ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) Operation Endgame : Bullet Express "ปิดเกมส์ กระสุนส่งด่วน"  
 
​ตามนโยบายของ พล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน​ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ร้ายสำคัญ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอร.ตร.)โดย พล.ต.อ. ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. และศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ตามนโยบายพิเศษของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศนรด.ตร.) โดย พล.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี
ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป.,พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์, พ.ต.ท.อภิชน ขันกา,พ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ์, พ.ต.ท.กฤษฎา พลายละหาร และ พ.ต.ท.รัฐวิรุฬห์ จันทสุบรรณ รอง ผกก.1 บก.ป.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)สถานที่จับกุม กรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่างๆ
      
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เปิดปฏิบัติการครั้งใหญ่ภายใต้ชื่อ “ยุทธการ ธรณีนี้ มีขื่อมีแป” เพื่อกวาดล้างอิทธิพลเถื่อน แก๊งมาเฟีย และอาชญากรรมร้ายแรงทั่วประเทศ เพื่อปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง ทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดและ อาวุธสงครามสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยให้กับประชาชน โดยกองบังคับการปราบปราม ตรวจค้น 32 จุด จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 16 ราย ยึดอาวุธปืน 23 กระบอก ยึดกระสุนปืน 564 นัด

​หลังจากนั้นกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้ทำการสืบสวน ตามนโยบายของผู้บัญชาการ ตำรวจแห่งชาติ ที่มีคำสั่งให้ระดมกวาดล้างอาวุธปืนเถื่อนทั่วประเทศ โดยมุ่งเป้าปราบปรามแหล่งจำหน่าย   ผ่านช่องทางออนไลน์ และยึดอาวุธที่อาจนำไปใช้ในการก่อเหตุอาชญากรรม จากการสืบสวนเชิงลึก จึงได้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องหาซึ่งลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนและกระสุนผ่านช่องทางออนไลน์ ช่องทางหนึ่ง ​กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ได้ให้ความสำคัญกับคดีที่เกิดขึ้นในสังคมที่ทวีความรุนแรงขึ้น อยู่บ่อยครั้ง โดยหลายๆครั้ง มีการใช้อาวุธปืน เป็นเครื่องมือในการก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการสืบสวนร่วมกับบริษัทขนส่งเอกชน เพื่อสืบหาแหล่งที่มาของการซื้อขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ที่เกี่ยวข้องกับ   กรณีในครั้งนี้

​ต่อมาวันที่ 5 มิถุนายน 2568  กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จึงได้เปิดปฏิบัติการ Operation Endgame: Bullet Express "ปิดเกมส์ กระสุนส่งด่วน" เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 22 จุด กรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่าง ๆ และได้จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 12 ราย ดังนี้

1. นายฤทธิ์ชัยฯ​ ​อายุ 45 ปี
2. นายเกียรติศักดิ์ฯ    ​อายุ 27 ปี
3. นายปฏิพัทธ์ฯ   ​​อายุ 22 ปี
4. นายศราวุธฯ    ​​อายุ 32 ปี
5. นายโตมรฯ  ​​อายุ 32 ปี
6. นายภูวดลฯ ​​อายุ 25 ปี
7. นายฉัตรวัตต์ฯ ​​อายุ 40 ปี
8. นายพนมฯ ​​อายุ 31 ปี
9. นายณัฐวุฒิฯ ​​อายุ 20 ปี
10. น.ส.วรรณิภาฯ ​​อายุ 51 ปี
11. นายบุญถิ่นฯ ​​อายุ 53 ปี  
12. นายครรชิตฯ  ​​อายุ 27 ปี

พร้อมตรวจยึดของกลางที่ใช้ไว้สำหรับตรวจสอบ

1. อาวุธปืนสั้น ชนิดกึ่งอัตโนมัติ ​จำนวน 6 กระบอก
2. ปืนยาวชนิดเดี่ยวลูกซอง ​​จำนวน 5 กระบอก
3. ปืนยาวชนิดเดี่ยวลูกกรด ​​จำนวน 5 กระบอก
4. ปืนลูกโม่ ​​​​จำนวน 1 กระบอก
5. ปืนไทยประดิษฐ์ ​​​จำนวน 1 กระบอก
6. กระสุนปืนหลายขนาด ​​จำนวน 31,538 นัด
 
​เบื้องต้นผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อหา “ ร่วมกันมี หรือจำหน่าย ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืน สำหรับการค้าโดย ไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” และถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งขยายผลถึงเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการต่อไป

ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาลำดับที่ 2–12 ซึ่งบางรายมีพฤติการณ์เป็นผู้สั่งซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจากนายฤทธิ์ชัยฯ (ผู้ต้องหาลำดับที่ 1) ได้ให้การรับสารภาพว่า ได้สั่งซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจาก  นายฤทธิ์ชัยฯ จริง โดยรู้จักกันผ่านช่องทางออนไลน์แห่งหนึ่ง โดยนายฤทธิ์ชัยฯ จะเป็นผู้จัดส่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนให้กับผู้สั่งซื้อผ่านบริการขนส่งเอกชน เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่

ส่วนนายฤทธิ์ชัยฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) หลังจากถูกจับกุม ได้สมัครใจให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวน โดยยินยอมนำเจ้าหน้าที่ไปตรวจยึดอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเพิ่มเติมอีกเป็นจำนวนมาก จากการสอบสวนพบว่า นายฤทธิ์ชัยฯ มีความชื่นชอบอาวุธปืนเป็นการส่วนตัว และมีใบอนุญาตให้มีอาวุธปืน  ในครอบครองหลายกระบอก ซึ่งเป็นช่องว่างที่นายฤทธิ์ชัยฯ ใช้ในการจัดซื้อเครื่องกระสุนปืนจากแหล่งต่าง ๆ มาเก็บสะสมไว้หลากหลายขนาด เพื่อนำมาจำหน่ายต่อให้กับลูกค้าซึ่งเป็นสมาชิกในกลุ่มออนไลน์ต่าง ๆ  โดยกระทำลักษณะนี้ต่อเนื่องมานานหลายปี ทั้งที่ตนเองไม่มีใบอนุญาตให้เป็นผู้จำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนตามกฎหมายแต่อย่างใด

การจับกุมครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของยุทธการเชิงรุกภายใต้นโยบายเร่งด่วนของ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ความสำคัญกับการควบคุมอาวุธปืนในสังคมไทย โดยเฉพาะการป้องกันเหตุรุนแรงในพื้นที่สาธารณะ และการก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัย สำหรับการจำหน่ายอาวุธปืน และเครื่องกระสุน โดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายโดยตรง หรือผ่านช่องทางออนไลน์ ล้วนเป็นความผิดร้ายแรง ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนเหล่านี้ ล้วนเป็นต้นเหตุของการนำไปใช้ในการกระทำความผิด

ทั้งนี้ ผู้ใดพบเบาะแส บุคคลมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับอาวุธปืนหรือยาเสพติด หรือมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงต่อผู้อื่น เป็นภยันตรายต่อสังคม สามารถแจ้งเบาะแสมายังเพจ “ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)” เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมดำเนินการตรวจสอบตามที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ