วันพุธ ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
รวบเจ้าหน้าที่ธนาคารดัง 3 ราย ร่วมแก๊งคอลฯ ปลอมเอกสารให้ชาวจีน เปิดบัญชี เพื่อหลอกเงินคนไทย

รวบเจ้าหน้าที่ธนาคารดัง 3 ราย ร่วมแก๊งคอลฯ ปลอมเอกสารให้ชาวจีน เปิดบัญชี เพื่อหลอกเงินคนไทย

วันพุธ ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 11.41 น.
Tag : หลอกเงินคนไทย รวบเจ้าหน้าที่ธนาคาร ปลอมเอกสาร แก๊งคอลเซ็นเตอร์
  •  

ระเบิดสะพานโจร ทำลายแก๊งธนาคาร เครือข่ายคอลเซ็นเตอร์คนจีน  หลอกลวงประชาชนเอาทรัพย์มากกว่า 2,000 ล้านบาท

วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ​ตามนโยบายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไปภายในปีนี้โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร. มอบหมายให้  พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  (ผอ.ศปอส.ตร.) นำมาตรการระเบิดสะพานโจร เพื่อทำลายโครงสร้างพื้นฐานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติ ประกอบด้วย สัญญาณโทรศัพท์ บัญชีธนาคาร  และกวาดล้างคนไทยที่ไปรวมกับคนต่างชาติในการหลอกลวงประชาชน


จากมาตรการเข้มงวดในการเปิดบัญชีม้า รวมทั้งการซีลชายแดนอย่างเข้มงวดทำให้กลุ่มแก๊งคนร้ายต่างชาติ เริ่มหันมาเปิดบัญชีม้าด้วยตนเองโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว แล้วถอนเงินสดออกไปผ่านการกดเงินตู้ ATM เพื่อนำเงินที่หลอกคนไทยได้กลับไปยังประเทศของตนเอง โดยพบว่ามีกลุ่มเจ้าหน้าที่ธนาคารเข้ามามีส่วนร่วมในการทำเอกสารเท็จให้กับกลุ่มคนร้ายต่างชาติดังกล่าว​โดยเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ร่วมกันขยายผลสืบสวนกลุ่มคนร้ายสัญชาติจีนที่ มีพฤติกรรมเข้าข่ายต้องสงสัยว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยผลการสืบสวนขยายผลมีรายละเอียดดังนี้

สืบเนื่อง ศปอส.บช.น.ได้สืบสวนทราบว่ามีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนตระเวนกดเงินสดจากตู้ และ   ถอนเงินสดจำนวนมากที่เคาน์เตอร์ธนาคาร กระทั่งประมาณกลางเดือนมีนาคม พบว่ามีชาวจีนเปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 15 บัญชี เมื่อเปิดบัญชีธนาคารแล้ว จะตระเวนกดเงินสดจากตู้ และถอนเงินสดจำนวนมากที่เคาน์เตอร์ธนาคารภายใน 1–2 วัน แล้วเดินทางออกนอกประเทศทันที จากการรวบรวมพบว่ามีเงินที่ถูกถอนทั้งสิ้น 91 ล้านบาท

จากการสืบสวนพบว่าเจ้าของบัญชีธนาคารชาวจีนทั้ง 15 ราย จะเดินทางเข้ามาในประเทศ โดยมีกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนที่อยู่ในประเทศไทยคอยอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มชาวจีน อาทิ ซื้อซิม โทรศัพท์ เปิดบัญชีธนาคาร เมื่อเปิดบัญชีแล้วจะมีเงินถูกโอนเข้ามาให้กับบัญชีธนาคารทั้ง 15 บัญชี รวมเงินประมาณ 118 ล้านบาท จากการตรวจสอบระบบแจ้งความออนไลน์ทางเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าบัญชีธนาคารชาวจีนทั้ง 15 บัญชี มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว จำนวน 106 คดี แล้วยังพบบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ใช้หลอกลวงอีก 462 บัญชี จากการตรวจสอบพบว่าบัญชีที่มีการแจ้งความแล้วจำนวน 2,084 คดี มูลค่าความเสียหายทั้งหมด 2,200 ล้านบาท

ต่อมาเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 ศปอส.บช.น. ได้การจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่คอยจัดการ และอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มคนร้ายชาวจีนที่มาเปิดบัญชีและถอนเงินออกไปจำนวน 5 ราย

1. MR. YANG (นายหยาง) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2696/2568 ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อั้งยี่ และร่วมกันฟอกเงิน” (สน.บึงกุ่ม) เกี่ยวข้องเป็นกลุ่มจัดหาบัญชีม้า

2. MR. XIE (นายเซี่ย) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2695/2568 ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อั้งยี่ และร่วมกันฟอกเงิน” (สน.บึงกุ่ม) เกี่ยวข้องเป็นกลุ่มจัดหาบัญชีม้า

3. MR. HANG (นายฮาง) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนงที่ 279/2568 ลงวันที่ 23 เม.ย. 68 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อั้งยี่ และร่วมกันฟอกเงิน” (สน.ประเวศ) เกี่ยวข้องเป็นกลุ่มควบคุมการถอนเงิน

4. MR. WU (นายหวู) ถูกดำเนินคดีในข้อหา “เป็นธุระจัดหา เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” นำส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เกี่ยวข้องเป็นกลุ่มควบคุมการถอนเงิน

นอกจากนั้นขยายผลพบว่าในการเปิดบัญชีธนาคารของกลุ่มชาวจีนที่ธนาคารแห่งหนึ่งในอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี มีกลุ่มเอเจนซี่และกลุ่มพนักงานธนาคารมีความเกี่ยวข้องกับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ชาวจีนดังกล่าว จึงได้ไปดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับกลุ่มเอเจนซี่และกลุ่มพนักงานธนาคารต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ซึ่งทาง ศปอส.ภ.2. โดย พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2 และ  พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 ได้รวบรวมพยานหลักฐานนำไปสู่การขออนุมัติหมายจับกลุ่มคนที่เกี่ยวข้อง รวม 6 ราย ดังนี้

1. นางสาวสิริลักษณ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว โดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้ข่าว หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” (สภ.บางละมุง) เกี่ยวข้องเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร

2. นางสาวชุติมา ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว โดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้ข่าว หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด ,ร่วมกันเป็นผู้สนับสนุนกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน” (สภ.บางละมุง) เกี่ยวข้องเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร

3. นายทรงพล ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว โดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้ข่าว หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด ,ร่วมกันเป็นผู้สนับสนุนกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน” (สภ.บางละมุง) เกี่ยวข้องเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร

4. นางสาวมนธิดา  ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว โดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้ข่าว หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” (สภ.บางละมุง) เกี่ยวข้องเป็นล่าม

5. นายณรงค์ฤทธิ์  ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว โดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้ข่าว หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด และเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาญชากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด” (สภ.บางละมุง) เกี่ยวข้องเป็นล่าม
 
พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้เริ่มปรับตัวใช้วีซ่าท่องเที่ยวมาเปิดบัญชีด้วยตนเอง โดยมีเจ้าหน้าที่ธนาคารกลุ่มหนึ่งให้ความช่วยเหลือ ทาง ศปอส.ตร. จะได้มีการขยายผลในคดี จับกุม ยึดทรัพย์ กลุ่มคนร้ายที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด ซึ่งยังมีบัญชีม้าที่เกี่ยวข้องอีกเป็นจำนวนมากมูลค่าความเสียหายเป็นหลักพันล้านบาท และในคดีนี้พบช่องว่างของการทำงานของธนาคาร ซึ่งจะต้องมีมาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบมากขึ้นต่อไป

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ทลายขบวนการกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทลายขบวนการกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์
  • รวบ\'แก๊งค้ามนุษย์\' ลวงเยาวชนทำงาน ตปท.สุดท้ายตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลฯ รวบ'แก๊งค้ามนุษย์' ลวงเยาวชนทำงาน ตปท.สุดท้ายตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลฯ
  • \'จเรตำรวจฯ\'หารือ\'ตร.ไซเบอร์อินเดีย\' พบคดีคอลเซ็นเตอร์มากกว่าไทยเกือบ 10 เท่า 'จเรตำรวจฯ'หารือ'ตร.ไซเบอร์อินเดีย' พบคดีคอลเซ็นเตอร์มากกว่าไทยเกือบ 10 เท่า
  • จเรฯร่วมถกแก้ปัญหาแก๊งคอลฯ-ค้ามนุษย์ จเรฯร่วมถกแก้ปัญหาแก๊งคอลฯ-ค้ามนุษย์
  • อายัดทัน 2 ล้าน! แก๊งคอลตุ๋นอดีตข้าราชการสูญ 3.9 ล้าน พร้อมส่งเงินคืนผู้เสียหาย อายัดทัน 2 ล้าน! แก๊งคอลตุ๋นอดีตข้าราชการสูญ 3.9 ล้าน พร้อมส่งเงินคืนผู้เสียหาย
  • รวบ2คนไทยจัดหาบัญชีม้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวบ2คนไทยจัดหาบัญชีม้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์
  •  

Breaking News

แฉละเอียดยิบ!!! เปิดโปงแก๊งคนบาป หากินกับ'วัดร้าง เจ้าที่แรง'พระยังอยู่ไม่ได้

เร่งกล่อม‘ทหารคลั่ง’มอบตัว หลังยิงกันเองที่ปัตตานี

(คลิป) เปิดแผล! 'ไล่หนูตีงูเห่า' 'เพื่อไทย' เปิดหน้าล้ม 'ภูมิใจไทย'

ล่าตัวหนุ่มตรัง! ฆ่ารัดคอพยาบาลสาว ขับรถผู้ตายจอดห้างดังก่อนหนี

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved