ตำรวจกองปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB บุกรวบสาวแสบ หลอกออมเงินผ่านเฟซบุ๊ก อ้างแถมทอง-ให้ดอกเบี้ยสูง เหยื่อหลงเชื่อสูญเกือบ 2 แสนบาท
วันนี้ (22 พ.ค.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปราม (บก.ป.) ว่าที่ พ.ต.อ.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร พ.ต.ท.มนต์ชัย เพ็งเลิศ พ.ต.ท.พงศกร ต้นอารีย์ พ.ต.ท.สิทธิพร มีอาษา พ.ต.ท.ปรัชญ์ แม้นเดช รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ต.วรัท เสริมสุจริต สว.กก.2 บก.ป.นำกำลังจับกุม น.ส.สิริธร อายุ 30 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2759/2568 ลงวันที่ 14 พ.ค.2568 เลขคดีที่ 4/2568 ข้อหาฉ้อโกงประชาชน, กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่ว , หมายจับศาลแขวงขอนแก่น ที่ จ.160/2567 ลงวันที่ 23 พ.ค.2567 ข้อหายักยอกทรัพย์ และหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 586/2564 ลงวันที่ 12 พ.ย.2564 ข้อหาฉ้อโกงประชาชน, กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน จับกุมได้ที่ริมถนน ภายในซอยธรรมวงศ์สวัสดิ์ 10 ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากมีผู้เสียหาย เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.ว่าถูก น.ส.สิริธร ซึ่งใช้บัญชีเฟซบุ๊กปลอมแปลงข้อมูล หลอกลวงให้ร่วมลงทุนออมเงินกินดอก โดยโฆษณาว่ามีการแถมทองคำน้ำหนักครึ่งสลึง มีผลตอบแทนในการออมสูง แต่สุดท้ายกลับเชิดเงินที่ผู้เสียหายนำมาร่วมลงทุน หลบหนีไป รวมมูลค่าความเสียหายเฉียด 2 แสนบาท
สำหรับพฤติการณ์กระทำผิด เริ่มต้นเมื่อช่วงเดือนมกราคม 2564 ผู้เสียหาย เปิดบัญชีเฟซบุ๊ก ก่อนจะพบโพสต์เชิญชวนลงทุนในกลุ่มสาธารณะโดยผู้ที่ใช้ชื่อว่า “Siritron Tranjaroen” ต่อมาทราบว่าเป็น น.ส.สิริธร มีการตั้งกลุ่มในชื่อ “บ้านออมร่ำรวย” มีสมาชิกกว่า 1,000 คน ชักชวนให้ร่วมออมเงินแบบรายวัน ราย 3 วัน หรือราย 7 วัน เสนอผลตอบแทนสูง พร้อมแถมทองคำครึ่งสลึง หากลงทุนตามเงื่อนไขที่กำหนด ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ เพราะผู้ต้องหานำภาพสลิปโอนเงินมาโพสต์โชว์ ว่ามีการจ่ายคืนจริง รวมถึงดึงผู้เสียหายเข้ากลุ่มแชท ที่มีสมาชิกพูดคุยเกี่ยวกับการออมเงิน เมื่อผู้เสียหายร่วมลงทุนแล้ว กลับได้รับผลตอบแทนไม่ครบตามที่ตกลง และเงินต้นก็ไม่ได้รับคืนตามกำหนด โดยทางผู้ต้องหาอ้างว่าเงินจากลูกค้ารายอื่นยังไม่เข้าบัญชี จึงขอเลื่อนการจ่ายโดยไม่มีกำหนด แต่ระหว่างนั้น กลับยังชักชวนผู้เสียหายลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อมีโอกาสได้รับเงินเพิ่ม และได้เงินคืนเร็วขึ้น จนยอดรวมที่โอนไปสูงถึง 190,400 บาท
ภายหลังผู้เสียหายเห็นว่า ไม่ได้รับเงินคืนและยิ่งลงทุนมากขึ้นก็ยิ่งได้รับความเสียหายมากขึ้นไปอีก จึงไม่นำเงินไปลงทุนเพิ่มอีกแล้ว ก่อนจะพยายามทวงถามหลายครั้ง แต่ผู้ต้องหาก็ยังบ่ายเบี่ยง โดยตอบเพียงว่า “เดี๋ยวไปตามหมายค่ะ” ทำให้ผู้เสียหายตัดสินใจแจ้งความผ่านทางออนไลน์ เมื่อวันที่ 6 เม.ย.2566 และต่อมาทราบว่าระบบได้ส่งเรื่องไปยังตำรวจ บก.ป.ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ป.
จากนั้น ทางชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญา ออกหมายจับ ก่อนจะสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ในที่สุด จากการตรวจสอบข้อมูลของผู้ต้องหา พบว่าเคยมีประวัติถูกดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันอีกกว่า 10 คดี ทั้งในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้วประมาณ 1,150,000 บาท จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
015
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี