ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับตำรวจไซเบอร์ และตำรวจท่องเที่ยว นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านในหมู่บ้านชื่อดังย่าน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จับกุมชาวเวียดนาม รวม 7 คน พร้อมของกลาง เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ 23 เครื่อง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวนมาก

กรณีดังกล่าวมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สืบสวน ปราบปราม ตม.จ.ปทุมธานี ได้ออกตรวจสอบบุคคลต่างด้าว
ในพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อมาถึงหมู่บ้านดังกล่าว พบเจ้าหน้าที่ รปภ. แจ้งเบาะแส ว่า ซอย 2 ของหมู่บ้าน มีคนต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม พักอาศัยอยู่หลายคน มีพฤติการณ์มั่วสุม มีการขนคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ในลักษณะมีพิรุธ จึงได้นำมาตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว

เบื้องต้น พบว่าบ้านเปิดประตูรั้วบ้านไว้ เจ้าหน้าที่ได้ตะโกนเรียก ต่อมามีชาวเวียดนาม 1 คน ออกมาพบเจ้าหน้าที่ และ ขอให้นำตรวจสอบในบ้าน โดยมี รปภ.หมู่บ้าน ร่วมตรวจสอบด้วย ต่อมาพบชาวเวียดนามอีก 1 คน อยู่ภายในบ้าน แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่รีบวิ่งหนีขึ้นข้างบนบ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ ขึ้นไปตรวจสอบที่ชั้น 2 พบ ชาวเวียดนามอีก 5 คน นั่งทำงาน อยู่หน้าจอคอมฯ จึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง แต่มี 6 คน ที่มีหนังสือเดินทางมาแสดง ส่วนอีก 1 คน ไม่มี

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบคอมพิวเตอร์ พบรายการเงินกู้หลายรายการ เช่น จำนวนเงินต้นแปดล้านดอง คิดเป็นเงินไทย 10,030 บาท และข้อมูลระบุลูกหนี้ต้องจ่ายเงิน 265,000 ดองต่อวัน (332 บาท) รวม 40 งวด ซึ่งคำนวณเป็นอัตราดอกเบี้ยได้ร้อยละ 32.5 ต่อ 40 งวด ซึ่งเกินกว่าอัตราดอกเบี้ยที่กฎหมายกำหนด…

สอบถามชาวเวียดนามกลุ่มดังกล่าวให้ข้อมูลว่า ทำหน้าที่เป็นแอดมิน ปล่อยเงินกู้ ให้กับชาวเวียดนาม ที่ประเทศ เวียดนาม โดยโฆษณาชักชวนให้กู้เงินบนเฟซบุ๊กชาวเวียดนาม เมื่อชาวเวียดนามสนใจทักมาหา พวกตนจะรวบรวมข้อมูล ของลูกค้า ให้ลูกค้าลบบัญชี iCloud ในโทรศัพท์และพวกตนจะสร้างบัญชี iCloud ใหม่ให้ลูกค้าล็อกอินเข้าโทรศัพท์ของลูกค้าเอง เพื่อให้สามารถควบคุมติดตามการใช้โทรศัพท์ของลูกค้าได้ หากผิดนัดชำระ และหากไม่คืนเงินตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จะล็อก iCloud ลูกค้าไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์ ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวในเวียดนาม ถือว่า มีโทษรุนแรง จึงแอบมาลักลอบเข้ามาทำในไทย ทั้งนี้การทวงหนี้ ก็ผิดกฎหมายไทย

เบื้องต้นควบคุมตัวทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา ดำเนินคดีในหลายข้อหา เช่น เป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย (เป็นอั้งยี่), เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 และ มาตรา 8 ประกอบ มาตรา 101 พ.ร.ก.การบริหารการจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560