‘เกษตรกร’เฮ! ‘กฟก.เชียงราย’ รับรองสิทธิและจัดทำเอกสาร ยื่นเข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ฯ‘ธ.ก.ส.’ลดหนี้เหลือเงินต้น 50% ตามมติ ครม.
20 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.00 น. นายนิยม สุวรรณประภา หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) ดำเนินการประชุมชี้แจงและจัดทำเอกสารประกอบการทำสัญญาตามโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2567 และวันที่ 8 เมษายน 2568 สถาบันเจ้าหนี้ ธ.ก.ส.
ทั้งนี้ มีนายประเสริฐ พุทธรางกูร และนายเสน่ห์ คำตา อนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดเชียงราย (ผู้แทนองค์กรเกษตรกร) ร่วมด้วย ณ ห้องประชุมอาคารเทิดพระเกียรติ 90 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ เทศบาลนครเชียงราย
สำหรับขั้นตอนการดำเนินการร่วมกับธนาคารของรัฐ 4 แห่ง กรณีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้สำนักงานสาขาจังหวัดส่งมอบสำเนาแบบ ปคน.1 หรือ แบบ ปคน.2 และแบบ ผค.1/4 ให้กับเกษตรกรแต่ละราย เพื่อใช้เป็นเอกสารในการดำเนินการทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับธนาคารซึ่งธนาคารจะดำเนินการติดต่อเกษตรกร มาทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับธนาคารในแต่ละพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป โดยให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 5 กันยายน 2568
“โดยเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารฯ ธ.ก.ส. และให้ผ่อนชำระเงินต้นคงค้างครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) ตามระยะเวลาที่ตกลงกันแต่ไม่เกิน 15 ปี โดยไม่เสียดอกเบี้ย สำหรับการชดเชยเงินต้นร้อยละ 50 และดอกเบี้ยในส่วนที่เกษตรกรไม่ต้องรับภาระ และค่าใช้จ่ายต่างๆ รัฐบาลจะรับภาระจัดสรรชดเชยให้กับธนาคารฯ เมื่อเกษตรกรได้ชำระหนี้งวดสุดท้ายเสร็จสิ้นแล้ว” นายนิยม กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี