คลี่คดีโหด! พบรถเหยื่อคดีฆ่า‘เผานั่งยาง’ 4 ศพ ซุกซ่อนกลางคลอง ขณะที่ตำรวจยังปูพรมล่า‘ไอ้บิน ควนกุน’กับสมุนต่อเนื่อง พร้อมจับตายทันทีหากต่อสู้
16 พ.ค.68 ภายหลังจากมีการออกหมายจับผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วย หัวโจก คือ นายศุภกรณ์ หรือ “ไอ้บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี ส่วนอีก 3 คือ นายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี , นายปิยะศักดิ์ หรือแจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ หรือเถือก อายุ 36 ปี ในคดีร่วมกันยิงและฆ่าเผานั่งยางอย่างโหดเหี้ยม 4 ศพ ภายในสวนปาล์มน้ำมันพื้นที่ หมู่ 1 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง ก่อนคนร้ายจะชิงรถยนต์กระบะของผู้ตายไปด้วย เมื่อวันที่ 11 พ.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงเปิดปฏิบัติการไล่ล่าติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาอย่างต่อเนื่อง แต่จนถึงขณะนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดยังอยู่ในระหว่างการหลบหนี
ความคืบหน้าเมื่อเวลาประมาณ 17.30 น.วันที่ 15 พ.ค.68 พ.ต.อ.เอกรัฐ สวนแสน รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง , พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง , พ.ต.ต.ศิวกรณ์ แป้นไทย สว.กก.สส.ภ.จว.ตรัง รับแจ้งจากกำลังตำรวจ กก.สส.ภ.9 และตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ตรัง ว่าจากการสืบทราบว่านายศุภกรณ์ พร้อมกลุ่มคนร้ายได้ขับรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีบรอนซ์-เงิน ทะเบียน ผฉ 9997 นครศรีธรรมราช ของนายสุรเชษฐ์ ล้วนเกียรติขจร หรือโกเชษฐ์ อายุ 69 ปี ผู้ดูแลสวนปาล์มน้ำมัน หลังจากก่อเหตุฆ่าทั้งหมด 4 ศพ แล้วนำมาทิ้งไว้ในคลองผันน้ำ หน้าประตูระบายน้ำจุฬาภรณ์ พื้นที่หมู่ 1 บ้านนาโต๊ะหมิง ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมือง จ.ตรัง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันจัดกำลังออกตรวจสอบบริเวณจุดดังกล่าว จากริมประตูระบายน้ำจุฬาภรณ์ ถึงประตูน้ำท่าส้ม เป็นระยะทางประมาณ 7.5 กม. แต่การตรวจสอบเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากไม่ปรากฏรอยล้อรถ หรือว่ามีรอยต้นไม้หัก ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ได้สำรวจพื้นที่ข้างเคียงที่มีบ่อน้ำและลำคลอง แต่ไม่พบร่องรอยแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการประสานกรมชลประทาน จ.ตรัง ขอความร่วมมือในการปิดประตูระบายน้ำบริเวณประตูระบายน้ำท่าส้ม และทำการเปิดประตูระบายน้ำที่ประตูระบายน้ำจุฬาภรณ์ เพื่อปรับปริมาณน้ำในช่วงดังกล่าวลง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงพบเห็นว่า รถยนต์กระบะของนายสุรเชษฐ์ หรือโกเชษฐ์ ช่วงเวลาประมาณ 00.40 น. คืนเกิดเหตุ ถูกกลุ่มคนร้ายขับและเลี้ยวเข้ามาขับบนถนนเลียบคลองชลประทาน ในพื้นที่ ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง โดยมีรถของนายแต้มขับนำหน้า
ต่อมากล้องวงจรปิดอีกตัวจับได้ ในช่วงเวลา 02.14 น. คนร้ายได้ขับรถผู้ตาย มาตามทางถนนเลียบคลองชลประทาน ต่อมาเวลา 02.16 น. ได้กลับรถมาจอด โดยมีคนลงจากรถ เวลา 02.20 ได้ดับไฟหน้ารถ และในเวลา 02.24 น. รถยนต์อีกคันซึ่งเป็นของนายแต้ม ผู้ร่วมก่อเหตุ จอดและดับไฟ และในเวลา 02.32 น. ได้ออกรถไปเพียงคันเดียว
เมื่อทางเจ้าหน้าที่ได้หลักฐานกล้องวงจรปิดดังกล่าว จึงได้เดินทางมาตรวจสอบบริเวณจุดดังกล่าว บริเวณฝั่งตรงข้ามด้านหลังโรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัยตรัง จึงได้พบร่องรอยหญ้าและดินริมตลิ่งคล้ายมีรถลงไปในลำคลอง ประกอบกับมีคราบน้ำมันลอยขึ้นเป็นวงในคลองผันน้ำ จึงประสานนักประดาน้ำจากมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ้วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง) เข้ามาดำลงค้นหาและตรวจสอบ
เมื่อเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยชุดประดาน้ำ ดำลงไปประมาณ 10 นาที สืบทราบชันเจนว่าเป็นรถของผู้ตายที่ผู้ก่อเหตุขับมาทิ้งเพื่ออำพรางคดี จึงได้ประสานรถลากเข้ามาลากรถดังกล่าวขึ้นมา พบแผ่นป้ายทะเบียนรถทั้งด้านหน้าและด้านหลังถูกกลุ่มคนร้ายปลดทิ้งไป ซึ่งรถได้ถูกเปิดบานกระจกเอาไว้ มีกุญแจรถเสียบคาเอาไว้ แต่ไม่พบสิ่งของหรือวัตถุพยานใดๆ มีเพียงร่องรอยคมกระสุนถูกเจาะเข้าบริเวณท้ายกระบะรถจำนวน 1 จุด
ด้านนายเดชานนท์ ชูประสิทธิ์ และ นายวิทวัส เพชรเล็ก เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ้วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง) กล่าวว่า รถอยู่ห่างจากตลิ่งไปประมาณ 5 เมตร ลึกลงไปประมาณ 3 เมตร รถถูกหันหัวไปทางทิศตะวันออก ซึ่งไม่พบป้านทะเบียนคาดว่าถูกปลดออกไป กระจกทั้งสองบานถูกเปิดอยู่ทั้งหมด
ขณะเดียวกัน นายเรืองศักดิ์ ล้วนเกียรติขจร ลูกชายของนายสุรเชษฐ์ หนึ่งในผู้เสียชีวิต ได้มาดูในที่เกิดเหตุหลังจากพบรถของคุณพ่อ โดยได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆว่า มั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าจะสมารถจับกุมกลุ่มผู้ร่วมกันก่อเหตุฆ่าพ่อของตนเองได้ทั้งหมดในเร็ววันนี้
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะนำรถคันดังกล่าวลากไปไว้ที่ สภ.สิเกา พื้นที่เกิดเหตุ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง เข้าทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนการติดตามกลุ่มคนร้ายนั้น ทางผู้บังคับบัญชาได้กำชับมายังเจ้าหน้าที่ ว่า หากกลุ่มคนร้ายขัดขืน ให้เจ้าหน้าที่ใช้มาตรการตอบโต้ได้ทันที ///-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี