ตร.ผนึกกำลังทุกภาคส่วน เปิดแคมเปญ “รีบโอนโจรยิ้ม” ชวนคนไทย "Strike Back” โต้กลับภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์
วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ร่วมกับ คุณตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป, รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงศ์ พูตระกูล รองอธิการบดี/ประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต, คุณสถาพร คิ้วสุวรรณสุข ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด และคุณสุกัณณี เลิศสุขวิบูลย์ หัวหน้าสายงานธุรกิจต่างประเทศและบริการดิจิทัล บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติผนึกกำลังทุกภาคส่วนเปิดตัวแคมเปญ “รีบโอนโจรยิ้ม” ภายใต้โครงการ “Thai Cyber Ranger“ เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน โดยผ่านเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ และภาคธุรกิจต่างๆ ร่วมถึงภาครัฐ ที่จะช่วยกันในการเผยแพร่ข่าวสาร เพื่อให้คนไทยคิดก่อนโอนรู้ทันโจร
สำหรับแคมเปญ “รีบโอนโจรยิ้ม” อยู่ภายใต้โครงการ “Thai Cyber Ranger” ถือกำเนิดขึ้นภายใต้แนวคิดอันสะท้อนภาพของภัยใกล้ตัวในยุคดิจิทัลอย่างชัดเจน ด้วยการรณรงค์ในชื่อ “รีบโอน โจรยิ้ม” ซึ่งเปรียบเสมือนการเตือนสติประชาชนให้รู้เท่าทันเล่ห์กลของมิจฉาชีพในโลกไซเบอร์ เพื่อมุ่งเน้นการสร้างภูมิคุ้มกันทางดิจิทัล ให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตบนโลกออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย รู้เท่าทันกลลวงอันซับซ้อนที่ซ่อนอยู่หลังหน้าจอ โดยมีเป้าหมายสำคัญที่สุดคือ ประชาชนปลอดภัย ไม่โอนเงินให้มิจฉาชีพ วัตถุประสงค์หลักของโครงการนี้ คือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ให้ประชาชนระวังตัวก่อน “คลิก” ทุกครั้ง กล้าตั้งคำถามก่อน “เชื่อ” ทุกข้อความ ใช้วิจารณญาณก่อน “โอน” ทุกบาท โดยการกระตุ้นให้ตระหนักถึงภัยคุกคามทางเทคโนโลยีที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงเวลาของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการใช้โทรศัพท์มือถือ การใช้งานโซเชียลมีเดีย หรือการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์
พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า สำหรับมาตราการในการประสานโอนเงินคืนให้กับผู้เสียหายนั้น เป็นเรื่องที่ทางตำรวจให้ความสำคัญ โดยในเรื่องนี้ทางตำรวจไซเบอร์จะเป็นผู้ดำเนินการ หากส่วนไหนที่สามารถตรวจสอบเส้นเงินและสามารถอายัดเส้นเงินได้ทัน ก็จะทำการโอนเงินคืนให้กับผู้เสียหาย ซึ่งภาพรวมตอนนี้สามารถคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้จำนวน 2,220 ล้านบาท แต่การอายัดเงินยังทำได้น้อย เนื่องจากกว่าผู้เสียหายจะรู้ตัว เงินก็กระจายไปหลายที่แล้ว
“ขณะนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งวอร์รูม โดยร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย กสทช. และหน่วยงานต่างประเทศ UNOTC เพื่อจะติดตามทุกคดีที่เกิดขึ้นทุกคดี คาดว่าจะเรียบร้อยภายในกลางเดือนหน้า” จตช. กล่าว
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ตั้งเป้าหมายเข้าถึงประชาชนไม่น้อยกว่า 10 ล้านคนในช่วง 2 เดือนแรก และคาดว่าสามารถช่วยลดจำนวนคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่มีมูลค่าความเสียหายไม่เกิน 1 ล้านบาท (ซึ่งปัจจุบันคิดเป็นกว่า 90% ของคดีทั้งหมด) ได้ไม่น้อยกว่า 10% ภายในสิ้นปีนี้
015
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี