แยกขัง‘เปรมชัย’
ป่วยสูงอายุกรมคุกส่งจนท.ประกบ
ตร.ยันหลักฐานตึกสตง.ถล่มแน่น
นอนคุกคืนแรก 14 ผู้ต้องหาตึก สตง. ถล่ม ราชทัณฑ์แยกขัง “เปรมชัย-พิมล” ประเมินเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ มีโรคประจำตัว ช่วยเหลือตัวเองลำบากแต่ยังไม่ส่งไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ด้านกิจการร่วมค้าไอทีดี–ซีอาร์อีซี แถลงเคารพกระบวนการยุติธรรม พร้อมร่วมสอบสวนคดีตึกถล่ม ผบช.น. ยืนยัน พยานหลักฐาน
มากพอที่จะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องได้ทั้งหมด
จากกรณีศาลอาญาไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหา 15 ราย ในคดีโครงการก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ประกอบด้วย 1.นายสุชาติ ชุติปภากร อายุ 64 ปี , 2.นายพิมล เจริญยิ่ง อายุ 85 ปี , 3.นายธีระ วรรธนะทรัพย์ อายุ 59 ปี , 4.นายสุพล อัครอารีสุข อายุ 51 ปี , 5.นายชัยณรงค์ เสียงไพรพันธ์ อายุ 43 ปี , 6.นายอภิชาต รักษา อายุ 38 ปี , 7.นายเปรมชัย กรรณสูต หรือ “เสี่ยเปรมชัย” ผู้บริหารบริษัทอิตาเลี่ยนไทย จำกัด อายุ 71 ปี , 8.นายเกรียงศักดิ์ กอวัฒนา อายุ 65 ปี , 9.นายชวน หลิงจาง อายุ 42 ปี , 10.นายอนุวัต คันสร อายุ 53 ปี , 11.นายธิปัตย์ รัตนวงศา อายุ 42 ปี , 12.นายปฏิวัติ ศิริไทย อายุ 53 ปี , 13.นายกฤตภัฏ ปล่องกระโทก อายุ 51 ปี , 14.นายสมชาย ทรัพย์เย็น อายุ 56 ปี วิศกรผู้ควบคุมงาน และ 15.เป็นนิติบุคคล ซึ่งผู้ต้องหาที่เป็นผู้บริหารบริษัทและวิศวกร รวมทั้ง ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนค้านประกันตัวเนื่องจากอัตราโทษสูง และเกรงว่าหากได้รับการประกันตัว ผู้ต้องหาจะหลบหนี หรือไปยุ่งกับพยานหลักฐาน ซึ่งคดีต้องสอบสวนพยานอีก 15 ปาก กรณีมีเหตุผลอันสมควรจะรอผลการสอบสวนให้เสร็จสิ้นก่อน ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว แล้วค่อยพิจารณามีคำสั่งโดยละเอียดรอบคอบต่อไป แม้ภายหลังทนายความได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์วงเงินคนละ 600,000-800,000 บาท เพื่อขอประกันตัวระหว่างสู้คดี ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้นำตัวผู้ต้องหาไปคุมขังระหว่างฝากขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
เมื่อวันที่17 พ.ค. นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เมื่อ16 พ.ค. เวลาประมาณ 20.00 น. เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร รับตัว นายเปรมชัย และพวกรวม 14 ราย จากศาลอาญารัชดาภิเษก โดยเรือนจำดำเนินการรับตัวตามระเบียบ และพยาบาลเรือนจำเข้าตรวจประเมินสุขภาพทันทีภายหลังรับตัวเข้าเรือนจำ ก่อนนำตัวเข้าสู่กระบวนการแยกกักโรคในแดนแรกรับ เนื่องจากผู้ต้องขังมีจำนวนมาก จึงแบ่งออกเป็น 2 ห้อง แยกกักห้องละ 6 คน
นางกนกวรรณ เผยว่า ในส่วนของผู้ต้องขังสูงอายุ 2 ราย คือ นายพิมล เจริญยิ่ง และ นายเปรมชัย กรรณสูต พยาบาลเรือนจำประเมินแล้วเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ มีโรคประจำตัว ช่วยเหลือตัวเองลำบาก จึงให้แยกกักโรคเพื่อเฝ้าดูอาการที่สถานพยาบาล และจัดให้มีอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ (อสรจ.) ซึ่งเป็นอดีตแพทย์เป็นผู้ดูแล โดยเรือนจำอนุญาตให้นำยารักษาโรคประจำตัวติดตัวมาด้วย และรอพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการต่อไป สำหรับการส่งตัวออกไปรักษาตัวต่อที่ รพ.ราชทัณฑ์นั้น ให้เป็นไปตามความเห็นแพทย์ ขณะนี้ไม่ได้มีการส่งรักษาภายนอกเรือนจำ ทุกรายให้ความร่วมมือกับเรือนจำดี ไม่ได้แสดงอาการเครียดชัดเจน อยู่ระหว่างการปรับตัว
“ทั้งนี้ นายเปรมชัย สามารถรับประทานอาหารได้ เมื่อเช้าทานโจ๊กและวันนี้ญาตินำยารักษาโรคกับใบรับรองแพทย์มาฝาก ส่วน นายชวน หลิน จาง ไม่มีปัญหาด้านการสื่อสาร เนื่องจากพูดภาษาอังกฤษได้ ทุกคนไม่มีใครร้องรออะไรเป็นพิเศษ”
วันเดียวกัน กิจการร่วมค้า ระหว่าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จํากัด (ต่อไปเรียกว่า “กิจการร่วมค้า”) ขอแจ้งให้ทราบว่า กิจการร่วมค้าได้เฝ้าติดตามและทราบถึงกระบวนการสอบสวนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจการร่วมค้า ในฐานะผู้รับเหมาก่อสร้าง เกี่ยวกับเหตุการณ์อาคารสํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม โดยกิจการร่วมค้าขอแถลงการณ์ ดังต่อไปนี้
นับตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุในเหตุการณ์ตึกถล่ม กิจการร่วมค้าได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับเจ้าหน้าที่และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในการสอบสวนและเร่งค้นหาสาเหตุของอุบัติเหตุดังกล่าว โดยกิจการร่วมค้าเคารพในความเป็นอิสระของหน่วยงานในระบบยุติธรรมไทย และได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตํารวจในการดําเนินการสืบสวนสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องในส่วนงานของผู้รับเหมางานก่อสร้างอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ กิจการร่วมค้าจะยังคงให้ความร่วมมือในการสอบสวนตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง และขอรับรองว่า กิจการร่วมค้าจะให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนภายใต้กรอบของกฎหมาย เพื่อให้ผลการสอบสวนได้รับข้อเท็จจริงที่ถูกต้องตามหลักวิชาการและเป็นธรรมแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยกิจการร่วมค้าเชื่อมั่นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถสรุปผลการสอบสวนอย่างรอบคอบ รวดเร็ว เป็นกลางและยุติธรรมบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานต่อไป
กิจการร่วมค้าจะติดตามความคืบหน้าของเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด และจะแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องผ่านช่องทางที่เหมาะสมกิจการร่วมค้าขอขอบคุณหน่วยงานภาครัฐ ประชาชน และสื่อมวลชนเป็นอย่างสูงอีกครั้ง สําหรับความห่วงใยและการสนับสนุนที่มีมาโดยตลอด
พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. กล่าวเกี่ยวกับคดีตึก สตง. ถล่ม ว่า ในคดีนี้มีการออกหมายจับผู้ต้องหา 17 ราย และเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ 15 ราย และพนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 14 ราย และนิติบุคคล 1 ราย ผัดฟ้องฝากขังที่ศาลตั้งแต่เมื่อวานนี้ ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ถูกนำตัวส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เมื่อวาน ส่วนอีก 2 ราย ได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าจะมีการเข้ามามอบตัวในเร็วๆ นี้ ส่วนรายละเอียดได้สั่งการให้กองบังคับการสืบสวน โดยพล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บชน. ติดตามเพื่อป้องกันการหลบหนี
ผบช.น. เผยอีกว่า ส่วนของการทำให้อาคารถล่ม เราดูเป็นส่วน ส่วนแรกแบบถูกต้องตามมาตรฐานหรือไม่ ได้ประชุมกับผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ว่าตัวอาคารสามารถต้านแรงลมได้เท่าไหร่ กรณีมีการเกิดแผ่นดินไหวสามารถรองรับได้เท่าไหร่ มีค่ามาตรฐานอยู่โดยเป็นมาตรฐานทางวิชาการ
ส่วนที่ 2 เป็นการออกหมายในส่วนของผู้ควบคุมงาน ว่ามีการควบคุมงานตามมาตรฐานตามแบบหรือไม่ ส่วนที่ 3 ผู้รับจ้างก่อสร้าง และอีกส่วนเป็นการส่งวัสดุอุปกรณ์ในการใช้ก่อสร้างไม่ว่าจะเป็นปูน มีความมั่นคงแข็งแรงตามสเปคหรือไม่ เหล็กเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ มีครบถ้วนตามแบบหรือไม่ การแจ้งข้อหาเป็นไปตามมาตรฐานที่ผู้เชี่ยวชาญระบุไว้ ศาลจึงออกหมายจับ
ในส่วนของบริษัทเหล็กจะต้องมีการสืบสวนสอบสวนต่อว่า มีความผิดร่วมด้วยหรือไม่ หากใครมีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการไม่ถูกต้อง ต้องรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ยืนยัน มีพยานหลักฐานมากพอที่จะดำเนินคดี ส่วนใหญ่พยานหลักฐานที่ได้มา เป็นพยานหลักฐานที่ได้มาจากผู้เชี่ยวชาญ จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ สตง. หรือบริษัทเหล็กถ้ามีหลักฐานกระทำความผิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี