ชาวบ้านไม่เชื่อลมปาก "พันเอกซอเอวัน" ผู้บังคับการยุทธวิธีที่ 2 กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไต (DKBA) จะยอมทุบหม้อข้าวตัวเองหลังประกาศขับไล่ "นายทุนจีนเทา" ออกจาก "เมืองพญาตองซู" ภายใน 28 ก.พ.นี้ (อ่านข่าวก่อนหน้านี้ : กะเหรี่ยงDKBA ออกประกาศ ไล่จีนเทาออกจากพื้นที่พญาตองซู ดีเดย์ 28 ก.พ.นี้)

จากกรณีที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช) มีมติให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาสังขละบุรี อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ตัดกระแสไฟฟ้าที่บริเวณจุดติดตั้งมาตรวัดไฟฟ้าแรงสูง ด่านพรมแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 5 ก.พ.68 เวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา เนื่องจากเชื่อมโยงแก๊งคอลเซนเตอร์ ธุรกิจกลุ่มจีนเทาที่มีสำนักงานอยู่ฝั่งอำเภอพญาตองซู รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา เป็นเหตุทำให้ประชาชนที่มีอยู่ประมาณ 1 หมื่นคนได้รับความเดือดร้อน เพราะไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน ซึ่งตรงกันข้ามกับกลุ่มธุรกิจจีนเทา เพราะการตัดกระแสไฟฟ้า ผ่านมาแล้ว 5 วัน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจสีเทาที่กำลังดำเนินการอยู่ทุกวันเนื่องจากมีเครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่ปั่นกระแสไฟใช้ตลอดทั้งวันทั้งคืน

โดยวันนี้ (10 ก.พ.68) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปสังเกตการณ์บริเวรอาคารสูงประมาณ 2 ชั้นที่สร้างกั้นระหว่างชายแดนไทย-เมียนมา โดยอาคารหลังดังกล่าวเชื่อได้ว่าเป็นสำนักงานประกอบธุรกิจของแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยมีเสียงเครื่องปั่นไฟให้ได้ยิน และจากการสอบถามชาวบ้านฝั่งไทยบอกว่า ชาวบ้านได้ยินเครื่องปั่นไฟดังอยู่ตลอดทั้งวันทั้งคืน

ส่วนกรณีที่ พันเอกซอเอวัน ผู้บังคับการยุทธวิธีที่ 2 กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA.) ออกมาแถลงการณ์ประกาศขับไล่กลุ่มจีนเทาให้ออกไปจากพื้นที่อำเภอพญาตองซู ให้หมดภายในกำหนดวันที่ 28 ก.พ.ที่จะถึงนี้ จากการสอบถามพบว่าชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่นั้นไม่เชื่อ เพราะที่ผ่านมาพันเอกซอเอวัน คอยคุ้มกันดูแลกลุ่มจีนเทามาโดยตลอด

อีกทั้งยังมีผลประโยชน์จากกลุ่มจีนเทาเป็นเงินจำนวนมหาศาล เช่น การได้รับผลประโยชน์จากการกว๊านซื้อที่ดินที่มีราคาที่สูงขึ้นรวมถึงได้รับประโยชน์จากการที่ให้กลุ่มจีนเทาเช่าอาคารสถานที่ต่างๆอีกมากมาย  จึงเป็นสาเหตุทำให้ชาวบ้านไม่เชื่อในคำแถลงของ พันเอกซอเอวัน ผู้บังคับการยุทธวิธีที่ 2 กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA.)จากผลประโยชน์ที่มีคงไม่คิดจะทุบหม้อข้าวของตัวเองอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากพันเอกซอเอวัน ทำตามที่แถลงการณ์เอาไว้จริง ชาวอำเภอพญาตองซูที่มีอยู่ประมาณ 1 หมื่นคนก็คงจะไม่ลำบากจากการถูกทางการไทยตัดกระแสไฟอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศ บริเวณลานขนถ่ายสินค้าเพื่อนำเข้า-ส่งออก ข้างวัดพระเจดีย์สามองค์ ยังคงเป็นไปตามปกติ แต่จากการสังเกตกระสอบสินค้าที่คนงานชาวเมียนมากำลังขนถ่ายอยู่นั้น พบบริเวณกระสอบบรรจุสินค้า ระบุว่า เป็นสินค้าที่ผลิตจากจีน (made in china)แต่ไม่ทราบว่าสินค้าที่อยู่ภายในเป็นสินค้าชนิดใด และนอกจากนี้ยังพบมีสินค้าประเภทถึงอลูมิเนียมและถังพลาสติก ขนาด 200 ลิตรอยู่บนรถบรรทุกเป็นจำนวนมาก

แต่เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ คอยสังเกตการณ์รวมถึงเช็กสินค้าที่ส่งออกไปฝั่งอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา อย่างละเอียด ทั้งนี้เพื่อป้องกันการลักลอบนำสินค้าประเภทน้ำมันและอุปกรณ์ผลิตกระแสไฟฟ้าทุกชนิดข้ามไปยังฝั่งอำเภอพญาตองซู ตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด