ตำรวจน้ำ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB รวบผู้ต้องหาบัญชีม้า รับโอนเงินจากแก๊งหลอกเสนอแผนการลงทุน รับค่าคอมมิชชั่น

​วันนี้ (3 เม.ย.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB มอบหมายให้ พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.เศรษฐสิริ นิพภยะ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.)  พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.รน. พ.ต.อ.พยงค์ เอี่ยมสกุล ผกก.4 บก.รน. พ.ต.ท.อนุสน สุขสิริสุวรรณ รอง ผกก.4 บก.รน. ว่าที่ พ.ต.ท.ทัตพงศ์ เทพไชย สว.ส.รน.4 กก.4 บก.รน. ว่าที่ พ.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ ภูตะลา สว.กก.3 บก.รน.นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.ศิริพร อายุ 42 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 114/2568 ลงวันที่ 10 มีนาคม 2568 ข้อหาเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือ บัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือกิจการที่ตนเกี่ยวข้องฯ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และ พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ​จับกุมได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ เลียบทางรถไฟ ถนนเชื้อเพลิง แขวงและเขตคลองเตย กทม.

สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2567 มีผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้กับตำรวจ สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ว่าถูกหลอกลวง โดยได้รับการนำเสนอแผนการลงทุนและค่าคอมมิชชั่น ซึ่งเป็นการลงทุนโดยการเติมเงินเข้าระบบเพื่อเทรดและกดขายเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ ซึ่งเป็นการหลอกลวงโดยประกาศผ่านการรับสมัครงานหัตถกรรมทางเพจเฟซบุ๊ก และเสนอการลงทุนในกิจกรรม จากนั้นส่งลิงก์ แล้วแจ้งผู้เสียหายให้เข้ากลุ่ม เสริมสร้าง Line voom 882 สามารถติดต่องาน เมื่อผู้เสียหายกดเข้าลิงก์ดังกล่าว พบว่าเป็นกิจกรรมกดถูกใจสินค้า ผู้เสียหายทำอยู่หลายครั้งจนได้เงินมา 900 บาท ต่อมามีการนำเสนอแผนการลงทุนและค่าคอมมิชชั่น โดยให้ผู้เสียหายออกจากกลุ่มไลน์เดิม เข้ากลุ่มใหม่ชื่อ Corporate Fine Institure จากนั้นมีบัญชีไลน์ชื่อ Broker Melada ส่งลิงก์ พร้อมส่งรหัสไอดีและรหัสเข้าสู่ระบบ มาให้ผู้เสียหาย และได้ทำการสอนวิธีการเข้าร่วมกิจกรรม คือเป็นการเติมเงินเข้าระบบและกดเหรียญ ซึ่งมีระยะเวลาเทรดและกดขายเหรียญฯ 3 ครั้ง จึงจะสามารถถอนเงินได้ ผู้เสียหายหลงเชื่อและทำตามขั้นตอน โดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่เป็นชื่อของ น.ส.ศิริพร 4 ครั้ง รวมเป็นเงิน 62,198 บาท ภายหลังทางผู้เสียหาย รู้ตัวว่าถูกมิจฉาชีพหลอกลวงจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้

ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอให้ศาลออกหมายจับผู้ต้องหารายนี้ กระทั่งได้มีการติดตามจับกุมผู้ต้องหา และคุมตัวส่งอัยการเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนครปฐม แต่หลังจากผู้ต้องหา ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวและไม่ได้มาศาล ตามกำหนดนัดโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ซึ่งถือว่ามีพฤติการณ์หลบหนี เป็นเหตุให้ศาลจังหวัดนครปฐม ได้ออกหมายจับผู้ต้องหา จนทางชุดจับกุม บก.รน.สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหา หลบหนีมาอาศัยอยู่บริเวณบ้านเช่าในพื้นที่เขตคลองเตย กทม.จึงวางแผนเข้าติดตามจับกุมตัวไว้ได้ดังกล่าว ก่อนจะคุมตัวส่งศาลจังหวัดนครปฐม เพื่อพิจารณาคดีต่อไป

015