"DSI"ยื่นเดดไลน์วิศวกร 13 ราย มีชื่อโผล่คุมงานตึก สตง.ถล่ม ต้องเข้าพบ พงส.ภายในสัปดาห์หน้า ขณะที่วิศวกร 38 คน เข้าให้ปากคำแล้ว ยอมรับเป็นลายเซ็นจริง 8 ราย

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายสำหรับการสอบสวนปากคำพยานวิศวกรอีก 10 รายที่เหลือ จากหมายเรียกพยานวิศวกรทั้งหมด 40 ราย โดยตั้งแต่วันที่ 29 - 30 เม.ย.68 และ 1 พ.ค.68 รวมมาแล้ว 25 ราย ปรากฏว่า ให้การว่ามีวิศวกรบอกว่าถูกปลอมลายเซ็น 19 ราย ขณะที่วิศวกรยอมรับว่าเป็นลายเซ็นของตนเองจริง 6 ราย

สำหรับวันนี้ มีพยานวิศวกรมาพบพนักงานสอบสวน 11 ราย ให้การยอมรับว่ามีการปลอมลายเซ็น 9 ราย และยอมรับว่าเป็นลายเซ็นของตนเองจริง 2 ราย ดังนั้น จนถึงวันนี้มีการเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว 36 ราย แบ่งเป็นให้การยอมรับว่าเซ็นควบคุมงานตึก สตง.จริง จำนวน 8 ราย และให้การว่าถูกปลอมลายเซ็น จำนวน 28 ราย ดังนั้น จึงยังคงเหลือวิศวกร 4 ราย ที่ไม่เข้ามาพบพนักงานสอบสวนตามนัดหมาย (29 เม.ย.68 - 2 พ.ค.68) อย่างไรก็ตาม ได้มีวิศวกร 2 ราย ที่ตัดสินใจเดินทางเข้าพบพนักงานสอบ สวนก่อนมีหมายเรียกพยาน คือ นายสมเกียรติ ชูแสงสุข และนายชัยฤทธิ์ (สงวนนามสกุล) ฉะนั้น จากรายชื่อวิศวกรรวม 51 ราย ที่ดีเอสไอตรวจสอบพบว่ามีลายเซ็นและชื่อปรากฏในเอกสารการควบคุมงานตึก สตง.รวมเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว 38 ราย จึงเหลือวิศวกรทั้งหมด 13 ราย ที่ต้องเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนภายในกรอบเวลาสัปดาห์หน้า

ขณะที่ มีรายงานว่า พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะมีการแถลงข่าวถึงผลการสอบสวนทางคดีในเบื้องต้นให้ทราบความคืบหน้าซึ่งจะกำหนดวันแถลงข่าวอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ส่วนการสอบปากคำ นายสมชาย ทรัพย์เย็น วิศวกรผู้จัดการโครงการของกิจการร่วมค้า PKW ในฐานะผู้ควบคุมงาน ซึ่งปรากฏชื่อในการลงนามให้ปรับแก้ Core Lift ตามแบบขยายที่ผู้ออกแบบได้ปรับแก้ในการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) คณะพนักงานสอบสวนยังคงอยู่ระหว่างการสอบปากคำต่อเนื่อง คาดว่าอาจใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากมีประเด็นจำนวนมากที่ต้องให้เจ้าตัวอธิบายขยายความ

- 006