กรณีการฮั้วเลือก สว. มีการร้องเรียนมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และมีข้อเท็จจริงจำนวนมากเป็นที่ประจักษ์ ว่ามีการทุจริตคอร์รัปชั่นมโหฬาร มีขบวนการแทรกแซงระบบเลือกตั้งโดยทุจริตเพื่อทำลายระบบนิติรัฐ ใช้อำนาจเงินและอำนาจรัฐเข้ากำกับควบคุมการเลือกตั้ง โดยที่ กกต.ไม่ดำเนินการตามที่มีการร้องเรียนอย่างกว้างขวางดังนั้น วันนี้ DSI ซึ่งได้รับการร้องเรียนด้วยจะเข้ามารับดูแลคดีในส่วนความผิดทางอาญาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด เพราะเรื่องแปลกประหลาดคือ กกต.ไม่ทำหน้าที่ และไม่เร่งดำเนินการสอบสวนเอาผิด แต่เมื่อมีผู้สมัคร สว.ไปร้อง DSI กลับมีกระบวนการสอบสวนที่ก้าวหน้าเห็นผลมากกว่า
ตามที่ กกต.มีหนังสือสอบถาม DSI ไปเมื่อวันที่22 มกราคม ขอทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคำร้องแต่ละคำร้องที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรับไว้ดำเนินการ รวมทั้งขอทราบว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการอยู่ในขั้นตอนใดแล้ว DSI ตอบมาชัดในจดหมายเมื่อวันที่3 กุมภาพันธ์ ว่าพบพยานหลักฐานปรากฏข้อเท็จจริง พบขบวนการจัดตั้งเครือข่าย เพื่อกระทำความผิดและฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา โดยมีการวางแผนสลับซับซ้อนและมีรายละเอียดค่าตอบแทนตั้งแต่ระดับอำเภอถึงในระดับประเทศ มีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดกว่า1,200 คน
ผมสนับสนุนให้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับเป็นคดีพิเศษในวันที่ 6 มีนาคมนี้ ในส่วนของคดีอาญา เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มีความผิดร้ายแรง แต่ผู้ร่วมกระบวนการไม่รู้สึกผิดชอบชั่วดี ทำลายระบบนิติรัฐ สร้างขบวนการยึดครองสภาสูงโดยมิชอบ และเป็นเหตุให้มีคำถามว่า สว.มีไว้ทำไม และเหตุที่ DSI ต้องรับเพราะ กกต.ไม่ทำหน้าที่ และถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วย ไม่ดำเนินการตามอำนาจและกฎหมายที่มีแม้มีการร้องเรียนจำนวนมาก ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการร้องความผิด กกต.ต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วย เพราะหลักฐานที่มีการร้อง กกต. ร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน และฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีการเลือกตั้ง ค่อนข้างแน่นหนา
ผมยังแปลกใจว่า ทำไมผู้กระทำผิดในขบวนการนี้ถึงกล้าจัดให้เข้าพักโรงแรมเดียวกันอย่างผิดปกติ มีการจองมาล่วงหน้าทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน มีผู้รับจัดการจองที่พักและการเดินทาง มีการใช้โทรศัพท์เป็นกลุ่มก้อนเชื่อมโยงกัน ทำไมไม่ใช้สถานที่ส่วนตัว และปกปิดความผิดกันหน่อย เรื่องนี้จึงมีการกระทำความผิดที่โจ่งแจ้งมากๆ เหมือนมั่นใจว่ามีผู้มีอำนาจอยู่เบื้องหลัง
ผมได้เข้าไปในกระบวนการเลือก สว. และสังเกตการเลือกตั้งที่ จ.ยโสธร ก็ยังพบข้อมูลการทุจริตจริงและยังได้คุยกับผู้เกี่ยวข้องหรือพยานบางคนด้วย พบว่าทุกที มีการจ้างคนลงสมัคร สว. หลายอำเภอเหมือนๆ กัน ทั้งๆ ที่เจ้าตัวไม่อยากเป็น และคุณสมบัติก็ไม่ได้ หรือไม่ตรงปกแต่ลงเพื่อไปเลือกตามโผหรือตามเบอร์ที่ได้รับจ้างมา บางคนยังอยากกลับบ้านก่อนเวลา เงื่อนไขการรับสมัครอาชีพนั้นทำโดยระเบียบกกต.ที่หละหลวม ไม่มีการตรวจสอบ มีการเกณฑ์คนมาสมัครทุกกลุ่ม มีการขนคน มีคนเห็นกันทั้งประเทศ แต่ กกต.ไม่เห็น
เรื่องนี้ กกต. มีอำนาจเต็มในการตรวจสอบการกระทำผิดทุจริตการเลือกตั้งตามกฎหมาย แต่ควรให้ DSI สอบสวนดำเนินคดีความผิดอาญา สว.ควรเป็นอิสระทางการเมือง ไม่ใช่เป็น สว.สังกัดพรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมืองกลุ่มใดที่จัดตั้งขึ้นเพื่อควบคุมสภานิติบัญญัติ เพราะจนถึงวันนี้ กกต.มีเจตนาในการประวิงเวลาตอบกลับ DSI ว่าประสงค์จะรับดำเนินการสอบสวนคดีอาญาใดบ้างเอง หรือมอบให้ DSI เป็นผู้ดำเนินการสอบสวนในคดีอาญาใด
เรื่องนี้ กกต.มีพิรุธ และให้ระวังจะตกเป็นจำเลยของสังคม เพราะสังคมเริ่มกังวลว่าการเลื่อนไป 6 มีนาคมเพื่อให้กลุ่มการเมืองต่อรองกันก่อนหรือไม่ แต่ผมเห็นว่าDSI และ กกต.ต้องร่วมมือกันทำตามกฎหมายและผลประโยชน์เพื่อส่วนร่วมตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ และอย่าได้กังวลกรณีวิปวุฒิสภามีมติเห็นชอบแนวทางการดำเนินการฟ้องร้องเอาผิดกับรัฐมนตรี อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะกรรมการคดีพิเศษ
เพราะกระบวนการนี้คือกระบวนการสอบสวนเท่านั้น ศาลยังไม่ได้ตัดสิน ให้ถือเสียว่าจำเลยมักร้อนตัวและถ้า กกต. DSI ไม่ปฏิบัติหน้าที่อาจโดน ม.157 เสียเอง ส่วนทางแก้ปัญหาในอนาคตควรมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา เพื่อกำหนดสัดส่วนที่มาให้ชัดเจนกว่านี้ เพราะการแบ่งกลุ่ม ไม่ได้สะท้อนสัดส่วนประชากรในประเทศและความสำคัญของกลุ่มอาชีพอย่างแท้จริง
หรือยุบ สว. มรดกรัฐประหาร 2490 ให้เหลือเพียงสภาผู้แทนราษฎรก็พอ!!!
เมธา มาสขาว
รักษาการเลขาธิการ
คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี