สภาประชาชนฯ เตือนภัย! มิจฉาชีพลวงลงทุน Forex เสียหายมากกว่าปีละหมื่นล้าน
สภาประชาชนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สังคมไทยยังคงมีปัญหาการก่ออาชญากรรมบนออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมที่รุนแรง เนื่องจากเป็นการหลอกลวงเพื่อมุ่งโกงเงินซึ่งสร้างความเสียหายกับผู้ที่ถูกหลอกลวง โดยขณะนี้ สภาประชาชนแห่งประเทศไทย มีความห่วงใยการหลอกลวงในเรื่อง Forex เป็นอย่างมาก เนื่องจาก Forex เป็นธุรกรรมปกติที่มีอยู่จริง คือ การเป็นตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ด้วยธุรกรรมซื้อขายกันโดยตรง (OTC) ระดับโลก ซึ่งเทรดเดอร์ นักลงทุน สถาบัน และธนาคารจะแลกเปลี่ยน เก็งกำไร ซื้อและขายสกุลเงินของโลกในตลาดระหว่างธนาคาร ซึ่งเป็นช่องทางทางออนไลน์ที่มีการเทรดสกุลเงินตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน จึงเป็นหนึ่งในตลาดการเทรดที่ใหญ่ที่สุด โดยมีเงินหมุนเวียนทั่วโลกในแต่ละวันโดยประมาณมากกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ธุรกรรมดังกล่าวมีความผันผวนสูง เนื่องจากผู้ลงทุนมีโอกาสทำกำไรได้ตลอดเวลา
“เพราะว่าเป็นธุรกรรมที่มีอยู่จริงๆ ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายทำกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนได้จริงๆ เช่น วันนี้ลงทุนซื้อไว้ที่ 1 ดอลลาร์ ที่ 34 บาท พอวันรุ่งขึ้น อัตราแลกเปลี่ยนขยับไปเป็น 1 ดอลลาร์ ที่ 35 บาท จะเท่ากับว่าผู้ลงทุนมีกำไร 1 บาทต่อดอลลาร์ แต่ในทางกลับกัน หากอัตราแลกเปลี่ยนลดลงเป็น ดอลลาร์ละ 33 บาท ผู้ลงทุนก็จะขาดทุน 1 บาทต่อดอลลาร์ทันที จึงถือเป็นตลาดที่มีความเสี่ยง ผู้ที่จะลงทุนจะต้องมีความรู้ มีข้อมูลในการที่จะตัดสินใจลงทุน และเพราะตลาด Forex มีจริง มิจฉาชีพจึงใช้เรื่องนี้มาหลอกลวงโกงเงินผู้คน เนื่องจากหากเหยื่อมีความสงสัย แล้วไปค้นหาข้อมูล ก็จะพบว่าเป็นตลาดที่สามารถลงทุนได้จริง ทำให้มิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางในการหลอกลวงได้ง่ายขึ้น ซึ่งพบว่าในแต่ละปีเกิดความเสียหายจากการหลอกลวงลงทุน Forex เป็นมูลค่าสูงกว่าหมื่นล้านบาท”
สภาประชาชนแห่งประเทศไทย ระบุว่า ด้วยเหตุนี้ จึงขอนำ 6 กลโกงยอดฮิตของมิจฉาชีพด้วย Forex ปลอม มาเตือนภัยประชาชน ดังนี้
1. สร้างแพลตฟอร์มปลอมเลียนแบบของต่างประเทศ
2. ใช้ “อินฟลูเอนเซอร์” เพิ่มความน่าเชื่อถือ
3. เสนอผลตอบแทนสูงผิดปกติ พร้อมการันตีกำไร
4. โอนกำไรครั้งแรกจริง สร้างความไว้ใจ
5. หลอกให้เพิ่มเงินลงทุน
6. ปิดเว็บหนี หลังดูดเงินเรียบร้อย
อีกทั้งโดยข้อเท็จจริงจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 7 เม.ย. 2567 มีการระบุไว้ว่า “ยังไม่มีเว็บไซต์ใดในไทย ได้รับใบอนุญาตให้บริการเทรด Forex” ทุกเว็บไซต์ที่อ้างว่าเทรด Forex ในไทยจึงเท่ากับเป็นระบบปลอม โดยธนาคารแห่งประเทศไทยระบุข้อความเตือนประชาชน ว่า เตือนไว้ให้ระวัง!! การถูกชักชวนลงทุนเทรด FOREX ซึ่งปัจจุบัน ยังไม่มีใครได้รับใบอนุญาต ให้บริการเทรด FOREX บนแพล็ตฟอร์มหรือเว็บไซต์ในประเทศไทย
ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ FOREX โดยไม่มีใบอนุญาตมีความผิดตามกฎหมาย เช่น ให้บริการรับ-ส่งเงิน เพื่อชำระธุรกรรม FOREX ทั้งในและต่างประเทศ โฆษณาหรือเชิญชวนเข้ามาเทรด FOREX โดยไม่มีใบอนุญาต
สำหรับข้อสังเกตุตัวอย่างเครื่องมือที่ใช้ในระบบปลอม ประกอบด้วย เว็บไซต์ปลอม (.net, .vip, .xyz) ใช้ LINE OA หรือ Facebook Group สร้าง Community Dashboard HTML ธรรมดา ที่หลอกแสดงตัวเลข แจกโบนัส, ปันผล, เชิญเพื่อนเข้าร่วมลงทุนโดยได้ค่าคอมแบบแชร์ลูกโซ่
นอกจากนี้ มิจฉาชีพยังมีการใช้เทคนิคใหม่ในการหลอกลวง โดยให้เหยื่อโอนเงินผ่าน PromptPay แทนบัญชีม้า เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบ แต่จริงๆ แล้ว ได้มีการผูกพร้อมเพย์ไว้กับบัญชีไทยเช่นกัน
สำหรับแนวทางในการหลอกลวงของมิจฉาชีพ จะมีลักษณะ ดังนี้
1. ชักชวนให้ร่วมลงทุน ใช้ชื่อโบรกเกอร์ดัง (เช่น EXNESS, FXPRO, XM) โดยปลอมเว็บไซต์หรือใช้ซื่อคล้ายกัน มีแอดมินหรือ "โค้ช" ชวนผ่าน Facebook, Line, TikTok
2. โอนเงินเข้าบัญชีปลายทางบุคคล ผู้ลงทุนต้องโอนเงินเข้าบัญชีส่วนบุคคล (บัญชีปลายทางธนาคารไทย)ไม่มีบัญชีเทรดจริง ไม่มีระบบกลาง ไม่มีใบอนุญาต
3. แสดงผลกำไรปลอม ใช้ Dashboard ปลอมที่แสดงกำไรแบบ Overclaim เช่น กำไร 30-50% ต่อเดือน โดยระบบ "ถอนเงิน" ทำได้ในช่วงแรกเพื่อล่อให้ลงทุนเพิ่ม
4. ระบบบล่ม /โกง / ปิดหนีเมื่อยอดเงินรวมเยอะมากพอหรือมีคนเริ่มจับได้ ระบบจะอ้างว่าถูกแฮก โดนสอบสวน ฯลฯ ปิดหนี / บล็อกการติดต่อ
ทั้งนี้ สภาประชาชนแห่งประเทศไทย เน้นย้ำเตือนด้วยว่า โปรดอย่าหลงเชื่อ การได้กำไรง่ายๆไม่มีอยู่จริง อย่าโอนเงิน หากไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเว็บถูกกฎหมาย และหากสงสัย ให้สอบถามกับ ก.ล.ต. หรือ ธปท.ทันที
ซึ่งระบบ Forex จริง (Real Forex System) จะแตกต่างจากระบบ Forex ปลอม (Fake Forex System / แชร์ลูกโซ่ Forex) ดังนั้นผู้ที่คิดจะลงทุน จะต้องตรวจสอบเบื้องต้น ดังนี้
1. ในการเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ถูกกฎหมาย ต้องใช้เอกสารยืนยันตัวตน (KYC) เช่น พาสปอร์ต/บัตรประชาชน + เอกสารยืนยันที่อยู่ โดยที่โบรกเกอร์จะต้องได้รับใบอนุญาตจากองค์กรกำกับดูแล เช่น FCA, ASIC, CySEC
2. ฝากเงินเข้าบัญชีเทรดโอนเงินผ่านระบบ Payment Gateway เช่น VISA, Skrill, Neteller พรีa Wire Transfer ที่สำคัญเงินเข้าบัญชีเทรดผ่านระบบของโบรกเกอร์ ต้องไม่ใช่บัญชีบุคคล
3. ทำการซื้อขาย (Trading) เทรดเดอร์ใช้ MetaTrader 4 / 5 หรือ แพลตฟอร์มอื่นในการซื้อ-ขายคู่สกุลเงิน (เช่น EUR/USD) โดยที่การเคลื่อนไหวราคาขึ้นอยู่กับตลาดจริง
4. ถอนเงิน ขอถอนผ่านระบบของโบรกเกอร์ เงินจะถูกโอนกลับผ่านช่องทางเดิม ซึ่งอาจใช้เวลา 1-5 วันทำการ
อนึ่ง สภาประชาชนแห่งประเทศไทย อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับ เว็บไซต์หลอกลวงด้านชักชวนการลงทุน Forex พบเบื้องต้นว่า มี 2 เว็บที่มีความเสี่ยงในเรื่องการที่อาจจะยังไม่ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย คือ เว็บไซต์: www.tradetaurex.com และ เว็บไซต์: www.Vantagemarkets.com ซึ่งทั้ง 2 เว็บมีการใช้ช่องทางโอนเงินลงทุนไปที่บัญชีบุคคล คือ PromptPay: 098-xxxx127 → บัญชีนายอ. xxxxx (กสิกรไทย) และ PromptPay: 12xxxxxxx00 → 4จีไวรเล็ช (กรุงศรี) แทนที่จะเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีเทรดผ่านระบบของบริษัทโบรกเกอร์โดยตรง จึงเตรียมให้ข้อมูลกับหน่วยงานกำกับเพื่อตรวจสอบ และดำเนินคดตามกฎหมายหากพบว่าเป็นการหลอกลวงการลงทุน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี