ทนายความแจ้งความร้องทุกข์เอาผิด บุคคลใช้สื่อ Facebook โพสต์ข้อความดูหมิ่นเหยียดหยามต่อธงชาติไทย เข้าข่ายการกระทำความผิดกฎหมาย

 8 พฤษภาคม 2568) พันเอก เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้แถลงชี้แจงกรณี ตามที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์แอปพลิเคชั่นเฟสบุ๊ค ได้โพสต์ข้อความที่มีเนื้อหากล่าวคือ มีรูปธงชาติไทยและต่อด้วยข้อความว่า “ธงคือผ้าเช็ดเท้า 5555”

ซึ่งภาพและข้อความดังกล่าวสร้างความรู้สึกที่ไม่ดีต่อประชาชนชาวไทยทุกคนที่พบเห็น เนื่องจากถือว่าเป็น การเหยียดหยามธงชาติไทย ซึ่งในสากลนั้น ธงชาติถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ แสดงถึงเอกลักษณ์ ศักดิ์ศรี และความภาคภูมิใจในความเป็นชาติ นอกจากนั้นสำหรับธงชาติไทย สีและแถบธงชาติมีความหมายถึง ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อันเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ของคนในชาติ เพื่อแสดงความเป็นเอกราช และดำรงไว้ ซึ่งความเป็นปึกแผ่นของประเทศไทยให้ยั่งยืนตลอดไป

จากเหตุการณ์ดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พบว่าการโพสต์ข้อความในลักษณะดูหมิ่นเหยียดหยามต่อธงชาติไทยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เข้าข่ายการกระทำความผิดกฎหมายหลายฉบับ ดังนี้

1. พระราชบัญญัติธง พ.ศ. 2522

มาตรา 45 การใช้ ชัก หรือแสดงธงที่มีความหมายถึงประเทศไทยหรือชาติไทย ตามมาตรา 5 ให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี มาตรา 48 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 45 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 53 ผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดต่อธงตามมาตรา 5 หรือมาตรา 6 ดังต่อไปนี้

(3) ใช้ ชัก หรือแสดงธง รูปจําลองของธง หรือแถบสีธงไว้ ณ ที่หรือโดยวิธีอันไม่สมควร

และ (5) แสดงหรือใช้สิ่งใดๆ ที่มีรูปธง รูปจําลองของธง หรือมีแถบสีธงอันมีลักษณะตาม (4) โดยไม่สมควร (ประดิษฐ์ธง รูปจำลองของธง หรือแถบสีธงไว้ ณ ที่หรือสิ่งของใดๆ โดยไม่สมควร)

มาตรา 54 ผู้ใดกระทำการใด ๆ อันมีลักษณะเป็นการเหยียดหยามต่อธง รูปจําลองของธง หรือแถบสีธง ที่ได้บัญญัติกำหนดลักษณะไว้ในพระราชบัญญัตินี้ หรือตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งออกตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2. ประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 118 ผู้ใดกระทำการใด ๆ ต่อธงหรือ เครื่องหมายอื่นใดอันมีความหมายถึงรัฐ เพื่อเหยียดหยามประเทศชาติ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560

มาตรา 14 (3) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือ ความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับการที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จำเป็นต้องร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น เนื่องจากความผิดดังกล่าว เป็นความผิดต่อแผ่นดิน ซึ่งรัฐเป็นผู้เสียหาย ดังนั้น หากมีผู้ใดพบเห็นการกระทำความผิดดังกล่าว ก็สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ทำการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายได้ทันที อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่ที่มีความละเอียดอ่อน ด้านความมั่นคง ด้วยเหตุนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงถือเป็นผู้แทนประชาชน ชาวไทยในการร้องทุกข์กล่าวโทษผู้กระทำการเหยียดหยามต่อธงชาติไทย

ในวันนี้ (วันที่ 8 พฤษภาคม 2568) ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากผู้อำนวยรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตามคำสั่ง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ที่ 453/2560 เรื่อง การมอบอำนาจให้รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ดำเนินการทางคดี ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2560 จึงได้มอบอำนาจให้ นายวิฑูรย์  คีรีลักษณ์ ทนายความ เป็นผู้รับอำนาจที่ 1 , นายจรูญ  คงระงับ ทนายความ เป็นผู้รับมอบอำนาจที่ 2 และนายวรเกียรติ  ไชยชนะ ทนายความ เป็นผู้รับมอบอำนาจที่ 3  ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ร่วมกันหรือแทนกันในการกล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี ตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนตามกฎหมายกับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดดังกล่าว เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ใช้ Facebook ชื่อบัญชี Tengku Mahammad Bisrun Kamadeng ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

.012