ระดมช่วยดอยเต่า! ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง จังหวัดเชียงใหม่ เพิ่มเข้มมาตรการเสริมการลาดตระเวน ระดมทหารพรานเสริมกำลังตรวจเข้มพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทุกตารางเมตร

16 กุมภาพันธ์ 2568 นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการ ได้สั่งการให้ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง จังหวัดเชียงใหม่ เพิ่มมาตรการเข้มงวดในการลาดตระเวนพื้นที่ป่าอนุรักษ์ โดยจะมีการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษจากหลายหน่วยงาน เพื่อป้องกันการลักลอบเผาป่าและควบคุมสถานการณ์ไฟป่าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการฯ ระบุว่า ชุดปฏิบัติการสนธิกำลัง ซึ่งประกอบด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชมรมอาสาสมัคร ตำรวจ ทหารพราน และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า จะร่วมกันออกลาดตระเวนเชิงลึกตลอด 24 ชั่วโมงในเขตป่าอนุรักษ์ โดยเน้นพื้นที่เสี่ยงที่พบการลักลอบเผาป่าซ้ำซาก

“หากพบการกระทำผิดเกี่ยวกับการเผาป่า เจ้าหน้าที่จะดำเนินการจับกุมทันที โดยใช้อัตราโทษสูงสุดตามกฎหมาย เพื่อเป็นมาตรการเชิงรุกในการยับยั้งปัญหาไฟป่า” มาตรการเข้มงวดนี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่าใหม่ และลดปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่มักจะรุนแรงขึ้นในช่วงฤดูแล้งของภาคเหนือ  นอกจากการเพิ่มมาตรการลาดตระเวนแล้ว ชุดเผชิญเหตุดับไฟป่าจากหลายหน่วยงาน ได้แก่

 • “สิงห์ไฟ” เจ้าหน้าที่ป้องกันและดับไฟป่า
 • “เสือไฟ” ทีมปฏิบัติการพิเศษควบคุมไฟป่า
 • “เหยี่ยวไฟ” หน่วยเฝ้าระวังและเข้าดับไฟด่วน

โดยขณะนี้ได้ระดมกำลังเข้าสู่พื้นที่เสี่ยง อาทิ ดอยเต่า ฮอด อมก๋อย เพื่อรับมือสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งและลมแรงในช่วงนี้ การเพิ่มมาตรการลาดตระเวนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนควบคุมไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ที่ดำเนินการอย่างเข้มข้นในปีนี้ เพื่อให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ไฟป่าได้อย่างทันท่วงที และลดความเสียหายต่อระบบนิเวศและคุณภาพอากาศในพื้นที่

จากการศูนย์อำนวยการฯ เชียงใหม่รายงานจุดความร้อน (Hotspot) ประจำวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 (รอบเช้า) ข้อมูลจาก suomi-NPP เวลา 02.25 น. จำนวน   49  จุด ดอยเต่า 42 จุด, ฮอด 5 จุด, อมก๋อย 2 จุด ได้ขอการสนับสนุนอากาศยานดับไฟจาก ปภ. และ ทส. เพื่อปฏิบัติการ ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์บ้านโฮ่ง อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ตั้งเป้าดับไฟให้ได้ภายใน 1 วัน

ทั้งนี้ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการป้องกันไฟป่าได้โดยการ หลีกเลี่ยงการจุดไฟในพื้นที่เสี่ยง แจ้งเบาะแสผู้กระทำผิด ได้ทางสายตรงเจ้าหน้าที่ใน 25 อำเภอ  และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เพื่อให้สามารถควบคุมสถานการณ์ไฟป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด.

.012