เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.เศรษฐสิริ นิพภยะ ผบก.รน., พ.ต.อ.ศราวุฒิ ลิจฉวีราช รอง ผบก.รน., พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.รน., พ.ต.อ.นิรัตน์ ช่วยจิตต์ รอง ผบก.รน., พ.ต.อ.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา ผกก.7 บก.รน.ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.อ.นัฐพงศ์ ตาแก้ว ผกก.ประจำ บก.รน. (ปฏิบัติหน้าที่ใน ศรชล), พ.ต.ท.ศรัณย์วิทย์ ฐีระเวช รอง ผกก.8 บก.รน., พ.ต.ท.วิษณุ จินาวงษ์ สว.ส.รน.3 กก.8 บก.รน., ว่าที่ พ.ต.ต.บุรฉัตร เลี่ยมชาติ สว.ส.รน.3 กก.7 บก.รน., ร.ต.ต.อภินันท์ รัตนสันต์ รอง สว.(ป.ทางน้ำ) ส.รน. 2 กก.7 บก.รน., ร.ต.ท.ธนกร นิธิอนันต์ รอง สว.(ทนท.ทางน้ำ ) กก.2 บก.รน., ร.ต.ท.พลพิชัย ชูเมือง รอง สว. ส.รน.1 กก.7 บก.รน., ร.ต.ต.ภักดี รับไซ รอง สว.(ป.)ทางน้ำ ส.รน.3 กก.7 บก.รน.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.รน.ร่วมกันจับกุม ชาวประมงชาวเวียดนามรวม 15 ราย แบ่งเป็น กลุ่มคนประจำเรือประมง ประเภท เรือตกเบ็ด (ลำที่ 1) 10 ราย , กลุ่มคนประจำเรือประมง ประเภท ลากเดี่ยว (ลำที่ 2) 5 ราย
ฐานความผิด เป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไม่เข้ามาตามช่องทาง ด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าสถานีหรือท้องที่ , เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันทำการประมงพาณิชย์ในน่านน้ำไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันใช้เรือไร้สัญชาติทำการประมง
โดยมีการกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 และ 11 (ผู้ควบคุมเรือ) เพิ่มเติมว่า เป็นเจ้าของหรือผู้ควบคุมพาหนะ นำพาหนะเข้ามาหรือออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านการตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่ , เป็นเจ้าของเรือ/เป็นผู้ควบคุมเรือฝ่าฝืนใช้เรือที่มีสัญชาติต่างประเทศ/เรือเป็นของคนต่างด้าวทำการประมงในเขตการประมงไทย , มี ใช้ เครื่องวิทยุโทรคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาต , ตั้งสถานีเครื่องวิทยุโทรคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาต , นำเรือออกมาใช้โดยไม่มีใบอนุญาตการใช้เรือ , ทำหน้าที่ในเรือโดยไม่มีใบประกาศนียบัตรควบคุมเรือ , นำเรือประมงที่มิใช่เรือไทย ที่มีการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเข้ามาในราชอาณาจักร และกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 - 10 และ 12 - 15 เพิ่มเติมว่า เป็นบุคคลต่างด้าวทำหน้าที่เป็นลูกเรือในเรือประมงในเขตการประมงไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าว
พร้อมตรวจยึดของกลาง เรือประมง หมายเลขทะเบียนเขียนไว้ที่หัวเรือทั้งสองด้าน เค.จี. 623 56 ที.เอส. ตัวเรือสีเขียว กาบเรือสีเหลือง เก๋งเรือสีเหลือง ตัวเรือทำด้วยไม้ จำนวน 1 ลำ , เรือประมง หมายเลขไม่หมายทะเบียนและเครื่อหมายใดๆ ตัวเรือสีเขียว กาบเรือสีเทา เก๋งเรือสีเทา ตัวเรือทำด้วยไม้ จำนวน 1 ลำ , สัตว์ทะเล จำพวกปลา และปลิงทะเล
สถานที่เกิดเหตุ ในทะเลอาณาเขตตรงกันกับตำบลบางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส ห่างจากปากร่องน้ำบางนราไปทางทิศตะวันออกประมาณ 21 ไมล์ทะเล สถานที่จับกุม ส.รน.3 กก.7 บก.รน. (ตำรวจน้ำนราธิวาส)
พฤติการณ์ ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 29/2568 เรื่องศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปนม.ตร.) โดยกำหนดอำนาจหน้าที่ให้ชุดปฏิบัติการที่ 3 ภายใต้สังกัดศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง กองบังคับการตำรวจน้ำ (ศปนม.บก.รน.) ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามกรกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงและความผิดเกี่ยวเนื่องในพื้นที่ กก.6, 7 บก.รน.
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำจึงได้นำเรือประทุมวัน 2 (817) ออกตรวจลาดตระเวนในทะเล โดย ว่าที่ พ.ต.อ.นัฐพงค์ ตาแก้ว ผกก.ประจำ บก.รน. หัวหน้าชุดปฎิบัติการ ได้รับแจ้งว่าได้มีเรือประมงไม่ทราบสัญชาติลักลอบเข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำไทย บริเวณทะเลหน้าจังหวัดนราธิวาส จึงนำเรือปทุมวัน 2 (817) ออกลาดตระเวนเพื่อทำการตรวจสอบ ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.ของวันที่ 3 พฤษภาคม 2568 ขณะที่ทำการลาดตระเวน ได้ตรวจพบเรือทั้ง 2 ลำ ที่ต้องสงสัยตามที่ได้รับแจ้ง จึงทำการเข้าตรวจค้นตามยุทธวิธีทางเรือ พร้อมกับแสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ขอตรวจเอกสารเรือ คนประจำเรือ แต่ทั้งหมดไม่สามารถฟังและพูดภาษาไทยได้ และไม่มีเอกสารใดๆ มาแสดง เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้น แต่เนื่องจากสภาพคลื่นลมแรง และเป็นเวลากลางคืน จึงได้มีการควบคุมเรือประมงลำดังกล่าวกลับมายังท่าเทียบเรือ ส.รน.3 กก.7 บก.รน.เพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
จนเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2568 เรือตรวจการณ์หมายเลข 518 ได้นำเรือประมงทั้งสองลำมาจอดเทียบที่ ส.รน.3 กก.7 บก.รน.และจากการตรวจสอบเบื้องต้นปรากฏว่า เรือประมงลำดังกล่าว เป็นเรือประมงสัญชาติเวียดนาม จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ติดต่อล่ามสัญชาติเวียดนาม ทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษา ซึ่งจากการสอบถามทราบว่าทัั้งหมดเป็นชาวเวียดนาม ไม่มีเอกสารประจำตัว และไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำประมงในน่านน้ำไทย เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันทำการตรวจยึดสิ่งของดังกล่าวข้างต้นไว้เพื่อเป็นของกลาง และได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่บุคคลดังกล่าว จากนั้นจึงนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ทราบและเข้าใจในข้อกล่าวหาดังกล่าวข้างต้น และให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี