วันพฤหัสบดี ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
7 วันอันตรายวันที่ 3 เสียชีวิตสะสม 100 ราย เจ็บสะสม 752 คน กทม.ตายมากสุด

7 วันอันตรายวันที่ 3 เสียชีวิตสะสม 100 ราย เจ็บสะสม 752 คน กทม.ตายมากสุด

วันจันทร์ ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2568, 13.01 น.
Tag : 7วันอันตราย สงกรานต์ วันสงกรานต์ เมาแล้วขับ อุบัติเหตุทางถนน
  •  

ศปถ. เน้นย้ำจังหวัดบูรณาการทุกภาคส่วนดูแลประชาชน กำชับปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนน ใช้ด่านชุมชน ด่านครอบครัว หน่วยเคลื่อนที่เร็วตรวจตราป้องปรามลงลึกในระดับพื้นที่ คุมเข้มการบังคับใช้กฎหมาย สร้างความปลอดภัยในวันครอบครัว

วันที่ 14 เมษายน 2568 เวลา 10.30 น. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 แถลงข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 เน้นย้ำจังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่อง ใช้ด่านชุมชน ด่านครอบครัว และหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ในการตรวจตรา ป้องปราม และตักเตือนบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงก่อนออกจากชุมชนและพื้นที่จัดงานสงกรานต์ ตลอดจนเพิ่มความเข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมาย สืบสวนขยายผล และดำเนินคดีกับผู้ที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ที่ดื่มแล้วขับจนทำให้เกิดอุบัติเหตุและมีผู้เสียชีวิต กำชับเจ้าหน้าที่จุดตรวจ/จุดบริการประชาชนประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่อย่างเข้มข้น พร้อมแนะนำตักเตือนประชาชนไม่ให้ทำพฤติกรรมเสี่ยง


นายขจร ศรีชวโนทัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง ในฐานะประธานแถลงผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 ประจำวันที่ 13 เมษายน 2568 เปิดเผยว่า จากสถิติข้อมูลอุบัติเหตุในช่วง 3 วันที่ผ่านมา พบว่ายานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือรถจักรยานยนต์ และพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงที่สุดคือการไม่สวมหมวกนิรภัย รองลงมาคือการดื่มแล้วขับ ศปถ. ขอให้ทุกภาคส่วนเพิ่มความเข้มข้นในการกวดขัดพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ โดยใช้กลไกของพื้นที่ในการดำเนินการอย่างการตั้งด่านชุมชนและด่านครอบครัวในการเฝ้าระวัง ตรวจตรา ป้องปราม และตักเตือนบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงให้ปฏิบัติตนให้ถูกต้อง สวมใส่อุปกรณ์นิรภัย และมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน ก่อนขับขี่ยานพาหนะออกนอกชุมชน โดยหากพบผู้กระทำผิดและไม่ปฏิบัติตามคำตักเตือน ขอให้ประสานมายังสถานีตำรวจภูธรใกล้เคียงเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมถึงการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วปฏิบัติการเชิงรุกด้วยการเคาะประตูบ้านเพื่อป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยง การออกตรวจพื้นที่ที่จัดให้มีการเล่นน้ำสงกรานต์และพื้นที่ที่มีการจัดงานประเพณี ไม่ให้มีการจำหน่ายหรือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในงาน ก่อนเดินทางออกจากงานจะต้องสวมใส่อุปกรณ์นิรภัยให้เรียบร้อยและจะต้องไม่มีอาการมึนเมาสุราโดยเด็ดขาด

“ขอให้จังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ขับขี่ที่ทำพฤติกรรมเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทางถนน 10 ข้อ (10 รสขม) ให้ความสำคัญกับการควบคุมดูแลการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาตามที่กฎหมายกำหนด และการไม่จำหน่ายให้กับกลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี โดยในกรณีที่เด็กและเยาวชนอายุที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ดื่มแล้วขับจนทำให้เกิดอุบัติเหตุและมีผู้เสียชีวิต ให้มีการสืบสวนขยายผล เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่จำหน่ายหรือสนับสนุนให้เด็กดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ให้สำรวจจุดเสี่ยง จุดเกิดเหตุซ้ำซาก ทางร่วมทางแยก และจุดกลับรถ เพื่อปรับปรุงและแก้ไขเส้นทางให้มีความปลอดภัยกับผู้ใช้รถใช้ถนนมากยิ่งขึ้น ตลอดจนปรับปรุงเครื่องหมายและเส้นจราจรให้มีความชัดเจน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากสภาพแวดล้อมในการเดินทาง ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการและประชาชนผู้รับบริการและเดินทางสัญจรไปมา ขอให้ตั้งจุดตรวจและจุดบริการประชาชนในบริเวณที่ปลอดภัย ไม่กีดขวางเส้นทางจราจร มีระยะห่างจากขอบเส้นทางที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการตั้งในพื้นที่ที่ถนนเปียกหรือมีน้ำขัง และจะต้องมีเครื่องหมาย กรวย หรือป้ายแสดงตำแหน่งจุดบริการ เพื่อให้ประชาชนเห็นได้อย่างชัดเจน” นายขจร ศรีชวโนทัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าว

พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประธานการประชุมอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี พ.ศ. 2568 กล่าวว่า เนื่องจากการสอบสวนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น พบว่านอกเหนือไปจากดื่มแล้วขับแล้ว ส่วนหนึ่งอุบัติเหตุทางถนนยังเกิดจากการง่วงหลับในที่มาจากการทานยาบางชนิดที่มีฤทธิ์ง่วงซึม จึงขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ข้อมูลการใช้ยาว่ามียาชนิดใดบ้างที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึมและมีผลต่อการขับขี่ เช่น กลุ่มยาแก้แพ้ แก้คัน ลดน้ำมูก กลุ่มยาแก้ปวดอย่างแรง ยาคลายกล้ามเนื้อ ยกแก้ไอ ยากันชัก ยารักษาอาการปวดเส้นประสาท ยาต้านอาการท้องเสีย และหากประชาชนทานยาเหล่านี้ ไม่ควรขับรถโดยเด็ดขาด โดยขอให้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลนี้ผ่านทุกช่องทางของจังหวัด ทั้งเสียงตามสาย ป้ายรณรงค์ และสื่อสังคมออนไลน์ นอกจากนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ณ จุดตรวจและจุดบริการประชาชน ตรวจเช็กการรับประทานยาของผู้ขับขี่ รวมถึงขอให้บุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง (Transport Safety Manager: TSM) ตรวจสอบการรับประทานยาเหล่านี้ของผู้ขับขี่รถโดยสาธารณะ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

ด้านนายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี พ.ศ. 2568 กล่าวเพิ่มเติมว่า 14 เมษายน 2568 เป็นวันครอบครัว ประชาชนจึงมักเดินทางไปรดน้ำขอพรญาติผู้ใหญ่เพื่อความเป็นสิริมงคล บางส่วนอาจเดินทางไปไหว้พระตามวัดต่าง ๆ เพื่อให้ทุกการเดินทางในวันนี้เป็นการเดินทางที่ปลอดภัย ไม่มีความสูญเสีย สมาชิกครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าเพื่อเฉลิมฉลองวันครอบครัวอย่างมีความสุข ขอฝากให้ประชาชนผู้ขับขี่ยานพาหนะขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ไม่ขับรถเร็ว ไม่ดื่มแล้วขับ หากต้องการเปลี่ยนเลน ขอให้ให้สัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อให้สัญญาณกับยานพาหนะโดยรอบ รอจนได้ระยะที่ปลอดภัยแล้วจึงเปลี่ยนเลน ไม่ตัดหน้ากระชั้นชิด รวมถึงสวมใส่อุปกรณ์นิรภัย ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และมีน้ำใจกับผู้ร่วมใช้เส้นทาง

สำหรับข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 ประจำวันที่ 13 เมษายน 2568 ซึ่งเป็นวันที่สามของการรณรงค์ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 13 เมษายน 2568 เกิดอุบัติเหตุ 296 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 299 คน ผู้เสียชีวิต 39 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 44.26 ดื่มแล้วขับ 29.05 และตัดหน้ากระชั้นชิด 17.91 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 85.85 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 81.42 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 37.84 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 32.09 ถนนในเมือง (เทศบาล) ร้อยละ 14.19 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 18.01 – 21.00 น. ร้อยละ 20.61 เวลา 15.01- 18.00 น. ร้อยละ 16.89 และเวลา 12.01 – 15.00 น. ร้อยละ 16.55 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี ร้อยละ 21.89 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,754 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 51,017 คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ภูเก็ต (15 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ลำปาง (19 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ปทุมธานี สระแก้ว และเชียงราย (จังหวัดละ 3 ราย)

สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 3 วันของการรณรงค์ (11 เมษายน – 13 เมษายน 2568) เกิดอุบัติเหตุรวม 756 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 752 คน ผู้เสียชีวิต รวม 100 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 30 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ พัทลุง (28 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ ลำปาง (31 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (10 ราย) 
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ผอ.รพ.เมาขับชน 2 ทีมข่าว ยอมจ่ายเยียวยาผู้เสียหาย ลั่นขอรับผิดชอบทุกเรื่อง ผอ.รพ.เมาขับชน 2 ทีมข่าว ยอมจ่ายเยียวยาผู้เสียหาย ลั่นขอรับผิดชอบทุกเรื่อง
  • สธ.สั่งย้าย\'ผอ.รพ.\'เมาแล้วขับ ช่วยราชการที่ สสจ.ชัยภูมิ  ตำรวจเตรียมแจ้ง 2 ข้อหาหนัก สธ.สั่งย้าย'ผอ.รพ.'เมาแล้วขับ ช่วยราชการที่ สสจ.ชัยภูมิ ตำรวจเตรียมแจ้ง 2 ข้อหาหนัก
  • ทำผิดต้องลงโทษ! ’สมศักดิ์‘ ฟันวินัย ‘ผอ.โรงพยาบาล’ เมาขับ ลั่นดำเนินคดีเต็มที่ ทำผิดต้องลงโทษ! ’สมศักดิ์‘ ฟันวินัย ‘ผอ.โรงพยาบาล’ เมาขับ ลั่นดำเนินคดีเต็มที่
  • \'ผอ.โรงพยาบาล\'เมาแล้วขับ พุ่งขึ้นฟุตบาท ชน 2 นักข่าวสาหัส จับเป่าแอลกอฮอล์พุ่ง 119 'ผอ.โรงพยาบาล'เมาแล้วขับ พุ่งขึ้นฟุตบาท ชน 2 นักข่าวสาหัส จับเป่าแอลกอฮอล์พุ่ง 119
  • ย่าใจสลาย! หลานสาววัย12ปี ถูกเพื่อนลวงไปเล่นสงกรานต์มอมยารุมขืนใจ ย่าใจสลาย! หลานสาววัย12ปี ถูกเพื่อนลวงไปเล่นสงกรานต์มอมยารุมขืนใจ
  • คนเก็บขยะเทศบาลโหด!! ลั่นไก3นัดดับกลางถนน ฉุนโดนบ่นกินเหล้าไม่เลิก คนเก็บขยะเทศบาลโหด!! ลั่นไก3นัดดับกลางถนน ฉุนโดนบ่นกินเหล้าไม่เลิก
  •  

Breaking News

'เจ้าคุณธงชัย'มีคำสั่งให้ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พ้นทุกตำแหน่ง เซ่นยักยอกเงินวัด

บุกช่วย 2 น้องลิงอุรังอุตัง สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ จากเครือข่ายพรากลูกลิงจากแม่

'พีพี กฤษฏ์'ปังไม่หยุด! ติดโผดาวรุ่งเอเชียใน'Forbes 30 Under 30 Asia 2025'

อย่ามาใส่ร้าย! 'อนุทิน'ไม่เกี่ยวฮั้วเลือก สว. 'สส.สุขสมรวย' จ่อฟ้อง 'กุสุมาลวตี'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved