ปภ.เผยน้ำท่วมใน 3 จังหวัดภาคใต้ สั่งเร่งช่วยเหลือ แจ้งเตือนชาวบ้านพื้นที่เสี่ยง พร้อมรับมือ ส่วนที่ จ.ตรัง น้ำป่าเขาบรรทัด หลากท่วมบ้านเรือน-ถนน ขณะที่ จ.สงขลา น้ำท่วมถนน-ร้านค้า ชาวบ้านโอดยังไม่ได้รับเงินเยียวยาหนก่อนยังมาถูกท่วมซ้ำอีก ด้าน จ.พัทลุง น้ำท่วมขยายวงกว้างหลายพื้นที่
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง โดยระหว่างวันที่ 23–25 กุมภาพันธ์ 2568 เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และนราธิวาส รวม 7 อำเภอ 9 ตำบล 13 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 302 ครัวเรือน
สำหรับจ.สุราษฎร์ธานี เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ อ.เกาะพะงัน ต.บ้านใต้ ประชาชนได้รับผลกระทบ 1 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว จ.นครศรีธรรมราช เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.พิปูน อ.เมือง และอ.นบพิตำ รวม 3 ตำบล 6 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 115 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว และ จ.นราธิวาส เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.สุไหงปาดี อ.แว้ง และอ.ระแงะ รวม 5 ตำบล 6 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 186 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว
นายภาสกร กล่าวว่า สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชน ทาง ปภ.ได้ประสานพื้นที่เข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ปภ.ได้ส่ง SMS แจ้งเตือนน้ำล้นตลิ่งคลองตันหยงมัส จ.นราธิวาส ให้ประชาชนทราบเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ พร้อมขนย้ายสิ่งของและอพยพกลุ่มเปราะบางไปยังพื้นที่ปลอดภัย และขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด
ที่ จ.ตรัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฝนตกหนักติดต่อกัน 2 วัน ในช่วงเช้ามืดวันเดียวกัน ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาบรรทัด เอ่อล้นลำคลองชลประทานนางน้อย เข้าท่วมเส้นทางถนนเพชรเกษม ทางหลวงหมายเลข 4 เป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร พื้นที่ระหว่างหมู่ 2 และหมู่ 10 ต.ละมอ อ.นาโยง รอยต่อ ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง บริเวณหน้าร้านเค้กกนิษฐา-สุขสมบูรณ์รีสอร์ท ซึ่งฝั่งขาออก รถเล็กไม่ควรสัญจรผ่าน เนื่องจากน้ำมีความสูงประมาณระดับหัวเข่าและไหลแรง ควรเลี่ยงไปใช้เส้นทางถนนนาปด-กะช่อง ส่วนฝั่งขาเข้ารถเล็กควรใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ทั้งนี้ รถบางคันที่ฝืนขับฝ่ากระแสน้ำ ก็พบว่าเครื่องยนต์ดับ จนชาวบ้านได้นำรถออฟโร๊ดมาช่วยกันลากเพื่อให้พ้นบริเวณที่น้ำท่วมไปได้ นอกจากนี้น้ำยังเข้าท่วมบ้านเรือนที่ติดกับถนนและมีพื้นบ้านระดับเดียวกับถนนประมาณ 10 หลังคาเรือน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาโยง ตำรวจ ภ.จว.ตรัง แขวงทางหลวงตรัง หมวดการทางนาโยง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ตรัง และฝ่ายปกครองได้ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและผู้ใช้เส้นทางสัญจรแล้ว คาดว่าสถานการณ์น้ำจะคลี่คลายกลับเป็นปกติ หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเติมปริมาณน้ำ ขณะที่ชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ยังต้องเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำต่อไป
ที่ จ.สงขลา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วม พบว่ากระแสน้ำไหลหลาก ได้เอ่อท่วมถนน สูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศบาล ต.พะวง ได้ปิดกั้นถนนฝั่งขาเข้า อ.หาดใหญ่ และเปิดให้ประชาชนใช้เส้นทางเดินรถได้เพียง 1 ช่องทาง ริมเกาะกลางถนน ฝั่งตรงข้าม โดยผู้ใช้รถบางคันได้ขับฝ่ากระแสน้ำแต่ปรากฏว่ากระแสน้ำเชี่ยวและน้ำที่ท่วมสูงทำให้รถดับ
น.ส.เจนจิรา เหมชรา แม่ค้าที่ได้รับผลกระทบ เปิดเผยว่า กระแสน้ำไหลแรง เอ่อสูงจนท่วมร้านอย่างรวดเร็ว ทำให้ทรัพย์สินต่างๆ ได้รับความเสียหายโดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งไม่สามารถขนย้ายได้ทัน ตนอยากทวงถามเงินเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม 9,000 บาท ซึ่งรอบก่อนที่น้ำท่วมช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2567 ก็ยังไม่ได้รับเงิน จนมาถูกน้ำท่วมรอบ 2 ก็ยังไม่รู้ว่าจะได้รับเงินเมื่อไหร่
ด้านนายสรรเพชญ บุญญามณี ส.ส.สงขลา เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าน้ำท่วมใน อ.เมืองบางพื้นที่เป็นจุดที่น้ำท่วมซ้ำซาก บางครั้งฝนตกหนักไม่กี่ชั่วโมง น้ำก็เอ่อท่วมถนนทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับความเดือดร้อน ส่วนสาเหตุเกิดจากทางระบายน้ำ คูระบายน้ำมีขนาดเล็ก และเส้นทางน้ำไหลผ่านลงคลองถูกทับถมจากบ้านเรือนและโรงงาน ส่งผลให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนเพิ่มมากขึ้นทุกปี ตนได้เสนอรัฐบาลในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ไปแล้ว เรื่องโครงการแก้ปัญหาพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก และเรื่องเงินเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม 1/2567 ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับเงิน
ส่วนที่ จ.พัทลุง สถานการณ์น้ำท่วมยังกินบริเวณกว้าง โดยปริมาณน้ำสะสมจากฝนที่ตกต่อเนื่อง ทั้งตกหนักสลับเบามาตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้น้ำท่วมขยายวง กินพื้นที่บ้านเรือน ถนนและพื้นที่การเกษตร ใน อ.ศรีบรรพต อ.ป่าพะยอม อ.ควนขนุน และ อ.เมือง โดยเฉพาะใน ต.นาโหนด ต.ท่าแค ต.นาท่อม อ.เมือง และ ต.นาขยาด ต.ชะมวง ต.พนมวงค์ และเทศบาล ต.หนองพ้อ อ.ควนขนุน น้ำท่วมหนักที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา บ้านเรือนและทรัพย์สินต่างๆ ของชาวบ้านได้รับความเสียหาย
ขณะเดียวกัน บริเวณสี่แยกโพธิ์ทอง ถนนสายเอเชีย ฝั่งขาออกพัทลุง-นครศรีธรรม เริ่มจากหน้าป้อมตำรวจสายตรวจโพธิ์ยาวไปถึงบริเวณสี่แยกระยะทาง 300 เมตร มีน้ำท่วมสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร สำหรับที่สี่แยกโพธิ์ทอง-ศรีบรรพต เส้นทางถูกตัดขาด น้ำไหลเชี่ยวและท่วมสูงเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ เช่นเดียวกับเส้นทางเข้าตัว อ.ควนขนุน น้ำไหลผ่านเป็นช่วงๆ แต่รถยังสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางหน่วยกู้ภัยควนขนุน ร่วมกับชาวบ้านหมู่ 9 ต.ชะมวง ได้เร่งเคลื่อนย้ายวัวเพศเมียซึ่งกำลังตั้งท้อง โดยเจ้าของล่ามไว้ที่ริมถนนแต่ถูกน้ำท่วมซัดร่างวัวจนจมน้ำตาย ก่อนจะนำขึ้นจากน้ำได้สำเร็จ ก่อนจะนำไปฝังทำลายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี