ซุบซิบกทม.

นักการเมืองไทยโดยหลักทุกคนต้องเดินตามรอยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่สร้างบ้านสร้างเมืองไว้ยิ่งใหญ่พร้อมขยายอาณาเขตประเทศจนข้าศึกเกรงกลัว แต่ว่ากันว่าเมืองหรือบุคคลที่พระนเรศวรคั่งแค้นในหัวใจมากๆนอกจากพม่าหงสาแล้ว เจ้าเมืองละแวก กัมพูชา ก็ทำให้พระองค์เก็บความแค้นไว้ชำระนานพอดู เนื่องจากพอกรุงศรีอยุธยามีศึกติดพันกับพม่าครั้งใด พระยาละแวกจะนำไพร่พลออกมาหยามเกียรติกรุงทุกครั้ง รวมทั้งจับเอาผู้คนไปเป็นทาสเชลย ซึ่งกระทำอยู่บ่อยๆ ดังนั้นเมื่อเสร็จศึกพม่าแล้วสมเด็จพระนเรศวรก็ยกทัพบุกยึดเมืองละแวก พร้อมจับเอาตัวพระยาละแวกตัดหัวใช้เลือดล้างพระบาทสมแค้นทันที โทษฐานตีสองหน้าไว้ใจไม่ได้ที่แอบ“ลอบกัด”เข้าไปตีขอบเขตแผ่นดินกรุงศรีอยู่เสมอๆขณะกรุงศรีมีการรบติดพันกับพม่า...การตีสองหน้าของเขมรหรือกัมพูชาลักษณะไว้ใจไม่ได้นี้ ปัจจุบันลูกหลานแหลนของพระยาละแวกก็สืบสันดานมาเช่นนั้นทุกประการ ที่สำคัญดินแดนไทยที่เสียไปสุดเจ็บปวดเพราะอิทธิพลมหาอำนาจฝรั่งเศส(เกาะกง เขาพระวิหาร) ค้ำจุนอยู่เบื้องหลังเขมร คนไทยทุกคนที่มีเลือดไทยต่างรู้เห็นชาติและชอกช้ำใจที่เราต้องเสียดินแดนโดยไม่น่าจะเสีย ฉะนั้นเรื่องการตีสองหน้าของเขมร ถ้าคนไทยคนไหนหรือนักการเมืองคนใดหน้าไหนไม่เจ็บแค้น หรือไปสยบสมยอมให้เขมรไม่ว่าจะโดยสัมมาคารวะจนถูกเขมรลูกหลานพระยาละแวกลูบหัวเป่ากระหม่อม บุคคลนั้น นักการเมืองคนนั้นทุเรศทุรยศต่อความรู้สึกของคนไทยอย่างมาก เกียรติยศศักดิ์ศรีที่บรรพบุรุษร่วมกันสละชีพเลือดปลุกเสกจนเรามีแผ่นดินซุกหัวนอนวันนี้เราควรสำนึก ใครจะยอมเป็นทาสใครกระทำโดยส่วนตัวไม่มีใครว่า แต่อย่าเอาเผ่าพันธุ์ไทยมวลรวมไปจำนนให้เขาดูถูกลูบหัวเล่น เพราะนั่นคือการเสื่อมเสียเกียรติบรพบุรุษอย่างรุนแรงทีเดียว...อย่าลืมคำพูดเตือนสติคนไทยที่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ อดีตนายกรัฐมนตรีพูดออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อครั้งเราเสียดินแดนเขาพระวิหารให้เขมร เพราะความประมาทของเรา และอิทธิพลฝรั่งเศสที่แอบหนุนเขมรในเวทีโลก และเราสงวนสิทธิ์ในการเรียกร้องเอาเขาพระวิหารคืนมาในวันข้างหน้า แม้คำพูดนั้นจอมพลสฤษดิ์จะกระทำไม่ได้ เพราะเสียชีวิตเสียก่อน แต่เราคนไทยควรภูมิใจกับคำพูดดังกล่าวสืบไปชั่วลูกชั่วหลาน...

ไผ่ฎำ

036