"มท.1"เผย คกก.สอบโครงสร้าง"ตึก สตง."ถล่ม พุ่งเป้าที่การออกแบบ-ปล่องลิฟต์อสมมาตร รับไม่สบายใจหลังเจอปูดปม"ปลอมลายเซ็น"วิศวกร ยันหากเป็นจริง เอาผิดแน่ คาดเริ่มจ่ายเงินเยียวยาเหยื่อได้ภายในพรุ่งนี้
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงความคืบหน้าคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงการก่อสร้างอาคาร สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ว่า เบื้องต้นได้วางกรอบการสืบสวนไว้แล้ว โดยคณะกรรมการฯ ได้มารายงานต่อนายกรัฐมนตรี และตนแล้ว ขณะนี้พอที่จะทราบหนึ่งในสาเหตุ ตรงกับที่ ศ.กิตติคุณ ดร.วรศักดิ์ กนกนุกุลชัย ได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่าปล่องลิฟต์อสมมาตร ถือเป็นสองหน่วยงานที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน แต่ใช้ข้อมูลวิเคราะห์คำนวณหาสาเหตุ ซึ่งเราต้องคำนวณเชิงลึกเพื่อหาสาเหตุให้มั่นใจว่า ไม่มีข้อสงสัย และไม่มีข้อโต้แย้ง เพราะเป็นเรื่องของวิศวกรรมศาสตร์ จะต้องถูกพิสูจน์ด้วยการคำนวณ
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า คณะกรรมการจะพุ่งเป้าไปที่การออกแบบก่อน โดยเฉพาะเรื่องการออกแบบที่ไม่สมมาตรกับตึก เมื่อมีเหตุการณ์แผ่นดินไหว นอกจากจะมีการแกว่งของตัวตึกแล้ว พอเป็นอาคารที่ไม่สมบูรณ์แล้วจะเกิดแรงบิดต้องดูว่าเมื่อเกิดเหตุแล้วค่าสัดส่วนความปลอดภัย (Safety Factor) ที่ต้องทนต่อแรงบิด แรงเฉือน ได้ออกแบบเผื่อไว้ตามหลักหรือไม่ อย่างไรก็ตาม กรมโยธาธิการและผังเมือง มีหน้าที่ตรวจสอบหาสาเหตุตึกถล่มในเชิงวิศวกรรมศาสตร์ ส่วนเรื่องการกระทำผิด ทุจริต และฮั้วประมูลไม่ใช่หน้าที่ แต่หากมีข้อมูลจะส่งให้ สตง.ในฐานะเจ้าของโครงการได้รับทราบเพื่อไปดำเนินการต่อ
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการพบว่าบริษัทผู้ควบคุมงานมีการปลอมลายเซ็น และใช้วิศวกรที่มีอายุมากถึง 85 ปี นายอนุทิน กล่าวว่า ยอมรับว่าในฐานะวิศวกรคนหนึ่ง ตนเองฟังแล้วรู้สึกไม่สบายใจ เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องวิชาชีพไม่ควรมีการปลอมลายเซ็นได้ เหมือนแพทย์ไปออกใบรับรองแพทย์ที่ไม่ถูกต้องหรือตรงหลักความเป็นจริงก็ถือว่าผิดหลักจรรยาบรรณ การปลอมลายเซ็นหากเกิดขึ้นจริงถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ จะต้องมีการดำเนินคดี โดยเร็วๆ นี้จะมีการเชิญอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง มาหารือว่ามีหน้าที่ควบคุมจรรยาบรรณของสายวิชาชีพหรือไม่ สภาวิศวกรที่เป็นคนออกใบอนุญาตให้กับหน่วยงานทางด้านวิศวกรรมก็ขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทย ตนเองเป็นสภานายกพิเศษสภาวิศวกรก็ต้องดูเรื่องนี้
"หากมีการปลอมลายเซ็นจริง ปลอมแปลงเอกสาร อ่านจากข่าวได้ข้อมูลว่ามีท่านหนึ่งที่เป็นผู้อาวุโสบอกว่าส่งมาก็เซ็นๆ ไปแบบนั้นมันไม่ได้ ความเป็นวิชาชีพห้ามพูดแบบนั้นเป็นอันขาด การจะเซ็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย และต้องใช้ใบอนุญาตจะต้องมีความเข้มงวด และได้รับการปฏิบัติด้วยตนเอง" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการฯ ใช้เวลาในการสืบสวนนานถึง 90 วัน ว่า คณะกรรมการเป็นอาจารย์ เป็นนายกสภาวิศวกร เป็นกรรมการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เป็นตัวแทนของคณะวิศวกรรมศาสตร์จากสถาบันและมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องทางเทคนิค เขาบอกว่า 90 วัน เราร้องขอที่จะทำให้มันเร็วขึ้น แต่คณะกรรมการยืนยันว่าเรื่องนี้ หากผลสอบออกมาแล้วจะต้องไม่มีข้อโต้แย้ง ผิดคือผิด โดยในคณะกรรมการจะทำงานเช่นเดียวกับผู้พิพากษา ต่างคนต่างไปคำนวณเชิงลึก แล้วนำมาหารือร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง หากตนเองบอกว่าไม่ได้ จะต้องขอภายใน 15 วัน ก็ถือเป็นการก้าวก่ายหรือล่วงละเมิด
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ขณะที่ความคืบหน้าในการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ขณะนี้เงินทดรองได้ผ่านกรมบัญชีกลาง ไปอยู่ในมือของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แล้ว แต่ละจังหวัดจะมีการประสานขอข้อมูลของญาติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว คาดว่าในวันนี้หรือพรุ่งนี้ จะเริ่มจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ จำนวนรายละ 100,000 บาท ตามที่ได้ขอยกเว้นหลักเกณฑ์ไว้กับกรมบัญชีกลาง นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานจาก นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ว่ามีญาติผู้เสียชีวิตที่ยังคงรอการกู้ร่างในซากตึก อีก 1 ราย ซึ่งคาดว่าจะนำเงินไปมอบช่วยเหลือให้ที่หน้าไซต์งาน ส่วนผู้สูญเสียรายอื่นๆ ก็จะดำเนินการมอบเงินตามหลักเกณฑ์ไปยังภูมิลำเนาของญาติ ทั้งรูปแบบการโอนผ่านพร้อมเพย์ หรือการมอบเป็นเงินสด โดยย้ำว่า เงินดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น ผู้สูญเสียยังสามารถไปเรียกร้องตามกระบวนการทางกฎหมายเพิ่มเติมได้อีก
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี