เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความว่า "พี่สาวฉันสู้ชีวิตมากวิ่งตามรถ ลิตนเอื้อยฉันเด้ จับให้ได้นะค่ะ คนหยังเป็นตาซังแท้ เติมแล้วหนี อย่าหาทำ วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 เวลา 16.32 น. มีรถยนต์ อีซูซุ สีเทา เติมน้ำมันที่ ปตท.หนองฮี แล้วขับรถหนี ไม่จ่ายเงิน หนีไปก็ไม่รอดครับ กล้องวงจรปิดจับภาพไว้หมดแล้วตำรวจกำลังติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เติมแล้วจ่าย จะได้ไม่ต้องหนีให้เหนื่อยนะครับ #เติมแล้วหนีไม่เท่เลย #อย่าหาทำ #กล้องจับไว้หมดแล้วเด้อ #เห็นทะเบียนชัดเจน"

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สถานีบริการน้ำมันดังกล่าว ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2033 สายหนองญาติ-นาแก ฝั่งเข้าเมืองนครพนม ต.หนองฮี อ.ปลาปาก จ.นครพนม เป็นของ หจก.ปอ.ปอ.เรณูนคร สาขาหนองฮี พบพนักงานหน้าลานที่ประสบเหตุการณ์ชื่อ น.ส.ปวีณา หรือ ฝ้าย อายุ 32 ปี อยู่บ้านโนนสวรรค์ หมู่ 1 ต.นางาม อ.เรณูนคร จ.นครพนม พร้อมเพื่อนร่วมงานด้วยกันหลายคน

โดย น้องฝ้าย เปิดเผยว่า ตนทำหน้าที่เป็นแคชเชียร์ แต่หากมีรถเข้ามาเติมน้ำมันเยอะ ก็ต้องออกจากตู้มาช่วยกัน ถือเป็นเรื่องปกติในการทำงาน ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลาบ่าย 4 โมงเศษๆ มีรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน บท 7445 สกลนคร ขับเข้ามาในช่องที่สอง โดยชายคนขับอายุประมาณ 30 - 40 ปี ลดกระจกลงมาสั่งเติมน้ำมันดีเซล 1,000 บาท ตนก็ทำตามหน้าที่ เมื่อครบจำนวนได้ปิดฝาถังแล้วหันไปเก็บหัวจ่าย จังหวะนั้นคนขับได้เร่งเครื่องจนควันดำวิ่งหลบหนีไปทาง จ.นครพนม ตนแม้จะร้องตะโกนและวิ่งตามก็ไม่ทัน ปกติหากลูกค้าลืมจ่ายเงินเสียงตะโกนดังขนาดนั้นต้องจอดรถแล้ว แสดงว่าเขาจงใจจะโกงค่าน้ำมัน หรืออาจไปก่อเรื่องที่ไหนมาก่อน

จากนั้นผู้จัดการปั๊ม ได้นำหลักฐานกล้องวงจรปิดไปแจ้งความกับ ร.ต.อ.ชาลี เชื้อกุลา รองสารวัตรสอบสวน สภ.วังยาง ช่วยราชการ สภ.หนองฮี ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อติดตามคนขับรถคันดังกล่าวมารับผิดชอบ ซึ่งตนยังไม่รู้ว่าจะโดนหักเงินเดือนหรือไม่ ถือเป็นครั้งแรกที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ ขอเป็นอุทธาหรณ์ให้เพื่อนร่วมอาชีพ ระมัดระวังบุคคลที่มีเจตนาไม่ดี เงินเดือนพนักงานก็ไม่ได้มากมายอะไร ควรจะสงสารไม่ใช่ซ้ำเติมกัน

ด้าน พ.ต.ต.เอกชัย แสนคำ สวป.สภ.หนองฮี เปิดเผยว่า หลังพนักงานสอบสวนรับแจ้งความ ก็มีการตรวจสอบเลขทะเบียนรถยนต์ พบว่า ชื่อผู้ครอบครองเป็นผู้หญิงอยู่ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร ตามขั้นตอนก็ต้องมีหมายเรียกมาให้ปากคำ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับชายคนนี้หรือไม่ ซึ่งทราบจากทางผู้บริหารปั๊มน้ำมัน หากนำเงินมาคืนก็ไม่เอาความ แต่ถ้าออกหมายเรียกไป 2 ครั้ง ยังไม่มาแสดงความบริสุทธิ์ก็จะกลายเป็นหมายจับ

- 006