เศร้า!พบร่างชายวัย 51 จบชีวิตตัวเองในบ้านเพื่อนบ้านเผยคำพูดสุดท้ายคล้ายสั่งลา

วันที่ 17 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 08.20 น. ร.ต.ท.สิทธิพล วงศ์นิโลบล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม ได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่งพื้นที่หมู่ 2 ต.โพธิ์ตาก อ.เมือง จ.นครพนม จึงประสานแพทย์เวร รพ.นครพนม และกู้ชีพ อบต.โพธิ์ตาก เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ บริเวณชั้นล่างใกล้ประตูหน้าบ้าน พบร่างของนายอิสระพงษ์ หรือปุ๋ย อายุ 51 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป เสียชีวิตโดยมีสายไฟสีขาวความยาว 2 เมตร ผูกกับขื่อคล้องที่ลำคอ เมื่อนำร่างลงมาชันสูตร พบร่องรอยเขียวคล้ำบริเวณลำคอจากการถูกรัดด้วยสายไฟฟ้า ใกล้กันพบเตียงผู้ป่วยตั้งอยู่ จากการตรวจสอบโดยรอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือบาดแผลตามร่างกาย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจมาแล้วประมาณ 12 ชั่วโมง

น.ส.มุกดา อายุ 56 ปี เพื่อนบ้านผู้พบร่างเป็นคนแรก ให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ตนยังเห็นนายปุ๋ยเดินมาหาที่บ้าน พร้อมกับพูดคล้ายสั่งลาว่า "อีก 1 ชั่วโมงเดินไปดูที่บ้านหน่อยนะ" ซึ่งตนไม่ได้สงสัย กระทั่งเช้าหลังเคารพธงชาติ สังเกตเห็นประตูหน้าบ้านนายปุ๋ยเปิดผิดปกติ เนื่องจากปกติผู้ตายเป็นคนมีระเบียบ จึงเข้าไปดูด้วยความเป็นห่วง เพราะทราบว่านายปุ๋ยชอบดื่มสุรา เมื่อชะโงกหน้าเข้าไปก็ตกใจอย่างมาก ภาพที่เห็นคือนายปุ๋ยเสียชีวิตโดยมีสายไฟผูกกับขื่อ ตนจึงรีบวิ่งกลับบ้านด้วยความตกใจ ส่งเสียงร้องดังลั่น วิ่งสะดุดล้มคลุกคลาน และมีอาการตกใจจนเพื่อนบ้านต้องช่วยเรียกสติ ญาติยังได้นำพระเครื่องมาให้คล้องคอเพื่อบรรเทาความตกใจ

น.ส.มุกดา เล่าต่อว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 5-6 ปี นายปุ๋ยเคยพยายามทำร้ายตัวเองมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ภรรยาอายุ 71 ปี ซึ่งอายุห่างกัน 20 ปี พบเห็นและช่วยเหลือไว้ได้ทัน สำหรับครั้งนี้ไม่มีใครอยู่ในบ้าน เนื่องจากภรรยาป่วยและเข้ารับการผ่าตัดลำไส้ ลูกสาวจึงพาไปดูแลที่ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เนื่องจากนายปุ๋ยมีภรรยาใหม่เป็นแม่หม้ายและมีบุตรติด 3 คน อาจเป็นสาเหตุให้เกิดความน้อยใจ ดื่มสุราติดต่อกัน 3 วัน ก่อนจะเสียชีวิตในที่สุด คาดว่าผู้ตายน่าจะมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า เนื่องจากได้ไปกล่าวลาคนรู้จักหลายคน

ด้านนายคูณ ศรีหาราช อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้านโพธิ์ตาก หมู่ 2 เปิดเผยว่า สาเหตุที่ผู้ตายตัดสินใจเช่นนี้ น่าจะมาจากปัญหาครอบครัว ภรรยาอายุ 71 ปี ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ หลังผ่าตัดได้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน แต่เมื่อลูกสาวทราบข่าวและเห็นสภาพนายปุ๋ยที่ดื่มสุรามากจนไม่สามารถดูแลมารดาได้ จึงนำมารดาไปดูแลเอง โดยมีแผนจะพาไปรักษาตัวที่กรุงเทพฯ ผู้ตายอาจจะรู้สึกน้อยใจจึงตัดสินใจดังกล่าว

นายภานุ นันตะ กำนันตำบลโพธิ์ตาก กล่าวว่า ภรรยาของผู้ตายป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ เพิ่งออกจากโรงพยาบาลนครพนมเมื่อวานนี้ ลูกสาวจึงนำกลับไปดูแลที่ อ.ศรีสงคราม เพื่อเตรียมพาไปรักษาที่กรุงเทพฯ คาดว่าผู้ตายอาจจะน้อยใจ ประกอบกับดื่มสุราจนเมามาย และได้พูดจาคล้ายสั่งเสียกับคนรู้จัก แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เศร้าสลดขึ้น หลังแพทย์ชันสูตรพลิกศพ ญาติไม่ได้ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต จึงได้มอบร่างไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี และจะมีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 18 พฤษภาคม 2568