ชาวเชียงใหม่-เชียงรายสุดทนรัฐบาลอืด แก้ปัญหาสารหนูแม่น้ำกก-น้ำสาย นัดดีเดย์จัดกิจกรรมกระทุ้งใหญ่ 5 มิย.ตั้งเป้าระดม 1 หมื่นคน เสนอยื่นหนังสือถึงรัฐบาลจีนผู้รับซื้อแร่หายากจากเหมืองเถื่อน นักวิจัยชาวคะฉิ่นแฉเหมืองแรร์เอิร์ธสุดเลวร้าย
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ที่ห้องประชุมพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยเมืองเชียงราย จ.เชียงราย ได้มีการจัดวงหารือ “ปกป้องแม่น้ำกก-แม่น้ำสาย/ปิดเหมืองต้นน้ำ-ฟื้นฟูลุ่มน้ำ” โดยมีพระภิกษุและประชาชนหลากหลายอาชีพ อาทิ นักธุรกิจ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ศิลปิน นักการเมืองท้องถิ่น องค์กรภาคประชาสังคม ทั้งจากพื้นที่ บ้านท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และ จากอำเภอที่ติดแม่น้ำกก-แม่น้ำสาย อาทิ อ.แม่สาย อ.เชียงแสน และ อ.เมือง จ.เชียงราย ประมาณ 70 คนเข้าร่วม
น.ส.เพียรพร ดีเทศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายรณรงค์องค์กรแม่น้ำนานาชาติ International Rivers กล่าวสรุปสถานการณ์ว่า ถ้ามองจากบริเวณชายแดนไทยที่บ้านม้งแปดหลัง อ.แม่ฟ้าหลวง จะเห็นการเปิดหน้าดินขนาดใหญ่ในรัฐฉานเพื่อทำเหมืองซึ่งพื้นที่ดังกล่าวดูแลโดยกองกำลังว้าโดยไม่สนใจคนท้ายน้ำ ขณะที่ชาวบ้านท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ได้สังเกตเห็นความผิดปกติและรู้ว่าต้นแม่น้ำกกมีการทำเหมืองทอง จึงเดินขบวนเพื่อเรียกร้องการอนุรักษ์แม่น่ำกกตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 นำไปสู่การตรวจสอบจนทราบผลการตรวจว่าแม่น้ำกกมีสารหนูปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐาน
น.ส.เพียรพรกล่าวว่า จากภาพถ่ายอากาศพบว่าห่างไปจากพรมแดนไทยที่หัวฝายเพียง 2 กม. มีการขุดเหมืองกลางแม่น้ำสาย มีการทำเหมืองเถื่อนที่ไม่มีกลไกใดๆกำกับเลย ทำให้เกิดคำถามว่าหน่วยงานรัฐบาลไทยกำลังทำอะไรอยู่ถึงปล่อยให้แม่น้ำสายถูกกระทำเช่นนั้น ทั้งๆที่เป็นแม่น้ำข้ามแดน ที่น่ากังวลใจมากขึ้นเมื่อมูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ออกมาเปิดเผยว่ามีการทำเหมืองแรร์เอิร์ธจำนวนมาก
“น่าเป็นห่วงคือตอนนี้เป็นแค่ผลกระทบในปีแรกๆ จากการทำเหมือง เหมืองเหล่านี้ต้องอยู่บริเวณต้นน้ำอีกกี่ปี อนาคตจะผลกระทบจะยิ่งน่ากลัวมากขึ้น หากปีนี้น้ำกกและน้ำสายหลากน้ำท่วมและมีโคลนอีก ก็จะไม่เหมือนปีก่อน เพราะเรารู้แล้วว่าในน้ำและในโคลนนี้ว่ามีสารพิษปนเปื้อน”น.ส.เพียรพร กล่าว
ดร.สืบสกุล กิจนุกร นักวิชาการ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่า เราคุยกันว่าน่าจะมีการทำอะไรร่วมกันจากทุกภาคส่วน ซึ่งวันที่ 5 มิถุนายน เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ควรมีการทำอะไรร่วมกันบ้าง โดยเราได้ตั้งตุ๊กตาไว้บ้างแล้ว งานทั้งหมดเป็นการฮอมปอย คือไม่มีใครเป็นเจ้าภาพ
ดร.สืบสกุลกล่าวว่า รัฐบาลโดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯได้จัดประชุม 1 ครั้งและพยายามใช้กลไกราชการต่างๆแก้ไขปัญหาโดยเป็นกลไกปกติ แต่ยังขาดเสียงของประชาชน
“ในวันที่ 5 มิถุนายน เราจะจัดกิจกรรมตั้งแต่เช้าไปยันค่ำ อยากให้มีการแสดงเจตนารมณ์และสะท้องเสียงของคนเชียงรายและเชียงใหม่ เราอยากชวนชาวบ้านออกมาสัก 1 หมื่นคน ในพื้นที่ต่างๆ มีข้อเสนอว่าเราจะยื่นหนังสือถึงสถานทูตจีนหรือไม่ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะช่วงนักเรียนนักศึกษามาร่วมขบวนแสดงออก และมีการสืบชะตาแม่น้ำกก”นายสืบสกุล กล่าว
ทั้งนี้ผู้ร่วมประชุมได้แสดงความเห็นและมีข้อเสนออย่างหลากหลาย โดยทั้งหมดเห็นด้วยที่จะจัดกิจกรรมใหญ่ในวันที่ 5 มิถุนายน แต่ก่อนถึงวันงานจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักธุรกิจรายหนึ่งเสนอว่าควรเชิญสถานทูตจีน ตัวแทนกองกำลังว้า และตัวแทนรัฐบาลพม่าเข้าร่วมด้วย
ขณะที่ชาวแม่สายและชาวเชียงแสนเสนอให้จัดกิจกรรมในพื้นที่เชียงแสนและแม่สายด้วย นอกจากนี้มีข้อเสนอให้ผูกริบบิ้นติดรถเพื่อรณรงค์ให้ชาวเชียงรายได้แสดงออกในการปกป้องแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย
“ทุกครั้งที่เข้าประชุมกับส่วนราชการเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เรามักได้คำตอบว่าสารโลหะหนักในแม่น้ำกกยังไม่เกินค่ามาตรฐาน แต่กลับไม่มีใครให้คำตอบว่าสารโลหะหนักนั้น จะสะสมในตัวเราหรือไม่ อย่างไร”ผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่ง กล่าว
ขณะที่อดีตข้าราชการรายหนึ่งกล่าวว่า เราไม่ทราบหลักการทำเหมืองที่ต้นแม่น้ำกกว่าเป็นลักษณะไหน แต่เสนอให้เขาเอาสารพิษไปทิ้งที่บ้านเขา ไม่ใช่ทิ้งลงแม่น้ำกก
“เราอยากให้ภาครัฐมีความกระตือรือร้นมากกว่านี้ อยากให้การแก้ปัญหาเห็นความเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเราจำเป็นต้องมีเป้าหมายและระยะเวลาชัดเจน ในวันที่ 5 มิถุนายน เป็นจุดเริ่มต้น หลังจากนั้นเคลื่อนไปที่อำเภออื่นๆ ที่ติดกับแม่น้ำ เราอาจต้องไปยื่นหนังสือที่สถานทูตจีนเพื่อให้เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา คุณจะนิ่งหรือเฉยไม่ได้” ผู้ร่วมประชุมแสดงความคิดเห็น
“อยากให้ยื่นหนังสือกองทัพว้า ทหารพม่า หากท่านไม่หยุด เราจะหยุดให้ เราไม่ได้ไปรบ แต่ให้หยุดทำเหมืองแร่” ผู้ร่วมประชุมอีกรายหนึ่งกล่าว
พระมหานิคม มหาภินิกฺขมโน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าตอน อ.แมอาย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า แม่น้ำกกตอนนี้เหมือนกับแม่เราที่อยู่ในห้องไอซียู ของโรงพยาพบาล เรารู้ว่าต้องรักษาอย่างไร สิ่งต่างๆเกิดที่เหตุ การแก้ไขที่เหตุ เรารู้วิธีรักษาดังนั้นต้องช่วยกันคิดว่าจะช่วยแม่ของเราได้อย่างไร
พระมหานิคม กล่าวว่า กิจกรรมที่จัดเชื่อว่าจะสำเร็จแต่กระตุ้นเตือนให้กับรัฐบาลรีบแก้ไขหรือไม่ เป็นหน้าที่เพราะเป็นความมั่นคงของชาวบ้าน ความมั่นคงของชุมชน และความมั่นคงชาติ และเป็นความมั่นคงของรัฐบาลที่ต้องรีบแก้ไข ดังนั้นควรมีการรณรงค์เผยแพร่ให้ทุกสังคม รวมถึงทั่วโลกให้ได้รับรู้และเห็นความทุกข์ของเราให้ได้
“เราส่งข่าวให้รัฐบาลทำงาน เขาเป็นพ่อ เราเป็นลูก เมื่อพ่อทำงานไม่ได้ เราก็ต้องส่งเสียงให้ไกลกว่านั้น ไปไกลถึงอาเซียน ไปไกลถึงสหประชาชาติ เราต้องทำให้ถึงที่สุด เราอาจต้องมีการออกแถลงการณ์ร่วมกัน ดังนั้นการที่ทุกกลุ่มมาแสดงพลังร่วมกันจึงเป็นที่น่ายินดี”พระมหานิคม กล่าว
ขณะที่นายซอแลต ชาวคะฉิ่นซึ่งเป็นนักวิจัยอิสระ กล่าวว่าการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธอันตรายมาก เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เพราะว่ามันอยู่ในอุปกรณ์ต่างๆ ที่เราใช้ เช่น โทรศัพท์มือถือ ซึ่งประเทศจีนเป็นศูนย์กลางเรื่องแร่นี้มาตั้งแต่ปี 2015 โดยพม่า เป็นประเทศที่ส่งออกให้จีนแทบทั้งหมด ตอนนี้ในรัฐคะฉิ่นมีเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ 200 -300 แห่ง ภายใต้กองกำลังคะฉิ่น(Kachin Independence Army: KIA) ตอนนี้เหมืองดังกล่าวได้ขยายมายังรัฐฉานและขยายมายังชายแดนไทย นี่คือเรื่องการเมืองภูมิภาคไม่ใช่เรื่องของไทยอย่างเดียว ตอนนี้จีนเข้ามาที่กองกำลังว้า
“ตอนที่จีนทำเหมืองในพื้นที่ต้นน้ำคะฉิ่น สารเคมีลงในแม่น้ำสาขาของแม่น้ำอิรวดี ปลาตายหมด วัวตายควายล้ม ชาวบ้านไม่สามารถหากินได้ ถ้าพูดถึงผลกระทบของเหมืองตอนนี้ ไม่ใช่แค่ไทย แต่รวมถึงประเทศตอนล่างทั้งลาว เวียดนาม กัมพูชา ก็จะได้รับผลกระทบด้วย ข้อเสนอคือ ต้องทำเรื่องการเมืองท้องถิ่นให้ยกระดับไปถึงระดับชาติ ถ้าไม่ยกระดับในรัฐสภา ผลกระทบนี้จะไม่ได้รับการแก้ไขเลย” นายซอแลต กล่าว
ด้านนายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว หรือครูตี๋ กล่าวว่า สถานการณ์นี้ เป็นเรื่องใหญ่มาก พวก สส.ต้องเดือดร้อนแล้ว ตอนนี้รัฐบาลนี้ได้แต่สั่งให้จังหวัดทำ สิ่งสำคัญที่สุดคือ วันที่ 5 มิถุนายน จะทำให้คนไทยทั้งประเทศรู้ได้อย่างไรว่า ประชาชนไม่พอใจ
นายนิวัฒน์กล่าวว่า ในวันที 24 มิถุนายน จะมีการปูพรมข้อมูลให้ประชาชนเข้าร่วมในวันที่ 5 โดยจะมีการจัดเวทีที่บริเวณสวนตุง กลางเมืองเชียงราย เพราะปัจจุบันรัฐบาลยังไม่มองว่าปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำกกและแม่น้ำสายเป็นปัญหาที่สำคัญซึ่งตองยกระดับให้เป็นเรื่องของความมั่นคงของชาติและจะจัดการปัญหานี้อย่างไร
ดร.สืบสกุล ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือว่า ได้ข้อตกลงร่วมกันคือในวันที่ 5 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ชาวเชียงรายและลุ่มแม่น้ำกกจะร่วมกันแสดงเจตนาณ์ส่งเสียงไปยังรัฐบาลไทย รัฐบาลเมียนมา รัฐบาลจีน และกองกำลังชาติพันธุ์ที่มีพื้นที่ทำเหมืองต่างๆบริเวณต้นน้ำซึ่งส่งผลกระทบกับคนลุ่มน้ำ โดยตั้งเป้าไหว้ 1 หมื่นคนหรือ 1% ของประชากรในจังหวัดเชียงราย
“อย่างน้อยตอนนี้รัฐบาลไทย ต้องเชิญเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเมียนมา และรัฐบาลจีนมาพูดคุย เพราะประจักษ์แล้วว่ามีสารโลหะหนักปนเปื้อนในแม่น้ำกกและแม่น้ำสายที่มีสาเหตุมาจากการทำเหมืองในพม่า โดยบริษัทจีนเข้ามาทำเหมืองแร่”นายสืบสกุล กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี