษตรระยะยาวมา​ มาเป็ยพิชระยะสั้น​เพราะปลูกมะม่วง มังคุดทุเรียน ปลูกส้มเพราะช้า 3 ปีไม่ได้อะไรเลย ตลาดโลกใหญ่ขึ้นมีผลิตภัณฑ์แปรรูป จะขึ้นหมุนเวียนมากมายมันสำปะหลังอ้อยข้าวโพด ของพวกนี้ปลูกได้ทั้งปี หมุนแล้วหมุนอีก ถึงทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไป เขาคิดว่าสามารถปลูกพืชหมุนเวียนเหล่านี้ได้หลายรอบมากที่สุด และต้องเร่งก่อให้เกิดการปลูกครั้งใหม่ให้เร็วที่สุด จึงต้องเผา

นายอนุทิน​ กล่าวว่า​ ทุกหลังคาเรือนปลูกพืชผลทางการเกษตรเช่นนี้ ซากที่เกิดขึ้นเช่นซังข้าวโพด ในหนึ่งตำบลมีอยู่ประมาณ 100 กอง กองละ 700,000 กิโลกรัม​ ถ้าไม่ได้ไปเห็นด้วยตาตัวเอง คิดว่าคงอะลุ่มอล่วยได้  ที่อำเภอแม่แจ่มอำเภอเดียวอาจทำให้ หมอกควันปกคลุมทั้งประเทศไม่ใช่แค่เชียงใหม่อย่างเดียวทำให้เกิดความเสียหายมหาศาล ซึ่งต้องดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวด หาทางเลือก เช่นที่เชียงใหม่ที่ทำคือให้มีการฝังกลบ หรือแปรสภาพ เศษซังข้าวโพด ซึ่งรัฐต้องสนับสนุน เครื่องจักรเข้าไป​ หรือนำไปเป็นเชื้อเพลิงไบโอเพาเวอร์ เอาไปเป็นไอน้ำความร้อนฝ่ายผลิตไฟฟ้า เอาไปแปรสภาพเป็นอาหารสัตว์ หรือทำปุ๋ยชีวภาพ​ แต่ภาครัฐต้องช่วย

นายอนุทิน​ กล่าวอีกว่า ​เราเจอภัยพิบัติมาโดยตลอด ต้นปีภาคเหนือไตรมาส 3 ภาคกลางไตรมาส 4 ภาคใต้ เราใช้เงินเกือบ 20,000 ล้านบาท เป็นค่าชดเชยทดแทนความเดือดร้อน หลังคาเรือนละ 9,000 บาท เหตุการณ์ลักษณะนี้ก็ใกล้เคียงกัน น้ำลดหรือเพิ่มเกิน 3 วันชาวบ้านได้เงิน แต่กรณีหมอกควันยังไม่เกิด เราจะเอาเงินไปให้ชาวบ้านก่อนไม่ได้ มันต้องเกิดการเผาเกิดมลพิษควันดำก่อน​  กว่าจะเอาเงินออกมาได้ความเสียหาย ค่ามลพิษต้องเกิน 150 ไมโครกรัม หากไปถึงจุดนั้นประเทศไทยมืดมิดไปทั้งประเทศ ถึงจะนำเงินไปใช้ได้ ดังนั้นธรรมชาติไม่เหมือนกันมีเงินแต่การใช้ไม่เหมือนกัน จึงขอข้อแนะนำช่วยกันคิดการสนับสนุนของแต่ละจังหวัด ในการผลักดันให้มีงบช่วยเหลือ ชาวบ้านก่อนเพื่อที่จะให้หยุดเผา เป็นจุดที่ต้องวางมาตรการ​ มันดูเหมือนภัยพิบัติแต่การช่วยเหลือแตกต่างกัน ในส่วนนี้ขอความร่วมมือทุกฝ่ายความมั่นคงทหารตำรวจภาครัฐเกษตรทรัพยากร และหน่วยงานเทคโนโลยีให้ช่วยกัน ส่วนที่บังคับใช้กฎหมายก็ต้องทำอย่างเต็มที่ ไม่ให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎหมายและก่อให้เกิดความเดือดร้อน

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • นายกฯขันน็อตทุกกระทรวงสู้ฝุ่น  งัดยาแรงห้ามเผา  ฮึ่มเกษตรกรฝ่าฝืนตัดสิทธิ์เยียวยา นายกฯขันน็อตทุกกระทรวงสู้ฝุ่น งัดยาแรงห้ามเผา ฮึ่มเกษตรกรฝ่าฝืนตัดสิทธิ์เยียวยา
  • \'อนุทิน\'จวกยับคนขับรถบัสแย่มาก ล่าสุดเจ้าตัวไปโผล่อ่างทอง ติดต่อขอมอบตัวแล้ว 'อนุทิน'จวกยับคนขับรถบัสแย่มาก ล่าสุดเจ้าตัวไปโผล่อ่างทอง ติดต่อขอมอบตัวแล้ว
  • มท.1 เปิด \'OTOP Midyear 2024\' ชวนคนไทยร่วมอุดหนุนสินค้าชุมชน ชิมอาหาร OTOP 4 ภาค มท.1 เปิด 'OTOP Midyear 2024' ชวนคนไทยร่วมอุดหนุนสินค้าชุมชน ชิมอาหาร OTOP 4 ภาค
  • มท.1 ปลื้ม \'OTOP MIDYEAR 2024\' สองวันแรก เงินสะพัดแล้วกว่า 142 ล้านบาท มท.1 ปลื้ม 'OTOP MIDYEAR 2024' สองวันแรก เงินสะพัดแล้วกว่า 142 ล้านบาท
  •  

Breaking News

หวานอำพรางพิษ! ห่วง4ผลิตภัณฑ์อันตราย‘สารเสพติดซ่อนรูป’เข้าถึงเยาวชนโดยผู้ใหญ่รู้ไม่เท่าทัน

เปิดโผ‘ครม.อิ๊งค์ 2’ ‘บิ๊กเล็ก’คุมกลาโหม-‘ประเสริฐ’ตัวเต็ง‘มท.1’

จะยืนหยัดอยู่ฝ่ายไหน? 'รสนา'ส่ง จม.เปิดผนึกถึง'พีระพันธุ์-รทสช.'

'ฮุน-ชิน'แค้นแสนสาหัส ไขชนวนเหตุ-เกมร้ายกาจ ปล่อย'2 ตระกูล'ทำลายกันเอง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved