ตำรวจกองปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB บุกรวบหนึ่งในแก๊งบัญชีม้า ตุ๋นทรัพย์ ‘พลตรี’ เสียหายกว่า 3.6 ล้านบาท
วันนี้ (23 พ.ค.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์ พ.ต.ท.อภิชน ขันกา พ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ์ พ.ต.ท.กฤษฎา พลายละหาร พ.ต.ท.รัฐวิรุฬห์ จันทสุบรรณ รอง ผกก.1 บก.ป. ว่าที่ พ.ต.ต.นัฐพล ทะเลน้อย สว.กก.1 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าจับกุมนายอาทิตย์ อายุ 26 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1358/25667 ลงวันที่ 30 มี.ค.2567 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงร่วมกัน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนหรือเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำในไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด จับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านพัก ในพื้นที่หมู่ 5 ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2566 ได้มีผู้เสียหายซึ่งเป็นนายทหารยศ พล.ต.ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยผู้เสียหาย ให้การว่า ขณะที่พักอาศัยอยู่ที่บ้าน มีโทรศัพท์สายหนึ่ง โทร.เข้ามา โดยอ้างว่าเป็นพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง แจ้งว่ามีคนร้ายคดีฟอกเงินและค้ายาเสพติด นำชื่อ-นามสกุล ของผู้เสียหายไปใช้เปิดบัตรเครดิตกับทางธนาคาร พร้อมกับแจ้งว่าเดี๋ยวจะมีตำรวจรับแจ้งกรณีที่เกิดขึ้นจากผู้เสียหาย โดยมีการติดต่อพูดคุยรายละเอียด จากนั้นมิจฉาชีพปลอมเป็นตำรวจ ได้แจ้งผู้เสียหายว่าจะอายัดบัญชีธนาคาร การทำธุรกรรมทั้งหมด พร้อมทั้งให้ใช้บัญชีไลน์ ติดต่อเข้ามาทางแชท
จากนั้นผู้เสียหายได้พิมพ์ชื่อ-นามสกุล พร้อมบัญชีธนาคาร ที่ใช้อยู่ ส่งเข้ามาทางไลน์ แล้วมิจฉาชีพ จึงทำทีโทร.แบบวิดีโอคอล เพื่อขอดูบัญชีผู้เสียหาย ที่มีอยู่ 2 บัญชี ก่อนจะมีการถ่ายภาพหมายจับผู้ต้องหาคดีฟอกเงินและค้ายาเสพติด ออกโดย สภ.เมืองตาก เพื่อลวงผู้เสียหายให้ยิ่งเกรงกลัวว่าจะเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด รวมทั้งมีหนังสือที่มีชื่อเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ อยู่ท้ายหนังสือ ให้ผู้เสียหาดู
ต่อมามิจฉาชีพได้โทร.แบบวิดีโอคอล มาอีกครั้ง อ้างว่าจะให้ผู้เสียหายคุยกับ ผกก.สภ.เมืองตาก ซึ่งระหว่างรอสาย มิจฉาชีพแจ้งว่า ผกก.มอบหมายให้ตำรวจอีกนาย เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ก่อนจะให้ผู้เสียหายแจ้งว่ามีแอปพลิเคชั่นธนาคารในโทรศัพท์มือถือหรือไม่ ให้โอนเงินในบัญชีธนาคารทั้งหมด มาเพื่อตรวจสอบความเชื่อมโยงกับคดีฟอกเงิน แต่ผู้เสียหายไม่มีแอปฯ จึงให้มีการติดตั้งแอปฯ โดยให้ผู้เสียหายไปติดต่อธนาคาร กระทั่งสามารถโอนเงินจากบัญชีได้ ซึ่งมิจฉาชีพอ้างว่าเมื่อตรวจสอบเสร็จสิ้น หากเงินดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด จะโอนเงินคืนให้ทั้งหมด แต่เมื่อโอนไปยังบัญชีธนาคารในชื่อนายอาทิตย์ 2 ครั้ง และบัญชีอื่นอีก 3 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 3.6 ล้านบาท แล้ว ภายหลังกลับไม่ได้รับเงินคืน ก่อนจะรู้ตัวว่าถูกหลอกลวง จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดี
ทั้งนี้ หลังจากได้รับแจ้ง ทางพนักงานสอบสวนได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ขออำนาจศาลออกหมายจับไว้ โดยพบว่านายอาทิตย์ เจ้าของบัญชีธนาคารที่ได้รับโอนเงินจากผู้เสียหายไปนั้น ทำงานและพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงวางแผนสืบสวนติดตาม และเฝ้าสังเกตการณ์ จนพบตัว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ดำเนินคดี
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าได้นำบัญชีธนาคารให้แฟนเก่าไปใช้โดยไม่ทราบว่าถูกนำไปใช้ในการกระทำผิด และไม่เคยได้รับเงินจากบัญชีดังกล่าว ที่มีการใช้รับโอนเงินที่ได้มาจากการหลอกลวงผู้เสียหายแต่อย่างใด
015
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี