วันอังคาร ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ชาวบ้านสุดทนรัฐบาลอืด นัดระดมพลใหญ่ 5 มิ.ย.จี้แก้ปัญหาสารหนูแม่น้ำกก-น้ำสาย

ชาวบ้านสุดทนรัฐบาลอืด นัดระดมพลใหญ่ 5 มิ.ย.จี้แก้ปัญหาสารหนูแม่น้ำกก-น้ำสาย

วันจันทร์ ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 15.03 น.
Tag : แม่น้ำกก เชียงของ มลพิษ สารพิษ เชียงราย ฝุ่นละออง ถ่านหินลิกไนต์ สารปนเปื้อน
  •  

ชาวเชียงใหม่-เชียงรายสุดทนรัฐบาลอืด แก้ปัญหาสารหนูแม่น้ำกก-น้ำสาย นัดดีเดย์จัดกิจกรรมกระทุ้งใหญ่ 5 มิย.ตั้งเป้าระดม 1 หมื่นคน เสนอยื่นหนังสือถึงรัฐบาลจีนผู้รับซื้อแร่หายากจากเหมืองเถื่อน นักวิจัยชาวคะฉิ่นแฉเหมืองแรร์เอิร์ธสุดเลวร้าย

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ที่ห้องประชุมพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยเมืองเชียงราย จ.เชียงราย ได้มีการจัดวงหารือ “ปกป้องแม่น้ำกก-แม่น้ำสาย/ปิดเหมืองต้นน้ำ-ฟื้นฟูลุ่มน้ำ” โดยมีพระภิกษุและประชาชนหลากหลายอาชีพ อาทิ นักธุรกิจ อดีตสมาชิกวุฒิสภา  ศิลปิน นักการเมืองท้องถิ่น องค์กรภาคประชาสังคม ทั้งจากพื้นที่ บ้านท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และ จากอำเภอที่ติดแม่น้ำกก-แม่น้ำสาย อาทิ อ.แม่สาย อ.เชียงแสน และ อ.เมือง จ.เชียงราย ประมาณ 70 คนเข้าร่วม


น.ส.เพียรพร ดีเทศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายรณรงค์องค์กรแม่น้ำนานาชาติ International Rivers กล่าวสรุปสถานการณ์ว่า ถ้ามองจากบริเวณชายแดนไทยที่บ้านม้งแปดหลัง อ.แม่ฟ้าหลวง จะเห็นการเปิดหน้าดินขนาดใหญ่ในรัฐฉานเพื่อทำเหมืองซึ่งพื้นที่ดังกล่าวดูแลโดยกองกำลังว้าโดยไม่สนใจคนท้ายน้ำ ขณะที่ชาวบ้านท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ได้สังเกตเห็นความผิดปกติและรู้ว่าต้นแม่น้ำกกมีการทำเหมืองทอง จึงเดินขบวนเพื่อเรียกร้องการอนุรักษ์แม่น่ำกกตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 นำไปสู่การตรวจสอบจนทราบผลการตรวจว่าแม่น้ำกกมีสารหนูปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐาน

น.ส.เพียรพรกล่าวว่า จากภาพถ่ายอากาศพบว่าห่างไปจากพรมแดนไทยที่หัวฝายเพียง 2 กม. มีการขุดเหมืองกลางแม่น้ำสาย มีการทำเหมืองเถื่อนที่ไม่มีกลไกใดๆกำกับเลย ทำให้เกิดคำถามว่าหน่วยงานรัฐบาลไทยกำลังทำอะไรอยู่ถึงปล่อยให้แม่น้ำสายถูกกระทำเช่นนั้น ทั้งๆที่เป็นแม่น้ำข้ามแดน ที่น่ากังวลใจมากขึ้นเมื่อมูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ออกมาเปิดเผยว่ามีการทำเหมืองแรร์เอิร์ธจำนวนมาก

“น่าเป็นห่วงคือตอนนี้เป็นแค่ผลกระทบในปีแรกๆ จากการทำเหมือง เหมืองเหล่านี้ต้องอยู่บริเวณต้นน้ำอีกกี่ปี อนาคตจะผลกระทบจะยิ่งน่ากลัวมากขึ้น หากปีนี้น้ำกกและน้ำสายหลากน้ำท่วมและมีโคลนอีก ก็จะไม่เหมือนปีก่อน เพราะเรารู้แล้วว่าในน้ำและในโคลนนี้ว่ามีสารพิษปนเปื้อน”น.ส.เพียรพร กล่าว

ดร.สืบสกุล กิจนุกร นักวิชาการ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่า เราคุยกันว่าน่าจะมีการทำอะไรร่วมกันจากทุกภาคส่วน ซึ่งวันที่ 5 มิถุนายน เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ควรมีการทำอะไรร่วมกันบ้าง โดยเราได้ตั้งตุ๊กตาไว้บ้างแล้ว งานทั้งหมดเป็นการฮอมปอย คือไม่มีใครเป็นเจ้าภาพ

ดร.สืบสกุลกล่าวว่า รัฐบาลโดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯได้จัดประชุม 1 ครั้งและพยายามใช้กลไกราชการต่างๆแก้ไขปัญหาโดยเป็นกลไกปกติ แต่ยังขาดเสียงของประชาชน

“ในวันที่ 5 มิถุนายน เราจะจัดกิจกรรมตั้งแต่เช้าไปยันค่ำ อยากให้มีการแสดงเจตนารมณ์และสะท้องเสียงของคนเชียงรายและเชียงใหม่ เราอยากชวนชาวบ้านออกมาสัก 1 หมื่นคน ในพื้นที่ต่างๆ มีข้อเสนอว่าเราจะยื่นหนังสือถึงสถานทูตจีนหรือไม่ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะช่วงนักเรียนนักศึกษามาร่วมขบวนแสดงออก และมีการสืบชะตาแม่น้ำกก”นายสืบสกุล กล่าว

ทั้งนี้ผู้ร่วมประชุมได้แสดงความเห็นและมีข้อเสนออย่างหลากหลาย โดยทั้งหมดเห็นด้วยที่จะจัดกิจกรรมใหญ่ในวันที่ 5 มิถุนายน แต่ก่อนถึงวันงานจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆด้วย  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักธุรกิจรายหนึ่งเสนอว่าควรเชิญสถานทูตจีน ตัวแทนกองกำลังว้า และตัวแทนรัฐบาลพม่าเข้าร่วมด้วย

ขณะที่ชาวแม่สายและชาวเชียงแสนเสนอให้จัดกิจกรรมในพื้นที่เชียงแสนและแม่สายด้วย นอกจากนี้มีข้อเสนอให้ผูกริบบิ้นติดรถเพื่อรณรงค์ให้ชาวเชียงรายได้แสดงออกในการปกป้องแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย

“ทุกครั้งที่เข้าประชุมกับส่วนราชการเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เรามักได้คำตอบว่าสารโลหะหนักในแม่น้ำกกยังไม่เกินค่ามาตรฐาน แต่กลับไม่มีใครให้คำตอบว่าสารโลหะหนักนั้น จะสะสมในตัวเราหรือไม่ อย่างไร”ผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่ง กล่าว

ขณะที่อดีตข้าราชการรายหนึ่งกล่าวว่า  เราไม่ทราบหลักการทำเหมืองที่ต้นแม่น้ำกกว่าเป็นลักษณะไหน แต่เสนอให้เขาเอาสารพิษไปทิ้งที่บ้านเขา ไม่ใช่ทิ้งลงแม่น้ำกก

“เราอยากให้ภาครัฐมีความกระตือรือร้นมากกว่านี้ อยากให้การแก้ปัญหาเห็นความเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเราจำเป็นต้องมีเป้าหมายและระยะเวลาชัดเจน ในวันที่ 5 มิถุนายน เป็นจุดเริ่มต้น หลังจากนั้นเคลื่อนไปที่อำเภออื่นๆ ที่ติดกับแม่น้ำ เราอาจต้องไปยื่นหนังสือที่สถานทูตจีนเพื่อให้เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา คุณจะนิ่งหรือเฉยไม่ได้” ผู้ร่วมประชุมแสดงความคิดเห็น

“อยากให้ยื่นหนังสือกองทัพว้า ทหารพม่า หากท่านไม่หยุด เราจะหยุดให้ เราไม่ได้ไปรบ แต่ให้หยุดทำเหมืองแร่” ผู้ร่วมประชุมอีกรายหนึ่งกล่าว

พระมหานิคม มหาภินิกฺขมโน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าตอน อ.แมอาย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า แม่น้ำกกตอนนี้เหมือนกับแม่เราที่อยู่ในห้องไอซียู ของโรงพยาพบาล เรารู้ว่าต้องรักษาอย่างไร สิ่งต่างๆเกิดที่เหตุ การแก้ไขที่เหตุ เรารู้วิธีรักษาดังนั้นต้องช่วยกันคิดว่าจะช่วยแม่ของเราได้อย่างไร

พระมหานิคม กล่าวว่า กิจกรรมที่จัดเชื่อว่าจะสำเร็จแต่กระตุ้นเตือนให้กับรัฐบาลรีบแก้ไขหรือไม่ เป็นหน้าที่เพราะเป็นความมั่นคงของชาวบ้าน ความมั่นคงของชุมชน และความมั่นคงชาติ และเป็นความมั่นคงของรัฐบาลที่ต้องรีบแก้ไข ดังนั้นควรมีการรณรงค์เผยแพร่ให้ทุกสังคม รวมถึงทั่วโลกให้ได้รับรู้และเห็นความทุกข์ของเราให้ได้

“เราส่งข่าวให้รัฐบาลทำงาน เขาเป็นพ่อ เราเป็นลูก เมื่อพ่อทำงานไม่ได้ เราก็ต้องส่งเสียงให้ไกลกว่านั้น ไปไกลถึงอาเซียน ไปไกลถึงสหประชาชาติ เราต้องทำให้ถึงที่สุด เราอาจต้องมีการออกแถลงการณ์ร่วมกัน ดังนั้นการที่ทุกกลุ่มมาแสดงพลังร่วมกันจึงเป็นที่น่ายินดี”พระมหานิคม กล่าว

ขณะที่นายซอแลต ชาวคะฉิ่นซึ่งเป็นนักวิจัยอิสระ กล่าวว่าการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธอันตรายมาก เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เพราะว่ามันอยู่ในอุปกรณ์ต่างๆ ที่เราใช้ เช่น โทรศัพท์มือถือ ซึ่งประเทศจีนเป็นศูนย์กลางเรื่องแร่นี้มาตั้งแต่ปี 2015 โดยพม่า เป็นประเทศที่ส่งออกให้จีนแทบทั้งหมด ตอนนี้ในรัฐคะฉิ่นมีเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ 200 -300 แห่ง ภายใต้กองกำลังคะฉิ่น(Kachin Independence Army: KIA) ตอนนี้เหมืองดังกล่าวได้ขยายมายังรัฐฉานและขยายมายังชายแดนไทย นี่คือเรื่องการเมืองภูมิภาคไม่ใช่เรื่องของไทยอย่างเดียว ตอนนี้จีนเข้ามาที่กองกำลังว้า

“ตอนที่จีนทำเหมืองในพื้นที่ต้นน้ำคะฉิ่น สารเคมีลงในแม่น้ำสาขาของแม่น้ำอิรวดี ปลาตายหมด วัวตายควายล้ม ชาวบ้านไม่สามารถหากินได้ ถ้าพูดถึงผลกระทบของเหมืองตอนนี้ ไม่ใช่แค่ไทย แต่รวมถึงประเทศตอนล่างทั้งลาว เวียดนาม กัมพูชา ก็จะได้รับผลกระทบด้วย ข้อเสนอคือ ต้องทำเรื่องการเมืองท้องถิ่นให้ยกระดับไปถึงระดับชาติ ถ้าไม่ยกระดับในรัฐสภา ผลกระทบนี้จะไม่ได้รับการแก้ไขเลย” นายซอแลต กล่าว

ด้านนายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว หรือครูตี๋ กล่าวว่า สถานการณ์นี้ เป็นเรื่องใหญ่มาก พวก สส.ต้องเดือดร้อนแล้ว ตอนนี้รัฐบาลนี้ได้แต่สั่งให้จังหวัดทำ สิ่งสำคัญที่สุดคือ วันที่ 5 มิถุนายน จะทำให้คนไทยทั้งประเทศรู้ได้อย่างไรว่า ประชาชนไม่พอใจ

นายนิวัฒน์กล่าวว่า ในวันที 24 มิถุนายน จะมีการปูพรมข้อมูลให้ประชาชนเข้าร่วมในวันที่ 5 โดยจะมีการจัดเวทีที่บริเวณสวนตุง กลางเมืองเชียงราย เพราะปัจจุบันรัฐบาลยังไม่มองว่าปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำกกและแม่น้ำสายเป็นปัญหาที่สำคัญซึ่งตองยกระดับให้เป็นเรื่องของความมั่นคงของชาติและจะจัดการปัญหานี้อย่างไร

ดร.สืบสกุล ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือว่า ได้ข้อตกลงร่วมกันคือในวันที่ 5 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ชาวเชียงรายและลุ่มแม่น้ำกกจะร่วมกันแสดงเจตนาณ์ส่งเสียงไปยังรัฐบาลไทย รัฐบาลเมียนมา รัฐบาลจีน และกองกำลังชาติพันธุ์ที่มีพื้นที่ทำเหมืองต่างๆบริเวณต้นน้ำซึ่งส่งผลกระทบกับคนลุ่มน้ำ โดยตั้งเป้าไหว้ 1 หมื่นคนหรือ 1% ของประชากรในจังหวัดเชียงราย

“อย่างน้อยตอนนี้รัฐบาลไทย ต้องเชิญเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเมียนมา และรัฐบาลจีนมาพูดคุย เพราะประจักษ์แล้วว่ามีสารโลหะหนักปนเปื้อนในแม่น้ำกกและแม่น้ำสายที่มีสาเหตุมาจากการทำเหมืองในพม่า โดยบริษัทจีนเข้ามาทำเหมืองแร่”นายสืบสกุล กล่าว

 

 

 

 

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ต๋ามฮอยศรัทธา2007ปี่ เมินมา-หกเป็งวันทา’ ไหว้สาพระมหาชินธาตุเจ้าดอยตุง ‘ต๋ามฮอยศรัทธา2007ปี่ เมินมา-หกเป็งวันทา’ ไหว้สาพระมหาชินธาตุเจ้าดอยตุง
  • ‘ศธ.’ยกเลิกเดินสวนสนามงาน 103 ปี‘ยุวกาชาด’ ห่วง PM 2.5 กระทบเด็ก-ครูกว่า 5,000 คน ‘ศธ.’ยกเลิกเดินสวนสนามงาน 103 ปี‘ยุวกาชาด’ ห่วง PM 2.5 กระทบเด็ก-ครูกว่า 5,000 คน
  • สพฐ.ไฟเขียว! สั่งปิดเรียนได้ทันที ถ้าอยู่ในพื้นที่ฝุ่น PM 2.5 อันตรายต่อสุขภาพ สพฐ.ไฟเขียว! สั่งปิดเรียนได้ทันที ถ้าอยู่ในพื้นที่ฝุ่น PM 2.5 อันตรายต่อสุขภาพ
  • มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เปิดโครงการฟื้นฟูอาชีพ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมเชียงราย มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เปิดโครงการฟื้นฟูอาชีพ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมเชียงราย
  • \'เลขาฯอาชีวะ\'เผยเตรียมนำรถเทคเตอร์-เครื่องกลขนาดเล็กช่วยพื้นที่น้ำท่วม จ.เชียงราย 'เลขาฯอาชีวะ'เผยเตรียมนำรถเทคเตอร์-เครื่องกลขนาดเล็กช่วยพื้นที่น้ำท่วม จ.เชียงราย
  • ฝูงบิน 416 เชียงรายทำโครงการ Big cleaning \'ทัพฟ้า พาน้องเข้าเรียน\' ฝูงบิน 416 เชียงรายทำโครงการ Big cleaning 'ทัพฟ้า พาน้องเข้าเรียน'
  •  

Breaking News

กรรมของเหมียว! เครือข่ายอาชญากรรม‘คอสตาริกา’ใช้‘แมว’ลอบนำยาเสพติดเข้าเรือนจำ

‘บิ๊กป้อม’เดินเซชนราวบันไดวัดโพธิ์ได้รับบาดเจ็บ ตรวจเบื้องต้นไม่รุนแรง

‘ประเสริฐ’เดินหน้ายกระดับความปลอดภัยไซเบอร์ เปิด‘ประชุมประชาคมไซเบอร์แห่งชาติ’

'สำนักเลขาพระสังฆราช'แถลงปมเพจแพร่ข้อมูลเท็จ แอบอ้าง'พระดำรัส'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved