ตำรวจ บช.ก.หรือ CIB จับมือตำรวจออสเตรเลียเปิดปฏิบัติการ FireStorm ทลายแก๊งคอลฯ จับกุม 13 ชาวต่างชาติ เช่าบ้านพักหรู ตุ๋นเหยื่อออสซี่ สูญเงินกว่า 40 ล้านบาท เคยทำมาแล้วในต่างแดนนาน 20 ปี

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก.พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส.พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท.พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส.พร้อมคณะ ร่วมกับ Ms.Kristie -Lee Cressy Senior Officer เจ้าหน้าที่อาวุโส Australia Federal Police (AFP) แถลงผลการปฏิบัติการ Firestorm ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ จับกุมผู้ต้องหา 13 ราย

สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ประกอบด้วย 1.Mr.Brett Peter Dawson อายุ 51 ปี สัญชาติออสเตรเลีย 2.Mr.Lewis Samuel Gillespie อายุ 30 ปี สัญชาติอังกฤษ 3.Mr.Nicholas John Mason อายุ 43 ปี สัญชาติออสเตรเลีย 4. Mr.Mark Dennis อายุ 54 ปี สัญชาติออสเตรเลีย 5.MR.Ellis Ian James อายุ 59 ปี สัญชาติอังกฤษ 6.Mr.Mark Mackenzie อายุ 61 ปี สัญชาติอังกฤษ 7.Mr.JeremyFortoenอายุ 44 ปี สัญชาติ แอฟริกาใต้ 8.Mr.ChistopherPepenaอายุ 48 ปี สัญชาติออสเตรเลีย 9.Mr.Dean Crowley อายุ 42 ปี สัญชาติอังกฤษ 10.Mr.Mark Andrew Howshipอายุ 56 ปี สัญชาติอังกฤษ 11.Mr.Lewis Robbie อายุ 40 ปี สัญชาติอังกฤษ 12.MR.luke Cameron Campbell อายุ 45 ปี สัญชาติออสเตรเลีย และ 13.MR.Szeto Kwok Chi อายุ 58 ปี สัญชาติแคนนาดา ยึดของกลางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเอกสารต่างๆ อาทิ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เน็ตเวิร์ค โน้ตบุ๊ก สคริปท์การพูดจาชักชวนลงทุน และโทรศัพท์มือถือ รวม 58 รายการจับกุมได้ที่บ้านพักพื้นที่หมู่ 9ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีในข้อหาอั้งยี่, เป็นคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ประกอบอาชีพหรือรับจ้างทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ AFP สืบสวนพบกลุ่มบุคคลซึ่งเป็นขบวนการกระทำความผิดหลอกลวงประชาชน (แก๊งคอลเซ็นเตอร์) ประเทศออสเตรเลีย ย้ายถิ่นฐานเข้ามาอาศัยในประเทศไทย และจัดตั้ง Boiler room (คอลเซ็นเตอร์) เพื่อหลอกลวงชาวออสเตรเลียให้ร่วมลงทุนพันธบัตร อ้างว่าให้ผลตอบแทนสูง มีกำหนดระยะเวลาในการคืนทุนเป็นเวลาประมาณ 1-3 ปี โดยให้ผลตอบแทนคงที่ร้อยละ 7-10 ต่อปี ที่ผ่านมามีผู้หลงเชื่อและเกิดความเสียหายอย่างมาก จึงประสานขอให้ตำรวจไทย ช่วยติดตามกลุ่มผู้กระทำผิด ซึ่งทาง CIB ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันสืบสวนจนทราบว่าหัวหน้าขบวนการนี้เป็นชาวออสเตรเลีย และอังกฤษ มีการกระทำผิดลักษณะนี้มาแล้ว 20 ปี จากต่างประเทศ ก่อนย้ายเข้ามาในประเทศไทย

จากการตรวจสอบและติดตามพฤติการณ์ พบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้ามาอยู่ที่พัทยา จ.ชลบุรี ตั้งแต่ช่วงต้นปี2567 และย้ายมา กทม.ซึ่งตัวการหลัก ได้นัดพบที่โรงแรมแห่งหนึ่ง บนถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม.เจ้าหน้าที่จึงแกะรอย ติดตามจนพบว่ามีการเข้ามาอาศัยในบ้านพักพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ โดยมีการเช่าอยู่ ที่ผ่านมา จะมีรถเข้าออกตลอดในเวลาประมาณ 05.00 น.และเวลา 15.30 น.ซึ่งตรงกับเวลาในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

เมื่อสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนแน่ชัด จึงขออำนาจศาลอาญาออกหมายและเข้าตรวจค้น ซึ่งเจ้าหน้าที่พบชาวต่างชาตินั่งอยู่ภายในห้องโถงชั้น 1 ลักษณะมีแผงกั้นระหว่างบุคคล คล้ายกับสำนักงาน โดยผู้ต้องหากำลังโทรศัพท์อยู่ทุกโต๊ะ มีเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คโทรศัพท์มือถือเอกสารที่เป็นสคริปต์หรือบทให้พูด ข้อความต่างๆ และพันธบัตรที่ขบวนการดังกล่าวชักชวนเหยื่อให้มาลงทุน นอกจากนี้พบข้อมูลรายชื่อบุคคลชาวออสเตรเลียกว่า 14,000 ราย

อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลียอยู่ระหว่างตรวจสอบของกลางรายการต่างๆ โดยในส่วนของรายชื่อ มีการยืนยันแล้วว่าบางส่วนถูกขบวนการนี้หลอกลวงจริง ส่วนการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเกิดความเสียหายแล้วมากกว่า 2 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือกว่า 40 ล้านบาท

สำหรับข้อมูลการเดินทางของผู้ต้องหาทั้งหมดจากระบบสารสนเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) พบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเพื่อทำงาน และจากการสอบสวน เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่า ไม่ได้รับอนุญาตฯ ในการทำงาน รวมทั้งไม่มีใบอนุญาตทำงาน แต่ยังคงให้การปฏิเสธว่า มีเพื่อนชักชวนและพบเห็นประกาศหางานผ่านทางเว็บไซต์ ก่อนจะมาทำงานที่บริษัทแห่งนี้ โดยมีค่าตอบแทนประมาณ 3,000 เหรียญออสเตรเลีย รวมทั้งค่าคอมมิชชั่น ร้อยละ 2.5 ซึ่งจะต้องทำหน้าที่คอยโทรศัพท์ชักชวนลูกค้ามาร่วมลงทุนกับบริษัทฯ มี Mr.Mark Dennis อายุ 54 ปี สัญชาติออสเตรเลีย และ Mr.Mark Andrew Howshipอายุ 56 ปี สัญชาติอังกฤษ2 ใน 13 ผู้ต้องหา เป็นหัวหน้า

ทั้งนี้ สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 13คน เดินเข้าประเทศไทยด้วยวีซ่าที่แตกต่างกัน และไม่ได้อยู่เกินกำหนด หรือโอเวอร์สเตย์โดยหลังจากนี้จะเพิกถอนวีซ่า และขึ้นบัญชีดำ หรือแบล็กลิสต์เพื่อไม่ให้กลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก

ด้านMs.Kristieกล่าวว่า ผู้เสียหายในประเทศออสเตรเลีย มีจำนวนมาก เฉพาะช่วง 4 ปีที่ผ่านมาพบมูลค่าความเสียหายกว่า 4.45 พันล้านเหรียญออสเตรเลีย โดยมีการฟอกเงินผ่านช่องทางคริปโตเคอร์เรนซี่