ดีเอสไอ-นิติวิทย์
รับมือถือ‘แตงโม’
ตรวจสอบข้อมูล
ลุยคลี่ปมเสียชีวิต
ดีเอสไอ รับมอบ มือถือ “แตงโม”เตรียมส่งมอบให้กับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจสอบเตรียมทำไทม์ไลน์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ย้ำชัดมือถือแตงโม ถือเป็นของกลางในคดี ห้ามบุคคลใดขอคืน มั่นใจกู้ได้ไฟล์ข้อมูลสำคัญ ไขคดีการเสียชีวิต ทั้งไฟล์รูป-วีดีโอ ทำให้รู้วันเวลาการบันทึก ซิมการ์ด ผูก GPS ช่วยไขข้อสงสัย
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงคืนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะพนักงานสืบสวน เลขสืบสวนที่ 20/2568 นำโดย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งรับผิดชอบสืบสวนคดีการเสียชีวิตของน.ส.ภัทรธิดา หรือนิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ดาราสาวชื่อดัง และเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เดินทางไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ รับมอบวัตถุพยานจาก พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ โดยเป็นโทรศัพท์มือถือไอโฟน 13 ของแตงโม เพื่อเข้าสู่กระบวนการสืบสวนเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง
นายเกรียงศักดิ์ สุวรรณศรี พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ คณะพนักงานสืบสวน กล่าวว่า ภายหลังรับมอบโทรศัพท์มือถือของแตงโม ได้ทำบันทึกเก็บเครื่องเป็นวัตถุพยาน ก่อนมีการส่งมอบ ในสถานะของกลางในคดี ซึ่งตามกระบวนการ ดีเอสไอจะต้องส่งเครื่องให้เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อนำไปตรวจสอบข้อมูลต่อไป
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ความสำคัญของการได้รับวัตถุพยานในครั้งนี้ จะทำให้เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สามารถดึงไฟล์ข้อมูลต่างๆ ออกมาได้แม่นยำเพราะมีซิมการ์ดอยู่ในเครื่อง และข้อมูลต่างๆ ล้วนผูกกับซิมการ์ดไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่ง GPS ที่สามารถดึงได้ หรือรูปภาพ คลิปวิดีโอ ที่ผูกไว้กับ Apple ID (ระบบ iCloud) พอเรามีไอดีเครื่องแตงโม ก็ทำให้เข้าถึงข้อมูลไฟล์ต่างๆ ได้ ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่ได้เห็นว่าในคืนวันเกิดเหตุนั้น มีใครโทรศัพท์หาแตงโมบ้าง แม้ว่าดีเอสไอ จะมีรายชื่อในมืออยู่แล้วก็ตาม
“GPS ของโทรศัพท์แตงโม จะช่วยบอกได้ว่าในคืนวันเกิดเหตุ มีการถือโทรศัพท์ไปไหนมาไหนบ้างหรือไม่ ซึ่งจะขยายผลการสืบสวนต่อไปได้ ว่าหากในเวลานั้น GPS ของเครื่องปรากฏสถานที่ใด แล้วใครคือคนที่กำลังถือเครื่องไว้อยู่ ใช่เจ้าของเครื่องจริงหรือไม่ และปลายทางท้ายสุด GPS ของเครื่องไปสิ้นสุดตรงจุดใด ทั้งนี้ ยังจะไขข้อกระจ่างได้ว่านักแสดงสาว ได้ส่งโทรศัพท์มือถือให้เพื่อนบนเรือจริงหรือไม่ และก่อนหน้านั้น แตงโม ไปอยู่ที่ไหน เป็นต้น” นายเกรียงศักดิ์ กล่าว
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ถือว่าโทรศัพท์ของแตงโม ได้ถูกใช้เป็นของกลางในคดีเรียบร้อยแล้ว ผู้ใดก็ไม่สามารถขอนำออกไปได้ หากมารดาของแตงโม จะขอคืนเครื่องก็ทำไม่ได้ นอกจากนี้ขั้นตอนการตรวจพิสูจน์ระหว่างเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และดีเอสไอ จะเริ่มจากการวิเคราะห์ตรวจพิสูจน์วัตถุพยานก่อน อีกทั้งดีเอสไอเอง จะต้องพิสูจน์สมมติฐานว่ามีภาพถ่ายตรงคอกม้าจริงหรือไม่ ต้องพิสูจน์คลิปวิดีโอทุกรายการ เพื่อเป็นการพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน
“จากนั้นก็จะนำข้อมูลที่ได้ ไปไล่เรียงไทม์ไลน์ จัดทำแผนผังเหตุการณ์ เรียงลำดับเหตุการณ์คืนวันเกิดเหตุ เนื่องด้วยไฟล์ภาพใดก็ตามล้วนมีนามสกุลไฟล์ ที่จะบ่งชี้ถึงวันที่และเวลา จะทำให้รู้เลยว่าภาพนั้นๆ ถูกบันทึกเมื่อวันเวลาใด พร้อมย้ำว่าดีเอสไอ มีกรอบเวลาเบื้องต้นในการสืบสวน 6 เดือน นับตั้งแต่มีการออกเลขสืบสวนที่ 20/2568 แต่ก็สามารถขยายเวลาได้อีก ขอให้สังคมมีความมั่นใจว่าดีเอสไอ จะดำเนินการอย่างรวดเร็วและรอบคอบแน่นอน” นายเกรียงศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พ.อ.นพ.ธวัชชัย ระบุว่า ใช้เวลาในการเดินทางไปกลับ เพื่อรับโทรศัพท์มือถือของแตงโม กว่า 75 ชั่วโมง แต่ไม่ขอเปิดเผยค่าใช้จ่าย แต่ยืนยันว่าไม่ได้ใช้เงินหลวง ได้ดูทุกอย่างในเครื่องหมดแล้ว โดยใช้วิธีถ่ายคลิปเก็บไว้เพื่อไม่ให้สัมผัสกับตัวมือถือ ส่วนจะมีหลักฐานเด็ดมัดตัวใครได้บ้างนั้น เชื่อว่าเรื่องข้าราชการ และจำเลย เข้าข่ายแน่ๆ แต่เรื่องฆาตกรรมอาจยังไม่มีหลักฐานขนาดนั้น
“รีบๆ สารภาพเถอะ จะได้จบๆ ไม่ว่าจะเป็น 5 คนบนเรือ หรือข้าราชการ ผมยืนยันได้ว่าตั้งแต่ 2 ทุ่มกว่า ไม่มีภาพแตงโม ในมือถือเลย เรื่องนี้คนบนเรือตอบได้ไหม ว่าเป็นเพราะเหตุใด” พ.อ.นพ.ธวัชชัย กล่าว
ขณะที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ซึ่งเดินทางมาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วย เปิดเผยว่า มือถือแตงโมเป็นแค่ส่วนประกอบหนึ่ง แต่พวกตนมีหลักฐานอย่างอื่น คาดว่ามีผู้ร่วมขบวนการนี้ทั้งตำรวจและนักการเมืองกว่า 100 คน ไม่เกินวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ จะทราบว่าเป็นโทรศัพท์ของแตงโม จริงไหม และในเครื่องมีอะไรบ้าง ทั้งรูป แชทไลน์ และข้อมูลการโทร.ในวันที่เกิดเหตุคือ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ส่วนนายปานเทพ เปิดเผยสั้นๆ ว่า เชื่อมั่นในการทำงานของดีเอสไอ เพราะมีความโปร่งใส ตรงไปตรงมา สังเกตได้จากการที่เปิดพื้นที่ในการตรวจสอบดีเอ็นเอ ต่อหน้าสื่อมวลชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี