ตำรวจกองปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB รวบหนุ่มไอทีหัวใส หลอกขอรหัสเข้าถึงโดเมน ก่อนขู่แบล็กเมลเหยื่อ

วันนี้ (23 พ.ค.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์ พ.ต.ท.อภิชน ขันกา พ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ์ พ.ต.ท.กฤษฎา พลายละหาร พ.ต.ท.รัฐวิรุฬห์ จันทสุบรรณ รอง ผกก.1 บก.ป.  พ.ต.ท.เรืองวิทย์ ดวงจินดา สว.กก.1 บก.ป.นำกำลังร่วมกับตำรวจ บก.ปอท.เข้าจับกุม นายนครินทร์ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 895/2567 ลงวันที่ 16 ก.ย.2567 ข้อหาโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลอันเท็จโดยประการที่นำจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคลหนึ่ง เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน , เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน , ทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ และกรรโชกทรัพย์ จับกุมได้บริเวณถนนแห่งหนึ่ง แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กทม.

ทั้งนี้ เนื่องจากนายนครินทร์ มีพฤติกรรมแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายไอทีของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าให้บริการจดเว็บโฮสติ้ง หรือจดโดเมนเนมต่างๆ เพื่อหลอกเหยื่อ โดยนายนครินทร์ จะติดต่อหาเหยื่อด้วยวิธีการหาตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีการลงช่องทางติดต่อของผู้บริหาร หรือกรรมการบริษัทไว้

จากนั้นนายนครินทร์ จะใช้ไลน์ติดต่อไป โดยใช้ชื่อว่า “IT Support ” แนะนำตัวว่าเป็นพนักงานของบริษัท ที่รับจดทะเบียนเว็บไซต์ฯ ก่อนจะออกอุบายแจ้งเหยื่อ ว่าเว็บไซต์มีปัญหาในการส่งรหัสการเข้าใช้บัญชีฯ แล้วแกล้งขอรหัสเข้าถึงกับเหยื่อ หากเหยื่อรายใดหลงเชื่อ ส่ง Username และ Password หรือรหัสผ่าน ในการเข้าถึงเว็บไซต์ให้ นายนครินทร์ ก็จะเปลี่ยนแปลงรหัสการเข้าถึง และส่งข้อความข่มขู่เหยื่อให้จ่ายเงินให้ เพื่อเป็นค่าไถ่ถอนโดเมนเนมของเว็บไซต์คืน

นอกจากนี้นายนครินทร์ ยังพูดคุยในลักษณะข่มขู่ว่า หากไม่ยอมจ่ายเงินให้ เว็บโฮสติ้งหรือโดเมนเนมก็จะถูกระงับทันที เป็นเหตุให้เหยื่อหวาดกลัวว่าจะส่งผลเสียหายในทางธุรกิจ ประกอบกับคำพูดของนายนครินทร์ ที่เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามรถเรื่องไอที มักจะนำความรู้ดังกล่าวมาใช้พูดจาหว่านล้อมให้เหยื่อหลงเชื่อ จนถึงขั้นต้องรีบโอนเงินให้ ซึ่งทันทีที่เหยื่อโอนเงินแล้ว นายนครินทร์ จะบล็อกช่องทางการติดต่อ แล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีเหยื่อที่ถูกนายนครินทร์ หลอกลวงเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายของแต่ละราย อยู่ที่ประมาณ 1,000-50,000 บาท มีทั้งคนที่ประกอบธุรกิจออนไลน์ และบริษัทผู้ให้บริการจดเว็บโฮสติ้ง หรือการจดโดเมนเนม โดยผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ต้องใช้งานเว็บไซต์ และจดโดเมนเนม ใช้งานต่างๆ ทั้งสิ้น ทำให้ผู้เสียหายต่างรวมกันเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอท.ก่อนจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหา

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนติดตามตัวนายนครินทร์ อย่างต่อเนื่อง โดยพบข้อมูลว่านายนครินทร์ จะใช้โทรศัพท์มือถือหลายเครื่อง เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบ และจะตระเวนเปลี่ยนที่พักอาศัยไปเรื่อยๆ ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีทั้งเช่าห้องพักรายวัน และเข้าพักตามโรงแรม หรือโฮสเทลต่างๆ พักอาศัยคราวละ 3-5 วัน แล้วก็จะเปลี่ยนที่พักอาศัยใหม่ เพื่อให้ยากต่อการสืบสวนติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่

กระทั่งทางเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป.สืบสวนทราบว่า นายนครินทร์ ได้หลบหนีไปอาศัยอยู่ย่านถนนพระราม 4 แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กทม.และพื้นที่บริเวณใกล้เคียง จึงวางแผนลงพื้นที่ตรวจสอบ และเฝ้าสังเกตการณ์ จนพบตัวผู้ต้องหา ก่อนจะแสดงตัวเข้าจับกุมไว้ได้ในที่สุด โดยชุดจับกุมได้คุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอท.รับไว้ดำเนินคดีต่อไป

สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง และนำเงินที่ได้จากการข่มขู่เหยื่อไปใช้จ่ายส่วนตัวและซื้อหาข้าวของ เครื่องใช้ต่างๆ ที่ชื่นชอบ

015