DSIสั่งฟ้อง5ราย
นอมินีบ.ไชน่าฯ
คดีตึกสตง.ถล่ม
แยกคดีฮั้วประมูล
ดีเอสไอสั่งฟ้อง5ผู้ต้องหาคดีนอมินีบริษัทไชน่าเรลเวย์ฯ เตรียมส่งอัยการคดีพิเศษ ส่วน ‘บินลิง วู’ เจ้าหน้าที่ยังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี ที่ประชุมคดีเห็นชอบแยกคดีฮั้วประมูล รับเป็นคดีพิเศษอีกคดี
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.อมร หงษ์ศรีทอง ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ และนายศุภภางกูร พิชิตกุล รอง ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ แถลงผลการประชุมสรุปสำนวนคดีพิเศษที่ 32/2568 ความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 หรือคดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อสั่งฟ้องต่ออัยการคดีพิเศษ ในคดีอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า การประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 มีประเด็นที่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 และความผิดที่เกี่ยวข้อง โดยได้มีการพิจารณา 2-3 ประเด็น คือ 1.การสอบสวนเรื่องนอมินี เนื่องจากก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้ขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว จึงมีการประชุมพิจารณาพยานหลักฐานเบื้องต้น ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นทางคดี โดยคดีจะไม่จบที่ชั้นพนักงานสอบสวนเพียงเท่านั้น แต่ต้องเป็นระดับกรมสอบสวนคดีพิเศษ 2.สำนวนเกี่ยวพันกัน คือ ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 ซึ่งที่ประชุมมีมติให้แยกเป็นอีกหนึ่งคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการต่อไป
3.รายการสิ่งของที่มีการตรวจยึดระหว่างการสืบสวนสอบสวน ซึ่งฝ่ายเลขาฯ คณะพนักงานสอบสวน เสนอว่าสิ่งของใดที่ต้องใช้เป็นพยานหลักฐาน หรือสิ่งใดไม่มีความเกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามระเบียบในการคืนต่อไป ยืนยันว่าสำนวนคดีนอมินี ยังคงมีผู้ต้องหาทั้งหมด 5 ราย ประกอบด้วย 3 นอมินีไทย, นายชวนหลิง จาง และนายบินลิง วู ในส่วนของนายบินลิง วู เจ้าหน้าที่ส่วนสืบสวนสะกดรอยและการข่าว ยังอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัว โดยตรวจสอบข้อมูลยังไม่พบว่าเดินทางออกนอกประเทศ และได้ประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ช่วยดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม หากจับกุมตัวนายบินลิง วูไว้ได้หลังจากส่งสำนวนให้อัยการ ก็จะมีการแจ้งข้อหา ก่อนนำตัวสั่งฟ้องตามขั้นตอน ทั้งนี้ กรณีที่ว่าพบเจ้าหน้าที่ สตง.มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้หรือไม่ขอเรียนว่า ในการพิจารณาสำนวนครั้งนี้เป็นเรื่องของคดีนอมินีส่วน 3 นอมินีไทย และนายชวนหลิง จาง ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ยังไม่ได้เข้ามาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา เมื่อเรายึดหลักฟังความทั้งสองฝ่าย ตอนที่รวบรวมหลักฐานแล้วพบว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอรับฟังได้ว่ามีการกระทำผิด จึงแจ้งข้อหา และเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาเข้ามาอธิบายชี้แจง แต่ผู้ต้องหาไม่ได้นำพยานหลักฐานมาชี้แจงตามกำหนด ดีเอสไอจึงต้องประชุมมีความเห็นทางคดีตามขั้นตอน ทั้งนี้ คดีนอมินีมีเอกสารจำนวนมากอยู่ระหว่างการจัดเรียง เมื่อคณะพนักงานสอบสวนมีมติแล้ว ก็จะเสนอต่ออธิบดีดีเอสไอ เพื่อพิจารณา ก่อนสรุปส่งสำนวนส่งอัยการคดีพิเศษ
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวอีกว่า สำหรับคดีฮั้วประมูลที่แยกเป็นคดีพิเศษอีกหนึ่งคดียังไม่โฟกัสในมาตราใดเป็นพิเศษ เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน เนื่องจากมีประเด็นเกี่ยวข้องเยอะ โดยเน้นตรวจสอบสัญญา 3 ฉบับ คือสัญญาการก่อสร้าง สัญญาการออกแบบ และสัญญาการควบคุมงาน ซึ่งก่อนหน้นี้พนักงานสอบสวนเรียกสอบปากคำกลุ่มผู้เสนอราคา (6 นิติบุคคล) ผู้จัดทำบัญชีและตรวจสอบบัญชี รวมถึงผู้รับงานก่อสร้าง แต่พบความผิดปกติหรือไม่นั้นจะอยู่ในคดีพิเศษฮั้วประมูล ส่วนพฤติการณ์ของนายบินลิง วู ที่พบความเชื่อมโยงว่าอาจเกี่ยวข้องกับบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ แต่ไม่ปรากฏชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในบริษัท แต่กลับพบว่ามีชื่อในบริษัทอื่นที่ใช้ที่ตั้งบริษัทเดียวกับบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ แต่ข้อมูลดังกล่าวยังไม่สามารถอธิบายถึงพฤติการณ์กระทำผิด โดยข้อเท็จจริงเราเสนอต่อศาลแล้ว
ทั้งนี้ ศาลเห็นว่าพยานหลักฐานที่เราเสนอไปมีเหตุอันควรที่จะออกหมายจับเมื่อได้ตัวมาแล้วก็อยากฟังคำชี้แจงของผู้ต้องหา ว่ามีข้อแก้ตัวและข้ออธิบายอย่างไรบ้าง สุดท้ายการสั่งคดีต้องฟังความทั้งสองฝ่าย ยืนยันว่าเราพยายามสื่อสารกับคนใกล้ตัวของเขาว่าให้เข้ามาแสดง เพื่อเข้าสู่กระบวนการ เพราะการสอบสวนถือเป็นกระบวนการยุติธรรมชั้นต้นเจ้าตัวยังมีโอกาสอธิบายความ ยังมีชั้นอัยการที่จะกรองสำนวน และต่อสู้คดีในชั้นศาลได้
“กรณีที่นายบินลิง วู มีหมายจับศาลอาญาแต่กลับไม่ยินยอมเข้าพบพนักงานสอบสวน จะกลายเป็นเงื่อนไขในการค้านประกันตัวหรือไม่นั้น การสอบสวนเมื่อเสร็จสิ้นแล้วก็จะกลายเป็นชั้นการพิจารณาของอัยการ ส่วนการสอบปากคำคณะกรรมการตรวจรับ จัดซื้อจัดจ้างของ สตง.ว่าพบความผิดปกติใดหรือไม่นั้น ทราบว่าทางฝ่ายเลขาฯ คณะพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำคณะกรรมการทั้ง 3 โครงการอยู่ ส่วนจะพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องในคดีความผิดฮั้วประมวลหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ถ้าพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องก็จะเป็นความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ซึ่งดีเอสไอจะต้องส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไป” โฆษกดีเอสไอ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี