กรมหม่อนไหม เปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้านหม่อนไหม “แต้มตะกอ” ผ้าไหมลายโบราณบ้านโคกหม้อ จ.อุทัยธานี สร้างรายได้ อนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้การปลูกหม่อน เลี้ยงไหม และการทอผ้าไหมไทยให้กับนักท่องเที่ยวและชุมชนอย่างยั่งยืน
วันนี้ (5 มิ.ย.) นายนวนิตย์ พลเคน อธิบดีกรมหม่อนไหม เปิดเผยว่า กรมหม่อนไหม โดยสำนักอนุรักษ์และตรวจสอบมาตรฐานหม่อนไหม ได้จัดทำโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้านหม่อนไหม เพื่อส่งเสริมและสร้างรายได้เพิ่มให้แก่กลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการด้านหม่อนไหม จากการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม โดยในปีงบประมาณ 2567 ดำเนินการนำร่องในพื้นที่มีศักยภาพ จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ 1.ทอฝันผ้าไหมยกดอกลำพูน จ.ลำพูน 2.แหล่งเรียนรู้นวัตกรรมย้อมสีธรรมชาติ ศูนย์เรียนรู้อ้วนกลมแฮปปี้ฟาร์ม จ.อุดรธานี 3.พิพิธภัณฑ์ผ้าไหมมัดหมี่ชินไหมไทย จ.ขอนแก่น 4.พิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณชัยภูมิ (เฮือนคำมุ) จ.ชัยภูมิ 5.คุณนายไหมไทย จ.สมุทรสงคราม 6.แต้มตะกอ (ผ้าไหมลายโบราณบ้านโคกหม้อ) จ.อุทัยธานี และในปี 2568 เพิ่มขึ้นอีก 6 แห่ง ได้แก่ 1.คุ้มจันทร์หอม จ.อุบลราชธานี 2.ศูนย์หัตถกรรมทอผ้าบ้านเขาเต่า จ.ประจวบคีรีขันธ์ 3.สุนทรีผ้าไทย ศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้านโบราณหาดเสี้ยว จ.สุโขทัย 4.แพรวาโสภารักษ์ จ.กาฬสินธุ์ 5.ผ้าไหมแพรวาแม่ประคอง จ.กาฬสินธุ์ 6.ชาใบหม่อนกาญจนา Mulberry Mellow จ.กาญจนบุรี รวมทั้งสิ้น 12 แห่ง ในพื้นที่ 11 จังหวัด
ทั่งนี้ กรมหม่อนไหม ได้จัดงานเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้านหม่อนไหม ภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้านหม่อนไหมขึ่น ณ กลุ่มทอผ้า “แต้มตะกอ” ผ้าไหมลายโบราณบ้านโคกหม้อ ตำบลโคกหม้อ อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี เพื่อเป็นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้านหม่อนไหม แต้มตะกอ (ผ้าไหมลายโบราณบ้านโคกหม้อ) ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้านหม่อนไหมที่สำคัญของจังหวัดอุทัยธานี สามารถสนับสนุน ส่งเสริม และถ่ายทอดองค์ความรู้ทางวิชาการ รวมถึงการอนุรักษ์สืบสานภูมิปัญญาด้านการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และการทอผ้าไหมไทย และสร้างการตระหนักรู้ถึงคุณค่าของอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และคุณค่าของผ้าไหมไทย เป็นแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาด้านหม่อนไหม การฟอกย้อมสีเส้นไหม การมัดหมี่ และการทอผ้า “ผ้าจกลาวครั่ง” ให้แก่นักท่องเที่ยว เยาวชน เกษตรกร นักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป ที่มีความสนใจในงานด้านหม่อนไหม และจะเป็นช่องทางการสร้างรายได้ กระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน โดยมีศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ กาญจนบุรี รับผิดชอบดำเนินงานโครงการในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี
ขณะที่นายวัชรพงษ์ แก้วหอม รองอธิบดีกรมหม่อนไหมบอกว่าในงานมีกิจกรรม ได้แก่ การจัดนิทรรศการประวัติศาสตร์ของการทอผ้าบ้านโคกหม้อ การจัดตั้งกลุ่มทอผ้าไหมลายโบราณบ้านโคกหม้อ และการจัดแสดงผ้าทอลายโบราณบ้านโคกหม้อ การสาธิตการสาวไหม การสาธิตการฟอกย้อมสีเส้นไหม การสาธิตการมัดหมี่เส้นไหม การสาธิตการทอผ้าไหม (การจก และขิด) การจัดแสดงผลงานผลิตภัณฑ์ผ้าไหม ของกลุ่ม “แต้มตะกอ” ผ้าไหมลายโบราณบ้านโคกหม้อ การจัดแสดงผลงานผลิตภัณฑ์ผ้าไหม และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผ้าไหมของกลุ่มเกษตรกรเครือข่ายในพื้นที่ อำเภอทัพทัน และจังหวัดอุทัยธานีซึ่งแหล่งท่องเที่ยวนี้พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว เยาวชน เกษตรกร นักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป เป็นแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาหม่อนไหมและช่องทางสร้างรายได้ให้กับชุมชนในระยะยาว
015
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี