DSI ภาค 7 ลงพื้นที่ตรวจสอบสำนักสงฆ์ศรีสัตยา หลังมีผู้ยึดครองที่ดินของสำนักสงฆ์นำไปขายสิทธิ์ให้กับอดีตข้าราชการตำรวจ 50 ไร่ 1.5 ล้าน

วันที่ 8 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักสงฆ์ศรีสัตยาในพื้นที่ ม.9 บ้านไร่บน ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นายเทวา จุฬารี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 7 จ.ราชบุรี พร้อมนายธีรพล ปรียานุภาพ ปลัดอาวุโสอำเภอชะอำ นายมานะ สินกอง ผู้ใหญ่บ้าน ม.9 บ้านบน ต.เขาใหญ่ และเจ้าหน้าที่ DSI ภาค 7 พระอธิการอำนาจฐานิสโร เจ้าคณะตำบลเขาใหญ่ เจ้าอาวาสวัดชะอำ ลงพื้นที่ตรวจสอบสำนักสงฆ์ศรีสัตยาในพื้นที่ ม.9 ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ หลังได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มีผู้ยึดครองที่ดินของสำนักสงฆ์ศรีสัตยาและโรงเจเมียวซ่าน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของกรมป่าไม้

จากการตรวจสอบพบว่า ทางอดีตเจ้าสำนักสงฆ์ที่เคยเป็นข่าวแอบอ้างเรี่ยไรเงินทอดผ้าป่าสร้างพระ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากคณะสงฆ์ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่และพระสังฆาธิการในพื้นที่จับสึกคาสำนักสงฆ์เหตุเกิดเมื่อช่วงเดือน ธ.ค.64 ที่ผ่านมา นำเอกสารที่ดิน ภบท.5 ที่ตั้งสำนักสงฆ์ไปขายให้กับอดีตข้าราชการยศพันตำรวจรายหนึ่ง ในราคาประมาณ 1.5 ล้านบาทบนพื้นที่ประมาณ 50 ไร่  โดยตัวอาคารกุฏิพักสงฆ์ ห้องน้ำ ที่พักต่างๆ ถูกรื้อถอนไปเกือบหมด มีการติดป้ายห้ามเข้าในตัวอาคารและบริเวณใกล้เคียงก่อนได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนดำเนินคดีตามกฎหมาย

เจ้าหน้าที่จึงทำการเก็บข้อมูลตรวจวัดค่าพิกัดพื้นที่ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่สำนักงานพระพุทธศาสนาได้ทำหนังสื่อขอใช้พื้นที่สำนักสงแก่เทศบาลตำบลนายางเพื่อขอใช้ประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาเพื่อป้องกันการลักลอบซื้อขายพื้นที่ดังกล่าวต่อไปในอนาคตโดยเรื่องอยุ่ระหว่างตรวจสอบ

นายมานะ สินกอง ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ตนได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านหลายรายว่ามีการแอบซื้อขายสำนักสงฆ์ก่อนได้รับการประสานจากทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI ภาค 7 พร้อมด้วยฝ่ายปกครองร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบสำนักสงฆ์ดังกล่าวพร้อมประสานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI ภาค 7  เพื่อหาข้อมูลพบว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI ภาค 7 ได้เชิญตัวอดีตข้าราชการยศพันตำรวจรายนี้เข้าชี้แจง ก่อนพบว่าเอกสารที่ครอบครองที่ตั้งสำนักสงฆ์เป็นเพียง ภบท.5 ก่อนขอยุติการครอบครองพื้นที่สำนักสงฆ์ดังกล่าวเพราะว่าไม่ทราบเรื่องมาก่อน ก่อนคืนพื้นที่ดังกล่าวให้กรมป่าไม้ดูแลต่อไป