ซุบซิบกทม.

สำหรับรถเมล์“โกโรโกโสคร่ำครึ”ควันดำที่ ขสมก.ยังปล่อยออกมาวิ่งรับส่งผู้โดยสารนั้น ในอู่ตลาดมีนบุรี รวมทั้งอู่ใกล้ๆสวนสยาม วันนี้ยังอนุรักษ์มรดกบาปเอาไว้หลายคัน โดยทุกวันชาวบ้านผู้พบเห็นบอกว่า รู้สึกรำคาญสุดขั้วหัวใจกับพฤติกรรมทำลายสิ่งแวดล้อมของ“รถนรก”พวกนี้ เนื่องจากมีควันดำตลอดเวลา เคยร้องเรียนไปที่หมายเลขโทรศัพท์ตามป้ายประกาศประชาสัมพันธ์ของ กทม.ใต้ทางรถไฟฟ้าหลายต่อหลายครั้ง แต่ทุกครั้ง คือ ความเงียบ ซึ่งก็ไม่รู้ว่า จะประกาศเพื่ออะไรทำไม เพราะรู้ๆ อยู่ กทม.ทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากไม่มีอำนาจเข้าจัดการสั่งการหรือแก้ไขใดๆ กรมควบคุมมลพิษ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม หน่วยงานรับผิดชอบหลักก็มืดบอดกับรถเมล์ ขสมก.ควันดำ แถมผู้คนสงสัยทั่วหน้า เหตุใดไม่ทำจริงๆเล่นกันจริงๆเสียที ...ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความเดือดร้อนของประชาชนที่อึดอัดใจแล้วสะท้อนออกมา อนิจจาไม่ว่าผู้คนจะพูดจะร้องแรก“แหกกระเฌอ”อย่างไร ขสมก.ก็ยังนำเอารถ“ผีแห้งโลงผุ”ออกมาวิ่งไม่ทุกข์ไม่ร้อนเหมือนเดิม ซึ่งก็ไม่รู้เกิดวิบากกรรมอะไรกับประชาชน และ เหตุใด ทำไม ขสมก.จึงไม่มีปัญญาแก้ไขปรับปรุงเครื่องยนต์รถเมล์ให้มีการ“เผาไหม้สันดาบ”ที่สมบูรณ์ก่อนนำ“ซากรถปรักหักพัง”ออกมาวิ่ง...แน่นอนควันดำจากรถ ขสมก.อาจมีปัญหาสนับสนุนให้เกิดpm2.5ในเปอร์เซ็นน้อย แต่ทรัพย์สิน หรือยานพาหนะของรัฐฯไม่ควรทำตัวอย่างต่ำๆให้ผู้คนแขยง  แช่งชักหักกระดูก เพราะนั่นเป็นการแสดงให้แลเห็นว่า ขสมก.ไม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเหมือนคำโฆษณา...ส่วนประเด็นปัญหา“ชะตากรรมชะตาทราม”ถนน มหาจักร ติดกับโรงพยาบาลกลางและสำนักแพทย์ กรณีที่มีกลุ่มคนบังอาจบุกรุกจับจองผิวถนนเป็นที่จอดรถกันหน้าตาเฉยนั้น ถึงวันนี้ภาพสกปรกโสโครกดังกล่าวก็ยังมีเหมือนเดิม ถนนเกือบ3เลนกว่า บางวันเหลือไว้แค่1ช่องทาง เขตป้อมปราบฯจนปัญญาบริหารจัดการ และเชื่อว่าหลังจากการนำแอสฟัลต์ลงปูพื้นผิวจราจรใหม่เสร็จสิ้น ความเน่าเละจะกลับมาเหมือนเดิม เพราะเขตไม่กล้าเข้าไปแตะ หรือจัดระเบียบ...ถนนเอกชัยบางบอนทุกวันมีรถบรรทุกวิ่งปล่อยควันดำกันสาหัสสากรรจ์ ประชาชนข้องใจเหตุร้ายทางสิ่งแวดล้อมลักษณะนี้ ไฉนตำรวจจึงไม่ตั้งด่านตรวจ ที่สำคัญโรงงานหลายแห่งก็ยังไม่เห็น กรมโรงงานฯกรมควบคุมมลพิษ ตลอดถึงคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมขยับเลย...

ไผ่ฎำ

036